
BYD (Build Your Dreams) บริษัทผู้ผลิตยานยนต์และเทคโนโลยีชั้นนำของจีน เดินหน้าขยายศักยภาพการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างต่อเนื่อง โดยเลือกเมืองซีอานเป็นฐานยุทธศาสตร์สำคัญในภาคตะวันตกของประเทศ เพื่อรองรับทั้งการผลิต การวิจัยพัฒนา และการส่งออกสู่ตลาดโลก
BYD ก่อตั้งในปี 1995 ที่เมืองเซินเจิ้น โดยหวัง ชวนฟู (Wang Chuanfu) เริ่มต้นจากธุรกิจแบตเตอรี่ ก่อนเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2003 ปัจจุบัน BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก แซงหน้า Tesla ตั้งแต่ปี 2022 และมีโรงงานกระจายอยู่ในหลายประเทศ เช่น ไทย บราซิล ฮังการี และอินโดนีเซีย
ซีอาน: “หัวใจ” ของสายการผลิต BYD
โรงงาน BYD ซีอาน ถือเป็นฐานการผลิต EV ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท มีกำลังผลิตกว่า 1 ล้านคันต่อปี ผลิตรุ่นหลัก เช่น BYD Qin, Tang, Song Plus, Yuan Plus (Atto 3) เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังยุโรป ตะวันออกกลาง และอาเซียน
นอกจากการประกอบรถยนต์ โรงงานแห่งนี้ยังเป็นศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต Blade Battery ที่มีความปลอดภัยสูงและอายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งกลายเป็นเทคโนโลยีหลักของ BYD ทั่วโลก
ทำเลเชื่อมโลก – ศูนย์กลาง Silk Road แห่งใหม่
ซีอานตั้งอยู่บนเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมใหม่ (Silk Road Economic Belt) เป็นจุดเชื่อมระหว่างจีนกับยุโรป เอเชียกลาง และตะวันออกกลาง BYD จึงสามารถใช้เครือข่ายรถไฟสายยุโรป–จีน (China–Europe Railway Express) เพื่อส่งออกรถยนต์ไปยังต่างประเทศได้รวดเร็วและต้นทุนต่ำ
รัฐบาลท้องถิ่นยังให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและที่ดินราคาพิเศษตามนโยบาย “Western Development Strategy” (西部大开发) เพื่อดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีและยานยนต์ไฟฟ้า
ระบบนิเวศอุตสาหกรรมครบวงจร
ซีอานมีซัพพลายเชนที่ครบวงจร ตั้งแต่ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงแบตเตอรี่ รวมทั้งมีมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำ เช่น Xi’an Jiaotong University ที่ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
ค่าแรงในพื้นที่ยังต่ำกว่าภาคตะวันออกของจีน ขณะเดียวกันแรงงานมีทักษะสูง ทำให้ซีอานเป็นจุดเหมาะสมสำหรับการผลิตเชิงปริมาณและลดต้นทุน
ศูนย์กลางยุทธศาสตร์ของ BYD ในจีนตะวันตก
BYD มองซีอานไม่เพียงเป็น “โรงงานผลิต” แต่คือ “ศูนย์กลางยุทธศาสตร์ระดับโลก” ที่ผสาน 3 แกนหลักเข้าด้วยกัน ได้แก่
• การผลิต ฐานผลิต EV ขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัท
• โลจิสติกส์ จุดเชื่อมการส่งออกสู่ตลาดโลกผ่านเส้นทางสายไหมใหม่
• นวัตกรรม แหล่งพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่และระบบอัจฉริยะ
ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็น สคต. เฉิงตู
1. เรียนรู้จากโมเดล “ซีอาน” สู่ “EEC” ของไทย รัฐบาลไทยสามารถใช้โมเดลซีอานเป็นต้นแบบในการพัฒนา Eastern Economic Corridor (EEC) ให้เป็นศูนย์กลางการผลิต EV และแบตเตอรี่ครบวงจร โดยผนวกทั้งภาคอุตสาหกรรม การวิจัย และระบบโลจิสติกส์เข้าด้วยกัน
2. สร้างระบบสนับสนุนเชิงพื้นที่ (Local Incentive Zone) เหมือนกรณีรัฐบาลซีอานที่ให้สิทธิพิเศษทางภาษีและโครงสร้างพื้นฐานแก่ผู้ลงทุน หากไทยต้องการดึงดูดผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น BYD, CATL หรือ Tesla ควรออกแบบ “EV Innovation Zone” ที่มีแรงจูงใจชัดเจนและยืดหยุ่น
3.พัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ภูมิภาค ซีอานเชื่อมกับยุโรปผ่านทางรถไฟไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟจีน–ลาว และโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเชื่อมการขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจีนตะวันตก
4.ส่งเสริมการวิจัยร่วมภาคเอกชน–มหาวิทยาลัย แบบอย่างจาก Xi’an Jiaotong University แสดงให้เห็นพลังของการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับภาคอุตสาหกรรม ไทยควรเร่งสร้างศูนย์ R&D ด้านแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าร่วมกับมหาวิทยาลัยในประเทศ
5. ยกระดับซัพพลายเชนในประเทศ เพื่อรองรับการผลิต EV อย่างยั่งยืน ไทยต้องพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น วัสดุแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และระบบจัดการพลังงาน เพื่อไม่ให้พึ่งพาการนำเข้าเพียงอย่างเดียว
กล่าวโดยสรุป โรงงาน BYD ซีอาน คือ “ตัวอย่างเชิงรูปธรรม” ของการบูรณาการนโยบายภาครัฐ นวัตกรรมเทคโนโลยี และยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ระดับภูมิภาค ซึ่งช่วยให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกด้านยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับประเทศไทย การเข้าใจและประยุกต์แนวทางนี้คือ “กุญแจสำคัญ” สู่การสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่มีห่วงโซ่มูลค่าในประเทศอย่างแท้จริง
----------------------------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ตุลาคม 2568
แหล่งข้อมูล : https://carnewschina.com
http://www.bydglobal.com