fb
มุมมองของภาคเอกชนต่อผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น

มุมมองของภาคเอกชนต่อผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น

ลงเมื่อ 22 กรกฎาคม 2568 14:35
24

ผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พรรครัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยพรรค LDP และ Komeito สูญเสียเสียงข้างมาก และกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยทั้งในสภาสูง และสภาผู้แทนราษฎร โดยสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอิชิบะ ชิเกรุ สะท้อนจากมุมมองของภาคส่วนต่างๆ ดังนี้ 

ความเห็นของภาคธุรกิจ

สมาคมเศรษฐกิจคันไซ (Kansai Keizai Doyukai) เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงภาวะผู้นำ และเร่งรัดการดำเนินนโยบายเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ดังนี้ 

  • สร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการปรับเพิ่มค่าจ้างให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

  • ปฏิรูปตลาดแรงงาน โดยเร่งปรับปรุงกฎระเบียบ และโครงสร้างตลาดแรงงานให้ทันสมัยสอดรับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยุคใหม่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

  • ยกเลิก หรือผ่อนปรนกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ

  • ปฏิรูประบบภาษี และระบบประกันสังคม ให้มีความยืดหยุ่น และความเหมาะสมกับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรองรับประชากรทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้มีการอภิปรายเชิงนโยบายโดยยึดหลักข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง และเน้นย้ำความสำคัญของการชี้แจงแหล่งงบประมาณอย่างโปร่งใส พร้อมกำหนดแนวทางที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่เสถียรภาพทางการคลังระยะยาว

ความเห็นจากภาคการเงิน และนักลงทุน

ตลาดการเงินญี่ปุ่นยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปตามคาดจึงยังไม่มีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น โดยสถาบันการเงิน อาทิ GCI Asset Management, Nissei และบริษัทหลักทรัพย์ Mitsubishi UFJ Morgan Stanley วิเคราะห์ประเด็นที่ตลาดติดตาม และให้ความสำคัญมากกว่าผลการเลือกตั้ง คือ ทิศทางของนโยบายเศรษฐกิจการคลัง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การปฏิรูประบบภาษี และการจัดการหนี้สาธารณะ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น และการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะกลาง-ยาว

ดัชนี Nikkei 225 สัปดาห์นี้ คาดการณ์การเคลื่อนไหวในกรอบ 39,000 - 40,000 เยน โดยนักลงทุนรอดูความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ ซึ่งจะมีเหตุการณ์สำคัญ อาทิ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการประกาศผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Tesla และ Intel ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในญี่ปุ่นด้วย

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจ และตลาดทุนคาดหวังให้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ เป็นแรงผลักดันให้รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินการคลัง และพร้อมรับมือกับความท้าทายจากภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนแรงงาน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ที่มา: 

  1. Kansai Keizai Doyukai https://www.kansaidoyukai.or.jp/rs_comment/%e7%ac%ac27%e5%9b%9e%e5%8f%82%e8%ad%b0%e9%99%a2%e8%ad%b0%e5%93%a1%e9%80%9a%e5%b8%b8%e9%81%b8%e6%8c%99%e3%81%ae%e7%b5%90%e6%9e%9c%e3%81%ab%e3%81%a4%e3%81%84%e3%81%a6/

  2. Reuters Japan https://jp.reuters.com/markets/japan/funds/2H7N5AVE3FMPRIWEKTF4HRL2UY-2025-07-21

  3. Reuters Japan https://jp.reuters.com/opinion/forex-forum/YGO3P3WBGNOYPDZ465QNIW3E5Y-2025-07-20

  4. NHK https://www.nhk.or.jp/senkyo/

Share :
Instagram