การนำเข้าและส่งออกในด่ายชายแดนมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น

เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 กิจกรรมการนำเข้าและส่งออกในด่านชายแดนระหว่างประเทศ Kim Thanh II จังหวัด Lao Cai (ประตูชายแดนหลักสำหรับการนำเข้าและส่งออกสินค้าของเวียดนาม) คึกคักมากขึ้น ในบริเวณด่านชายแดนมีรถบรรทุกต่อแถวเพื่อนำเข้า ส่งออกสินค้าระหว่างเวียดนามและจีน นาย ฟาม วัน ฟู๊ก (Pham Van Phuc) รองผู้อำนวยการศุลกากรด่านชายแดน Lao Cai กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 กิจกรรมนำเข้าและส่งออกเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการนำเข้าและส่งออกรวมเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 54 โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกรวมมีมูลค่า 159     ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และมูลค่าการนำเข้า 73 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในช่วงปีใหม่เวียดนาม 2567 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกผ่านด่านชายแดนระหว่างประเทศหมายเลข Kim Thanh II มีมูลค่าประมาณ 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับในช่วงปีใหม่เวียดนาม 2566 สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ผลไม้สด เช่น แก้วมังกร ทุเรียน กล้วย แตงโม และ เงาะ เป็นต้น สินค้าเกษตร ผัก เคมี ปุ๋ย เครื่องจักร อุปกรณ์ เป็นต้น รายรับจากภาษีนำเข้าและส่งออกสูงถึง 140,200 ล้านด่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566

ศุลกากรด่านชายแดนลาวกายระบุว่า ในปี 2566 ผู้ประกอบการทั้งหมดที่เข้าร่วมในกิจกรรมการนำเข้าและการส่งออกผ่านด่านชายแดนลาวกายมี 670 ราย รายรับภาษีนำเข้าและส่งออกมีมูบค่า 817,880 ล้านด่ง บรรลุเป้าหมายร้อยละ 87.9 ของเป้าหมายที่กำหนดโดยกระทรวงการคลังเข้าถึงร้อยละ 60 ของเป้าหมายของสภาประชาชนในจังหวัดลาวกาย

นาย ฟาม วัน ฟู๊ก (Pham Van Phuc) กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 กิจกรรมการนำเข้าและส่งออกกลับมามีการเติบโตมากขึ้น การดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้รับมอบหมายจะเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น

ในปี 2566 แม้จะยากลำบาก แต่ผลการดำเนินงานและบรรลุเป้าหมายของศุลกากรลาวกายก็ยังบรรลุผลสำเร็จ โดยมูลค่าการนำเข้าและส่งออกรวมในปี 2566 มีมูลค่ามากกว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กิจกรรมการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจของผู้ประกอบการทั่วประเทศรวมถึงในจังหวัดลาวกายจะเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น คำสั่งไม่มาก ผลผลิตต่ำ มูลค่าต่ำ ราคาส่งออกต่ำ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยสูง เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกลดลง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อกิจกรรมการนำเข้าและส่งออก โครงการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อสร้างสินทรัพย์ถาวรโดยพื้นฐานแล้วเสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์จึงลดลง ส่งผลให้รายรับงบประมาณลดลงอย่างมาก

หลังการแพร่ระบาดของไวรัส Covid- 19 ที่จีนได้ส่งเสริมนโยบายการจัดการสินค้าส่งออกและนำเข้า รวมถึงนโยบาย    การจัดการผลิตภัณฑ์ เพิ่มอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าและส่งออก การจัดการที่เข้มงวดของด่านชายแดนรองและช่องเปิดส่งผลกระทบอย่างมากต่อกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกของธุรกิจผ่านประตูชายแดนรอง แม้จะมีความยากลำบากอย่างมาก แต่กรมศุลกากรลาวกายได้พยายามและเพิ่มการดำเนินงาน เช่น การปฏิรูปขั้นตอนการบริหาร และการปรับปรุงศุลกากรให้ทันสมัย การดำเนินการตาม “Customer Service Declaration” (ตามกฤษฎีกาที่ 815/CT-TCHQ ของกรมศุลกากร) โดยให้คำแนะนำ สนับสนุน และตอบปัญหาของผู้ประกอบการอย่างเสมอและทันทีผ่านหลายรูปแบบ เช่น การตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษร ตอบทางพอร์ทัลอิเล็กทรอนิกส์ ตอบตรงที่กรมศุลกากร ให้คำแนะนำทางโทรศัพท์

(จาก https://en.vietnamplus.vn/)

ข้อคิดเห็น สคต

เวียดนามมีระบบการขนส่งทางบกที่ครอบคลุมทุกจังหวัดและเมืองสำคัญทั่วประเทศ และเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งช่วยให้การนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆ ที่มีชายแดนติดกับเวียดนามเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีน นอกจากเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯ แล้ว ในด้านการนำเข้า จีนยังเป็นซัพพลายเออร์เครื่องจักร อุปกรณ์และวัตถุดิบชั้นนำของเวียดนาม ด้วยการที่จีนเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 และออกมาตรการส่งออกสินค้าจากเวียดนามไปยังจีนจะไม่ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 อีกต่อไป เป็นการอำนวยความสดวกและส่งเสริมการส่งออกและนำเข้าระหว่างจีนและเวียดนามได้เป็นอย่างมาก

ในช่วงที่ผ่านมา เวียดนามยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของจีน โดยทั้ง 2 ประเทศมุ่งมั่นที่จะบรรลุการเติบโตที่ยั่งยืนในด้านการค้าต่างๆ ไม่ว่าสินค้าเกษตรและประมง จัดตั้งและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานสินค้าข้ามพรมแดน ด้วยการมีส่วนร่วมของธุรกิจจากทั้งสองประเทศ และบรรลุผลลัพธ์ที่มั่นคงในความร่วมมือด้านการเกษตรและการพัฒนาชนบท โดยเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ในปี 2566 การเติบโตของ GDP สูงถึงร้อยละ 4.5 โดยจีนมีความต้องการสินค้าเกษตร ป่าไม้และการประมงของเวียดนาม โดยสินค้าเกษตรเวียดนามส่งออกไปยังจีนผ่านด่านชายแดนในมณฑลกวางสีและยูนนานมีมากกว่าร้อยละ 70 เป็นสินค้าเกษตร จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดและตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับสองของเวียดนาม ภายใต้บันทึกความเข้าใจ ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะร่วมกันพัฒนาความร่วมมือด้านการเกษตรและการพัฒนาชนบท ตลอดจนส่งเสริมการค้าและการลงทุนในภาคเกษตรกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืนในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ และการจัดตั้งและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานการผลิตฟาร์ม ข้ามพรมแดนโดยมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการจากทั้งสองประเทศภายในสามปีข้างหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายกำลังพัฒนาเป็นไปในทางที่ดี รวมถึงการตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการค้า จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมพัฒนาการค้าทวิภาคี ระหว่างเวียดนามและจีน เพื่อช่วยให้สินค้าเกษตร ป่าไม้ และการประมง เวียดนามเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคปลายทางในจีนได้มากยิ่งขึ้น

thThai