หน้าหลัก
/
หน้าหลักสถานการณ์การค้าในต่างประเทศ
/
ประเด็นร้อน/เจาะลึกตลาดโลก
/
เมืองชิงต่าวเร่งพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์หลายรูปแบบรองรับ BRI
เมืองชิงต่าวเร่งพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์หลายรูปแบบรองรับ BRI
จีน/ฮ่องกง/ไต้หวัน
•
โลจิสติกส์
เจาะลึกตลาดโลก (Deep insight into the global market)
BRI
ขนส่ง
จีน
ชิงต่าว
ท่าเรือชิงต่าว
รถไฟจีน
เอเชีย
เอเชียตะวันออก
โลจิสติกส์
โลจิสติกส์จีน
โดย
•
ลงเมื่อ 16 กรกฎาคม 2567 10:12
7
ชิงต่าวเป็นเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือฝั่งตะวันออกของจีน ทั้งนี้ รัฐบาลเมืองชิงต่าว เร่งสร้างความได้เปรียบด้านโลจิสติกส์โดยการเชื่อมโยงการขนส่งหลายรูปแบบ ‘เรือ+ราง’ ที่มีประสิทธิภาพ ตามแนวเส้นทางนโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) ส่งผลให้ชิงต่าวเป็นหนึ่งในแลนมาร์คการกระจายสินค้าสำคัญที่สนับสนุนห่วงโซ่อุปทานการค้าที่เข้มแข็งของจีน
ทางทะเล
ท่าเรือชิงต่าว (Qingdao port)
เปิดดำเนินการเมื่อปี 2435 ตั้งอยู่ใจกลางกลุ่มท่าเรือทะเลป๋อไห่ และกลุ่มท่าเรือริมสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งที่ตั้งของท่าเรือชิงต่าวถือเป็นศูนย์กลางของท่าเรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นศูนย์การค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของแปซิฟิกตะวันตก อีกทั้งยังเป็นท่าเรือที่หนาแน่นที่สุดในภาคเหนือของจีน เป็นศูนย์ขนส่งกระจายสินค้านำเข้าและส่งออก รวมถึงน้ำมันดิบ แร่ และถ่านหิน ปัจจุบันเป็นท่าเรือที่ใหญ่อันดับ 6 ของโลก โดยในปี 2566 มีปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 660 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เชื่อมโยงกับท่าเรือต่างๆ กว่า 700 แห่ง จาก 180 ประเทศ และมีเส้นทางขนส่งสินค้ากว่า 200 เส้นทาง โดย
ท่าเรือชิงต่าวครอบคลุม
4 เขต
ได้แก่
1) เขตท่าเรือต้าก่าง
รองรับสินค้าประเภทธัญพืช เหล็ก อลูมินา (Alumina) ปุ๋ย และสินค้าอื่นๆ ทั่วไป
2) เขตท่าเรือเฉียนวานก่าง
เป็นท่าเรือขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นอันดับที่ 14 ของโลก เป็นพื้นที่รองรับการขนส่งสินค้าประเภทภาชนะโลหะ แร่ถ่านหิน เยื่อกระดาษ และสินค้าอื่นๆ ทั่วไป
3) เขตท่าเรือหวงต่าวโหยวก่า
ง รองรับการขนส่งสินค้าประเภทของเหลวและน้ำมัน และเป็นคลังน้ำมันขนาดใหญ่ มีความสามารถในการขนส่งน้ำมัน 30 ล้านตันต่อปี ใหญ่ที่สุดในจีน
4
) เขตท่าเรือตงเจียโข่วก่าง
เป็นท่าเรือศูนย์กระจายสินค้าเทกองแห่งชาติ คลังสินค้าพลังงานที่สำคัญ และแหล่งค้าแร่ที่ใหญ่ที่สุดในจีน
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินการเชิงรุกในการเปิดเส้นทางการค้าระหว่างท่าเรือชิงต่าวกับประเทศ Belt and Road Initiative (BRI)
- เดือนสิงหาคม 2565 ท่าเรือชิงต่าวได้เปิดเส้นทางตรงสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 เส้นทาง เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศสมาชิก RCEP ได้แก่ ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย โดย 3 ใน 5 เส้นทางนี้ เป็นการขนส่งระหว่างจีนและท่าเรือแหลมฉบังของไทย ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางการขนส่งสินค้าระหว่างมณฑลซานตงและไทยให้มีขยายตัวยิ่งขึ้น
- เดือนกรกฎาคม 2566 ท่าเรือชิงต่าวเปิดเส้นทางการขนส่ง ตงเจียโข่ว (Dongjiakou) – ทะเลดำ (Black Sea) ออกเดินทางจากท่าเรือตงเจียโข่ว (ชิงต่าว) ไปยังท่าเรือลาร์นากาในประเทศไซปรัส
