ศุลกากรเมืองฉางซาออกมาตรการสนับสนุนการพัฒนาด่านรถไฟหวายฮั่ว

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ศุลกากรเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ประกาศ 10 มาตรการ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาระดับสูงของด่านรถไฟนานาชาติหวายฮั่ว (Huaihua International Land Port, 怀化国际陆港) ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเร่งสร้างศูนย์กระจายสินค้าสู่กลุ่มประเทศอาเซียน และการบูรณาการเข้ากับระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก (New Western Land and Sea Corridor) ของจีน

เมืองหวายฮั่วเป็นสมาชิกกลไกความร่วมมือ "13+2" ของระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก และเป็นศูนย์กระจายสินค้าสู่อาเซียนแห่งเดียวของหูหนาน ซึ่งทำให้ด่านรถไฟหวายฮั่วได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยในครึ่งปีแรกได้เปิดเดินรถไฟระหว่างประเทศ 601 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้มีรถไฟจีน-ลาว 165 เที่ยว ติดอันดับ 1 ของภาคกลางจีน  

ประสิทธิภาพการขนส่งที่เพิ่มขึ้นทำให้ระยะเวลาการขนส่งผลไม้จาก สปป.ลาวถึงหวายฮั่วลดลงเหลือไม่ถึง 4 วัน ข้อมูลครึ่งปีแรกแสดงให้เห็นว่า หวายฮั่วนำเข้าผลไม้ผ่านระบบห่วงโซ่ความเย็นมีจำนวน 816 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่า 37.78 ล้านหยวน โดยทุเรียน ลำไย และกล้วย จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าสู่ตลาดหูหนานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคของหูหนานเป็นอย่างมาก 

10 มาตรการนี้มุ่งเสริมสร้างกลไกความร่วมมือ ยกระดับศักยภาพการทำงาน เพิ่มความคล่องตัวในการเคลียร์พิธีศุลกากร และสนับสนุนอุตสาหกรรม โดยเป็นความต่อเนื่องจาก 18 มาตรการในปี 2565 ที่ช่วยให้ด่านรถไฟหวายฮั่ว และการค้าต่างประเทศได้มีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งทำให้สินค้า E-commerce ข้ามพรมแดนใช้เวลาเพียง 30 ชั่วโมงก็ส่งมาถึงมลฑลหูหนาน ผลไม้จากอาเซียนใช้เวลา 3 วัน และการผ่านด่านของแป้งมันสำปะหลังที่ยกประสิทธิภาพได้มากขึ้นร้อยละ 50 

10 มาตรการ ส่งเสริมมีดังนี้

1. เสริมสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างสำนักงานศุลกากร 

ส่งเสริมการใช้กลไกความร่วมมือ "การสนับสนุนร่วมกันของศุลกากรภูมิภาคเพื่อการสร้างระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก" เสริมสร้างความร่วมมือกับศุลกากรตามแนวเส้นระเบียงการขนส่งฯ ยกระดับประสิทธิภาพการเดินรถไฟจีน-ลาว จีน-เวียดนาม และระบบขนส่งแบบทางราง+ทางทะเล

2. ขยายขอบเขตการทำงานของด่าน 

เร่งศึกษาการเปิดให้บริการที่กว้างขึ้นของด่าน ผลักดันให้ด่านรถไฟหวายฮั่วเข้าสู่แผนพัฒนา "แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 12" ของจีน สนับสนุนการก่อตั้งเขตทดลองการค้า E-commerce ข้ามพรมแดนหวายฮั่ว

3. สนับสนุนการก่อสร้างสถานที่ตรวจสอบกักกันสินค้าของศุลกากร   

ให้การสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์กลางขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบหวายฮั่ว วางแผนจัดสรรพื้นที่ตรวจสอบและกักกันสินค้าและศูนย์ตรวจสอบสินค้า E-commerce ข้ามพรมอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมก่อสร้างคลังสินค้ารวมตู้สำหนับสินค้าทัณฑ์บนที่นำเข้า และสินค้าส่งออกที่จำนวนไม่มาก

4. บูรณาการเข้ากับระบบดิจิทัลสำหรับระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก

ส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลดิจิทัล นำร่องโครงการอัจฉริยะ เช่น ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ "QR Code เดียว" เพื่อดำเนินระบบเอกสารเดียว/ตู้คอนเทนเนอร์เดียวที่เป็นรูปธรรมในหวายฮั่ว

5. ปฏิรูประบบการตรวจสอบศุลกากร 

ขยายรูปแบบการพิธีการศุลกากร เช่น “การยื่นสำแดงล่วงหน้า "การส่งมอบสินค้าที่ข้างขบวนรถไฟ" และ “การผ่านด่านที่รวดเร็วสำหรับสินค้านำเข้าและส่งออก” ดำเนินการควบคุมสินค้าแบบ "ด่านรถไฟ+เขตเศรษฐกิจ" และ "ด่าน+จุดขนถ่าย" เพื่อให้การรับรองประสิทธิภาพการผ่านด่านเร็วกว่าระดับเฉลี่ยของประเทศ

6. ยกระดับความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดน 

ขยายการทดลองโมเดลการค้ากับฮ่องกง-มาเก๊า เช่น "ไม่มีการเปลี่ยนตู้ระหว่างทาง" และ "ผักสดและผลไม้รวมตู้สามารถพิธีการศุลกากรรวมกัน ปรับปรุงระบบตรวจสอบสินค้าแร่/อาหารนำเข้า สนับสนุนให้หวยฮว่าเป็นศูนย์กลางรวบรวมสินค้าอาเซียนที่ขนส่งผ่านทางรถไฟ ศูนย์กลางรวบรวมสินค้า E-commerce ข้ามพรมแดน ศูนย์กลางจัดซื้อสินค้านำเข้า และศูนย์กาลางกระจายสินค้าห่วงโซ่ความเย็นของภาคกลางของจีน 

