fb
รัฐทมิฬนาฑูเร่งผลักดันเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับเขตชายฝั่ง

รัฐทมิฬนาฑูเร่งผลักดันเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับเขตชายฝั่ง

โดย
lawrencee@ditp.go.th
ลงเมื่อ 24 กรกฎาคม 2568 15:21
22

รัฐบาลรัฐทมิฬนาฑูได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) อย่างจริงจังครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับมหาสมุทร ทะเล และชายฝั่ง โดยอาศัยศักยภาพของชายฝั่งทะเลซึ่งมีความยาวถึง 1,069 กิโลเมตร ซึ่งยาวเป็นอันดับสองของอินเดีย รองจากรัฐคุชราต เพื่อเป็นกลไกสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในเขตชายฝั่ง ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งของรัฐ โดยมียุทธศาสตร์หลัก ดังนี้

  1. การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือ รวมถึงท่าเรือเอกชน พื้นที่เศรษฐกิจชายฝั่ง และการเดินเรือ

  • ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุน Maritime Development Fund มูลค่า 25,000 ล้านรูปี และนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมต่อเรือฉบับใหม่ (SBFAP 2.0) มูลค่า 18,090 ล้านรูปี

  • ตั้งเป้าดึงนักลงทุนหลักเพื่อลงทุนตั้งอู่ต่อเรือ สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรม (value chain) สำหรับ MSMEs ในสาขาวิศวกรรม โลจิสติกส์ และบริการทางทะเล

  • Guidance Tamil Nadu คาดว่าอุตสาหกรรมต่อเรือจะเริ่มเดินหน้าภายใน 1 ปี

  • เปิดให้เอกชนลงทุนในพื้นที่ชายฝั่งความยาวกว่า 1,069 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาท่าเรือเชิงพาณิชย์และท่าเรือเฉพาะกิจ โดยมีระยะเวลาสัมปทานระยะยาว 30–99 ปี

  • คณะกรรมการท่าเรือรัฐทมิฬนาฑู (TNMB) ได้ระบุพื้นที่ที่เหมาะสมจำนวน 8 แห่งสำหรับการพัฒนาท่าเรือใหม่ (greenfield ports) ได้แก่ Kanyakumari Coast, Manapad, Vizhunthamavadi, Vanagiri, Silmbimangalam, Marakkanam, Panaiyur และ Mugaiyur โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่อยู่ในเขตสิ่งแวดล้อมเปราะบาง และมีศักยภาพในด้านความลึก การคมนาคม และโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลแห่งรัฐทมิฬนาฑู ยังมีเป้าหมายดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรมอาหารทะเล อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยว (cruise) อีกด้วย

  1. การพัฒนาอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเล

  • ตั้งเป้าสร้างระบบ "จากจับสู่ส่งออก" ครบวงจร โดยสร้างและพัฒนาระบบควบคุมอุณหภูมิ (cold chain) โรงงานบรรจุภัณฑ์ และโรงงานแปรรูปใกล้หมู่บ้านประมง

    • ตั้งเป้าหมายส่งออกอาหารทะเลปีละ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมุ่งเน้นการแปรรูปภายในรัฐ เพื่อลดการส่งออกวัตถุดิบที่มีมูลค่าต่ำ และยกระดับมูลค่าเพิ่มของสินค้าให้สามารถแข่งขันกับรัฐอานธรประเทศ ซึ่งส่งออกสินค้าอาหารทะเลมูลค่า 2.6 แสนล้านรูปีอินเดียต่อปี ขณะที่ปัจจุบันรัฐทมิฬนาฑูมีมูลค่าการส่งออกเพียง 8 หมื่นล้านรูปีอินเดียต่อปี หรือประมาณ 930 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ทมิฬนาฑูจะมีชายฝั่งยาว แต่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐอันดับ 7 ของอินเดียในการส่งออกอาหารทะเล คิดเป็นสัดส่วนเพียง ร้อยละ 5 ของปริมาณการส่งออกทั่วประเทศ

    • นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเพิ่มมูลค่า (value addition) ผ่านการอบรมแรงงาน เช่น การแข่งขัน "Seafood Value Addition Skill Olympiad" ที่จัดขึ้นโดย The Marine Products Export Development Authority (MPEDA)

  1. การส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งและวิสาหกิจชุมชน

    • พัฒนารีสอร์ตแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมทางน้ำ และประสบการณ์ทางวัฒนธรรม โดยรัฐบาลแห่งรัฐทมิฬนาฑูอยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่ง

    • มีแผนจัดฝึกอบรมเยาวชนในเขตชายฝั่งผ่านโครงการ Naan Mudhalvan เพื่อสร้างผู้ประกอบการและแรงงานท้องถิ่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

สำหรับตัวอย่างของการดำเนินงานตามนโยบายเศรษฐกิจสีน้ำเงินของรัฐทมิฬนาฑู เช่น เขต Thoothukudi มีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลและกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของชาวประมง สำหรับพันธุ์สาหร่ายหลักที่ปลูก ได้แก่ Kappaphycus alvarezii ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และใช้เป็นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมยา ปุ๋ยชีวภาพ อาหารสัตว์ พลังงานชีวภาพ และเครื่องสำอาง โดยมีราคาขายสาหร่ายแห้งสูงถึง 80–90 รูปีต่อกิโลกรัม โดยพื้นที่ชายฝั่งที่มีการเพาะเลี้ยงอย่างหนาแน่น ได้แก่ Sippikulam, Pattinamarudhur, Vellapatti, Mullakadu และ Pullaveli 

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากรัฐบาลแห่งรัฐทมิฬนาฑู แต่ยังมีอุปสรรคบางประการในการดำเนินงาน เช่น โรคภัยและผลกระทบภัยธรรมชาติ

ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ

จากการพัฒนาเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) ของรัฐทมิฬนาฑู ผู้ประกอบการไทยอาจใช้โอกาสนี้ในการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจในการลงทุนและร่วมทุนในอุตสาหกรรมประมง อาหารทะเล แปรรูป หรืออุตสาหกรรมเรือ โดยสามารถพิจารณาร่วมลงทุนในโครงการเขตอุตสาหกรรมชายฝั่งของทมิฬนาฑู โดยเฉพาะพื้นที่ Greenfield ที่เปิดรับการลงทุนระยะยาวถึง 99 ปี รวมถึงการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการแปรรูปอาหารทะเล เทคโนโลยีการต่อเรือขนาดเล็ก หรือระบบโลจิสติกส์ทางทะเลร่วมกับนักธุรกิจในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดสินค้าไทยในอินเดีย โดยเฉพาะอินเดียตอนใต้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แหล่งอ้างอิง

1. Tamil Nadu sees blue economy as a powerful tool to bring sustainable prosperity to coastal districts. Times of India. Jun 92025. https://timesofindia.indiatimes.com/city/chennai/tamil-nadu-sees-blue-economy-as-a-powerful-tool-to-bring-sustainable-prosperity-to-coastal-districts/articleshow/121712598.cms

2. Tamil Nadu plans to tap its coastline to grow blue economy. The Hindu Business Line. Jul 152025. https://www.thehindubusinessline.com/news/tamil-nadu-plans-to-tap-its-coastline-to-grow-blue-economy/article69815139.ece

3. Tamil Nadu plans seafood exports of $5 bn, sets roadmap for blue economy. Business Standard. Jul 202025. https://www.business-standard.com/economy/news/tamil-nadu-plans-seafood-exports-of-5-bn-sets- roadmap-for-blue-economy-125072000595_1.html.

4. Seaweed cultivation thrives in Thoothukudi, strengthening the blue economy. The Hindu. Jul 212025. https://www.thehindu.com/news/national/tamil-nadu/seaweed-cultivation-thrives-in-thoothukudi/article69918085.ece

Weekly News Page 21 -25 ก.ค. 68 (3).pdf
Share :
Instagram