- เดือนตุลาคม 2566 ท่าเรือชิงต่าวเพิ่มเส้นทางตรงไปยังท่าเรือมอมบาซา ประเทศเคนย่า โดยบริษัทเดินเรือ Evergreen Shipping, CMA CGM และ Orient Overseas ตามนโยบาย BRI ของจีน
- เดือนมกราคม 2567 เปิดเส้นทางเมืองชิงต่าว – สิงคโปร์ เป็นการเพิ่มช่องทางที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสําหรับการเชื่อมโยงตลาดอาเซียน
ทางราง
“รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรป CHINA RAILWAY EXPRESS”
ตามเป้าหมายนโยบาย BRI ในการ
เชื่อมโยงโลจิสติกส์หลายรูปแบบระหว่างประเท
ศ
ทั้งทางทะเล ทางบก ทางอากาศ และทางราง โดยจากข้อมูลในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พบว่าเมืองชิงต่าวได้ให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปแล้ว จำนวน 520 ขบวน 22 เส้นทางระหว่างประเทศ เชื่อมต่อ 54 เมืองของประเทศตามเส้นทาง BRI และ 23 เมืองของประเทศสมาชิก SCO (The Shanghai Cooperation Organization) ซึ่งข้อได้เปรียบของรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปนี้ คือ การจัดส่งที่ตรงต่อเวลา ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน และยังเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเลแล้วสามารถประหยัดเวลาได้ถึงร้อยละ 25 และมีค่าใช้จ่ายเพียงร้อยละ 12.5 - 16.66 ของการขนส่งทางอากาศ ซึ่งช่วยผู้ประกอบการประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนในการขนส่ง
นอกจากนี้ เมื่อเดือนมกราคม 2567 รัฐบาลเมืองชิงต่าวยังได้เสนอให้มีการ
พัฒนาอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ห่วงโซ่ความเย็น และการขนส่งทางรถไฟรูปแบบอื่นๆ
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมนโยบายที่ดีสำหรับการปรับปรุงคุณภาพ และประสิทธิภาพของนวัตกรรมการบริการของรถไฟจีน (ชิงต่าว) ไปยังยุโรป โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 รถไฟขบวนพิเศษตู้แช่เย็น BX1X ขบวนแรกได้ถูกส่งจากศูนย์การขนส่งในเขต SCO และออกจากท่าเรือบก Manzhouli ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ไปยังสถานี Seryazino ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งสามารถขนส่งสินค้าที่อุณหภูมิ –30 °C ถึง 30 °C รับประกันอุณหภูมิคงที่ตลอดทาง ให้บริการแก่ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกอาหารสดและห่วงโซ่ความเย็นขยายตลาดต่างประเทศ
Qingdao China-Europe Railway Express เดินหน้าขยายขอบเขตและช่องทางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศที่ปลอดภัย มั่นคง และมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นมา รถไฟขนส่งสินค้าจีน – ยุโรป จากเขตสาธิต SCO ได้ลำเลียงสินค้าไปยังเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยมีการจัดส่งสินค้าทุกวันพฤหัสบดีให้กับบริษัท Haier Group, Hisense Group, Linglong Tyre รวมถึงบริษัทอื่นๆ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา รถไฟขนส่งสินค้าจีน – ยุโรป ได้บรรทุก
เครื่องจักรและอุปกรณ์ คาร์บอนแบลค ยางพารา และสินค้าอื่นๆ
ออกจากศูนย์กลางการขนส่งของเขต SCO และคาดว่าจะถึงเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ภายใน 18 วัน และสินค้าบางส่วนจะถูกลำเลียงทางรถไฟต่อไปยังเมืองเบลเกรดของประเทศเซอร์เบีย ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่ขนส่งในรถไฟขบวนนี้จะเป็นแม่พิมพ์และวัตถุดิบที่โรงงานเซอร์เบียของบริษัท Linglong Tyre ซึ่งรองประธานบริษัท Linglong Tyre ได้เปิดเผยว่า การขนส่งวัสดุขนาดใหญ่นี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรป แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่
สนับสนุนความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน
ของโรงงาน Linglong Tyre ที่เซอร์เบีย ให้สามารถผลิตยางคุณภาพสูงออกสู่ตลาดยุโรปอย่างต่อเนื่อง เป็นการวางรากฐานการพัฒนาในระยะยาวของโรงงานด้วย
นอกจากนี้ ในปีนี้ บริษัท Shandong High-speed Qilu Eurasian Express Operation Co., Ltd. ร่วมกับบริษัท Atasu Group ได้ชนะการประมูลโครงการขนส่งยานยนต์ของบริษัท ฮุนไดมอร์เตอร์ ประเทศเกาหลีใต้ โดยสินค้าจะถูก
ขนส่งทางทะเลเชื่อมต่อทางราง
จากท่าเรือที่เกาหลีใต้ (เรือ) – ท่าเรือเฉียนวาน เขตหวงต่าว เมืองชิงต่าว (เรือ) – รถไฟเจียวหวง (รถไฟสายสั้น) – ศูนย์ตู้คอนเทนเนอร์ของ CRCT (China Railway Container Transportation Co., Ltd.) เขตเจียวโจว และเปลี่ยนถ่ายไปยังรถไฟ China-Europe Railway Express - สู่ สถานี Brenda Field เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน โดยช่วงครึ่งปีแรกนี้ได้ทำการขนส่งรถยนต์ล็อตแรกไปแล้วจำนวน 197 คัน และคาดว่าตลอดทั้งปีจะขนส่งรถได้มากถึง 2,000 คัน ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ยังได้จัดส่งรถยนต์ให้กับบริษัท CHERY ไปแล้ว 3,060 คัน คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านหยวน (2,000 ล้านบาท) ด้วยวิธีเดียวกันนี้เช่นกัน
ทางอากาศ
ในปี 2566
สนามบินชิงต่าวได้รับเลือกให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งชาติประเภทสนามบิน
โดยในปีที่ผ่านมาสนามบินชิงต่าวมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศและไปรษณีย์ราว 260,800 ตัน กลายเป็นสถิติใหม่ของสนามบินชิงต่าว โดยมีปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปริมาณ 126,500 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.1 เมื่อเทียบกับปี 2562 สร้างสถิติใหม่ทั้งปริมาณต่อวัน ต่อเดือน และต่อไตรมาส
ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา สนามบินชิงต่าวได้เปิดเส้นทางใหม่ในประเทศไปยังเมืองเอ้อโจว หูเป่ย์ เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน และฟื้นคืนเส้นทางประเทศสมาชิก RCEP ได้แก่ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมืองโอซาก้า และเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งขยายเส้นทางขนส่งข้ามทวีป เช่น ลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก โตรอนโต แวนคูเวอร์ และมอสโก เป็นต้น โดยเส้นทางชิงต่าว – โตรอนโต ถือเป็นเส้นทางหลักที่สำคัญของห่วงโซ่อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซจีน-แคนาดา
ในปีนี้ (2567)
ศูนย์ควบคุมการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ และศูนย์การขนส่งทางอากาศและทางบก จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ
ซึ่งจะช่วยให้การผ่านพิธีการทางศุลกากรและการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรสำหรับการค้าข้ามพรมแดนมีความสะดวกมากขึ้น ลดระยะเวลาจาก 3 - 5 ชั่วโมง เหลือเพียง 1.3 ชั่วโมง สามารถรับสินค้าและส่งสินค้าได้ภายในวันเดียวกัน นอกจากนี้ เมืองชิงต่าวยังอยู่ระหว่างวางแผนการสร้างศูนย์ขนถ่าย/ขนส่งสินค้าที่สำคัญอีก 3 ด้าน ได้แก่ (1)
ศูนย์ขนถ่ายสินค้าทางอากาศภาคเหนือ
เพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้านำเข้า
ผลิตภัณฑ์ของสด
เข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่แข็ง สัตว์น้ำสำหรับบริโภค เช่น กุ้งก้ามกรามจากแคนาดา และปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ รวมทั้ง ผลไม้ ต้นกล้าพืช และเนื้อสัตว์ ฯลฯ (2)
การสร้างระบบขนถ่ายสินค้าพิเศษในภาคเหนือ
อาทิ ผลิตภัณฑ์อันตราย และสินค้าที่มีขนาดยาว/ใหญ่เป็นพิเศษ และ (3)
การสร้างระบบขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภาคเหนือ
เพื่อรองรับการให้บริการรถบรรทุกจากทั่วทุกภูมิภาคของจีนที่มายังเมืองชิงต่าว การโอนถ่ายสินค้าของสายการบินในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นระบบเครือข่ายการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพและเชื่อมต่อกันทั้งในและต่างประเทศ
ความเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว
เมืองชิงต่าวเป็นอีกเมืองสำคัญที่มีศักยภาพทั้งด้านเศรษฐกิจ และการคมนาคม ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลซานตง ประชาชนมีรายได้ต่อหัวอยู่ในระดับสูง มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนจากต่างประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก และเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่สำคัญติดอันดับโลกและระดับประเทศ อีกทั้งภาครัฐยังมีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง เป็นที่ตั้งของเขตสาธิต SCO และ RCEP การมีเส้นทางโลจิสติกส์ที่สะดวกและทันสมัยอย่างท่าเรืออัตโนมัติ และเทคโนโลยีการขนส่งสินค้าบริเวณท่าเรือ การเชื่อมต่อระบบขนส่งทางน้ำกับทางราง ทางอากาศกับทางราง ทางน้ำกับทางราง รวมทั้งการควบคุม และพัฒนาคุณภาพการให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เส้นทางโลจิสติกส์ของเมืองชิงต่าวที่สามารถเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย ตรงต่อเวลา ไม่เพียงเป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมความเข้มแข็งให้แก่ห่วงโซ่อุปทานของจีน แต่ยังเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตหลักของเมือง อาทิ ยางพารา มันสำปะหลัง อาหารและอาหารทะเลสด/แช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้ และเคมีภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าจากไทยมายังเมืองชิงต่าวเป็นปริมาณมาก อย่างไรก็ดี ประเทศไทยและเมืองชิงต่าวมีความเชื่อมโยงโลจิสติกส์ ‘โดยตรง’ ระหว่างกันไม่มากนัก โดยปัจจุบันมีสายการบินตรงกรุงเทพฯ – เมืองชิงต่าว เพียง 2 สายการบิน การขนส่งทางเรือจากท่าเรือของไทย-ท่าเรือชิงต่าว
ขาออก
คิดเป็นร้อยละ 1.48 ของการขนส่งทางเรือจากไทยไปจีน และ
ขาเข้า
คิดเป็นร้อยละ 3.29 ของการขนส่งทางเรือจากจีนมาไทย และการขนส่งข้ามแดนทางรถยนต์และรถไฟลาว-จีน จากตอนใต้ของจีนมาสู่ตอนเหนือของจีน ซึ่งหากมีการผลักดันการขยายเส้นทางการค้าให้เพิ่มมากขึ้น ย่อมส่งผลให้การค้าระหว่างไทย-จีนตอนเหนือ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงขยายโอกาสทางการค้าไปยังภูมิภาคตะวันออกและตะวันตกของโลกได้ด้วย
******************************
แหล่งที่มา
(1)https://baike.baidu.com/item/%E9%9D%92%E5%B2%9B%E6%B8%AF/2470848?fr=ge_ala
(2)https://m.163.com/dy/article/HEGETRAS05229TNA.html?use_xbridge3=true&loader_name=forest&need_sec_link=1&sec_link_scene=im
(3) https://baijiahao.baidu.com/s?id=1786432335414154615&wfr=spider&for=pc
(4) https://baijiahao.baidu.com/s?id=1779541493327991912&wfr=spider&for=pc
(5) https://www.163.com/dy/article/IO1DUMAT0530KEJV.html
(6) https://baijiahao.baidu.com/s?id=1799309810475063428&wfr=spider&for=pc
(7) https://sdxw.iqilu.com/share/YS0yMS0xNTczOTc2MQ==.html
(8) https://www.163.com/dy/article/INHTLK6O0514CFC7.html
(9) https://www.163.com/dy/article/INHTLK6O0514CFC7.html
Share :