7. สนับสนุนสร้างอุตสาหกรรมรอบด่านรถไฟ

มุ่งเน้นระบบอุตสาหกรรม "5+10" ที่ทันสมัยของหวายฮั่ว สนับสนุนการนำเข้าแร่/แป้งมันสำปะหลัง ส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์กระเป๋าและสินค้าเกษตร

8. ใช้ประโยชน์จากข้อมูลสถิติและงานวิจัย 

วิเคราะห์โซ่อุปทานการค้าอาเซียนและ RCEP ศึกษากฎระเบียบและอุปสรรคทางเทคนิคของ RCEP สร้างกลไกร่วมระหว่างรัฐบาล ศุลกากรและเอกชนเพื่อตอบสนองความท้าทาย ส่งเสริมการสำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารให้มากขึ้น

9. ช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทการค้า

จัดกิจกรรม "ส่งนโยบาย แก้ปัญหา ยกระดับบริการ" ช่วยบริษัทผ่านการรับรอง AEO ใช้ประโยชน์จาก นโยบายของ RCEP ส่งเสริมนโยบายการคืนภาษี และลดค่าขนส่งภายในประเทศ เป็นต้น

10. เสริมสร้างความร่วมมือข้ามหน่วยงาน 

กระชับความร่วมมือการทำงานระหว่างหย่วยงานภาครัฐของหูหนาน เพื่อส่งเสริมให้ยกระดับประสิทธิภาพการพิธีการศุลกากรของด่านรถไฟหวายฮั่วอย่างครบวงจร

สิ่งที่น่าสนใจคือ ด่านรถไฟหวายฮั่วมีบทบาทสำคัญในเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ของภาคกลางในจีนมากขึ้น โดยช่วงครึ่งปีแรก ได้นำเข้าแป้งมันสำปะหลังกว่า 40,000 ตัน ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปในท้องถิ่นได้พัฒนาไปด้วยคุณภาพสูง พร้อมทั้งศุลกากรให้ความสำคัญกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่นส่งออกสู่ตลาดโลก 

มาตรการล่าสุดนี้คาดว่าจะเสริมบทบาทของหวายฮั่วในฐานะช่องทางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ สนับสนุนหูหนานให้เป็นพื้นที่เปิดสู่ภายนอกใหม่ของภาคกลางจีน และเชื่อมโยงกับตลาด RCEP อย่างมีประสิทธิภาพ

ความเห็นของ สคต. ณ เมืองหนานหนิง ด่านรถไฟนานาชาติหวายฮั่ว ตั้งหยู่เมืองหวายฮั่ว โดยเมืองหวายฮั่วเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของมณฑลหูหนาน เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของของ “ระเบียงการขนส่งทางบกเชื่อมกับทางทะเลใหม่แห่งภาคตะวันตก” เป็นเมืองจุดเชื่อมต่อที่สําคัญเพียงแห่งเดียวในมลฑลหูหนานที่รวมอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งชาติของเส้นทางดังกล่าว ปัจจุบันมีเส้นทางทางขนส่งสินค้ากับประเทศอาเซียนทั้งหมดเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่ 

1. ทางบก+ทางราง (ทางรถไฟสายจีน-ลาว)

ไทย – เวียงจันทน์ – โม่ฮาน – หวายฮั่ว ระยะเวลาในการขนส่งประมาณ 4 วัน

2. ทางบก+ทางราง (เส้นทางรถไฟจีน – เวียดนาม)

ไทย – โฮจิมินห์ – ฮานอย – ผิงเสียง – หวายฮั่ว ระยะเวลาในการขนส่งประมาณ 5 วัน

3. ทางเรือ+ทางราง (ผ่านอ่าวเป่ยปู้)

ท่าเรือของไทย – ท่าเรือชินโจว (อ่าวเป่ยปู้) เขตฯ กว่างซีจ้วง - เมืองหลิ่วโจ เขตฯ กว่างซีจ้วง – เมืองหวายฮั่ว - มณฑลหูหนาน ระยะเวลาในการขนส่งประมาณ 8 วัน  

ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ใช้บริการการขนส่งสินค้าเข้าสู่หวายฮั่วผ่าน 3 เส้นทางดังกล่าวแล้ว สินค้านำเข้าที่มากที่สุด คือ แป้งมันสำปะหลัง และสินค้าเกษตร เช่น ผลไม้สด ดังนั้น ด่านรถไฟหวายฮั่วถือว่าเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์ส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดมณฑลหูหนาน รวมถึงกระจายไปยังตลาดภูมิภาคจีนตอนกลาง โดยเฉพาะในการใช้โมเดลขนส่งในรูปแบบเรือต่อรางที่ผ่านท่าเรือชินโจว หรือผ่านทางรถไฟจีน-ลาว จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย และหากผู้ประกอบการประสงค์ขอข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สคต.ณ เมืองหนานหนิง ผ่านทาง Email: thaitcnanning@ditp.go.th

-----------------------------------------------------------------------

แหล่งที่มา  https://mp.weixin.qq.com/s/FoK-sFqgGb4ORa4tQSx8-Q

https://news.qq.com/rain/a/20250723A026GP00?refer=cp_1009&scene=qqsearch

https://mp.weixin.qq.com/s/FoK-sFqgGb4ORa4tQSx8-Q?scene=1&click_id=6

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง