fb
Lidl รุ่ง...ขยายกองเรือคอนเทนเนอร์ของตัวเอง
โดย
thanith@ditp.go.th
ลงเมื่อ 30 มิถุนายน 2568 15:16
7

นับเป็นก้าวสำคัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อ Lidl บริษัทผู้ค้าปลีกแบบ Discounter ได้สั่งซื้อเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ใหม่ 5 ลำ จากอู่ต่อเรือ Guangzhou Shipyard International ของจีน โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านยูโร (โดยประมาณ) โดยเรือของ Lidl ดำเนินกิจการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ของตนเองภายใต้ชื่อว่า “Tailwind” มาแล้ว 3 ปี ซึ่งเน้นจัดส่งสินค้าจากจีนและบังคลาเทศไปยังร้านค้าของตัวเองกว่า 12,000 แห่ง ทั่วยุโรป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Lidl ดำเนินธุรกิจโดยเน้นส่งสินค้าทางเรือแบบเช่าเหมาลำ และเรือขนส่งสินค้ามือสองขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ใหม่ของบริษัทแต่ละลำสามารถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน (TEU) ได้ 8,400 ตู้ ซึ่ง Tailwind เองก็ได้ออกมายืนยันข้อมูลดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ดีเรือลำใหม่นี้มีนวัตกรรมอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ เมื่อเรือออกเดินทาง เรือไม่จำเป็นต้องเดินทางจากจีนไปยังยุโรปโดยตรงเท่านั้น โดยนับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนเป็นต้นไป บริษัทฯ เปลี่ยนเส้นทาง และวิ่งผ่านศูนย์กลางท่าเรือเมือง Kelang ในมาเลเซีย โดยมีจุดประสงค์หลักอยู่ที่การขยายศักยภาพห่วงโซ่อุปทานของ Lidl ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้ง ยังปกป้องห่วงโซ่อุปทานจากผลกระทบที่ตามมาจากสงครามภาษีที่นาย Donald Trump ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ปล่อยออกมาเรื่อย ๆ เรียกได้ว่า Lidl เป็นผู้ค้าปลีกสัญชาติเยอรมันเพียงรายเดียว ที่ดำเนินกิจการบริษัทขนส่งของตนเอง โดย Tailwind ดำเนินกิจการเรือ 9 ลำ โดยเรือแต่ละลำมีความจุตั้งแต่ 1,200 ถึง 6,800 TEU  เมื่อนำความจุของเรือใหม่ 5 ลำ มารวมด้วยแล้ว Tailwind จะมีความจุรวมเกือบ 80,000 TEU ทำให้บริษัทติดอันดับ 30 บริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปโดยอัตโนมัติ

 

นาย Boris Planer ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีกและที่ปรึกษาจากบริษัท World Retail Congress กล่าวว่า ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกอาหารในยุโรป บริษัทในเครือ Schwarz Group กำลังลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในระยะยาว การดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของบริษัทนั้นเรียกได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของการค้าปลีก การผลิต การกำจัดขยะ และไอที ซึ่ง Schwarz Group ที่เป็นบริษัทแม่ของ Lidl ได้ดำเนินการมาหลายปีแล้ว และในปีนี้เพียงปีเดียว Schwarz Group ได้ลงทุนไปแล้วทั้งหมดสูงถึง 9.6 พันล้านยูโร นาย Planer กล่าวต่อว่า การขยายระบบนิเวศของ Schwarz Group นั้น ก้าวหน้ากว่าคู่แข่งเป็นเวลาหลายปี “ในระยะยาวโมเดลธุรกิจของบริษัทที่ขยายออกไปนี้จะไม่เพียงแต่เป็นแม่แบบสำหรับบริษัทการค้าที่แข่งขันกันเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกด้วย” ข้อได้เปรียบจากการที่มีกองเรือคอน-เทนเนอร์ของบริษัทสามารถแข่งขันกับผู้ค้ารายอื่นนั้น ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา โดยการโจมตีโดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนในทะเลแดง อีกทั้ง ปัญหาหาอากาศอย่างพายุรุนแรงหลายครั้งในทะเลหลวงทำให้การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างเอเชียและยุโรปหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง ผลที่ตามมาคือ อัตราค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล และความจุตู้คอนเทนเนอร์ลดลง ผู้ค้าปลีกหลายรายต่างก็กังวลว่า สินค้าตามฤดูกาลของตนจะไม่มาถึงตรงเวลา ในสถานการณ์เช่นนี้ Lidl สามารถใช้ Tailwind ได้ไม่เพียงแค่เพื่อรักษาห่วงโซ่อุปทานของตนเองเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงดูดลูกค้ารายใหม่ภายนอกเครือบริษัท Schwarz Group อีกด้วย นาย Christian Stangl กรรมการผู้จัดการของบริษัท Tailwind กล่าวว่า ลูกค้าต่างก็ให้ความสนใจในบริการขนส่งของเรามากขึ้น เราสร้างชื่อให้กับตัวเองในตลาดในฐานะผู้ให้บริการระดับ พรีเมียมสำหรับธุรกิจบริการขนส่งสินค้าไปกลับเอเชียด้วยการขนส่งสินค้าจากลูกค้าภายนอกทำให้บริษัท Lidl สามารถใช้ประโยชน์จากเรืออย่างมีประสิทธิภาพในการเดินทางไปกลับเอเชียยุโรป บริษัท Tailwind จัดหาสินค้าจากเอเชียใน 3 เส้นทางหลัก โดยหัวใจสำคัญ คือ บริการที่เรียกว่า Panda Express ซึ่งเรือบรรทุกสินค้าที่สร้างขึ้นใหม่จะถูกนำไปใช้งานเช่นกัน บริการนี้จะเชื่อมต่อท่าเรือชิงเต่าในจีน โดยในอนาคตเรือจะเดินผ่านศูนย์กลางของท่าเรือเมือง Kelang ในมาเลเซีย กับเมืองบาร์เซโลนา จากนั้นจึงไปยังท่าเรือเมือง Koper ในสโลวีเนีย โดยบริษัท Tailwind ระบุว่า การเดินทางจากท่าเรือ Kelang มายังบาร์เซโลนาใช้เวลาประมาณ 26 วัน บริษัทตั้งใจที่จะจอดที่ท่าเรือขนาดเล็กในเส้นทางของตนเพื่อทำให้การขนส่งรวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น โดยจากบาร์เซโลนา บริการ Dolphin Express ของ Tailwind จะขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าที่ไม่ใช่อาหารไปยังเมือง Moerdijk ในเนเธอร์แลนด์ จากนั้นสินค้าจะถูกส่งไปยังร้านค้าของ Lidl ในเยอรมนีด้วย เพื่อส่งสินค้าไปยังร้านค้าในประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตะวันออก บริษัทโลจิสติกส์แห่งนี้ยังให้บริการรถไฟของตนเองที่ดำเนินการโดยบริษัทในเครือ Tailwind Intermodal วันละ 2 ขบวนระหว่างเมือง Koper และ Graz Cargo Terminal ในออสเตรียอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดเกี่ยวข้องกับการเดินเรือสายที่ 3 ที่เรียกว่า Tiger Express Service จนถึงปัจจุบันนี้ บริการนี้ส่งสินค้าจากประเทศบังกลาเทศไปยังเรือที่มุ่งหน้าสู่ยุโรปเท่านั้น โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป Tiger Express Service จะต่อการขนส่งจากประเทศเวียดนาม และมาเลเซียเข้ากับกับเครือข่ายของ Lidl ด้วยเช่นกัน ซึ่งการตัดสินใจนี้มีมีเหตุผลเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญนั้นเอง

 

นาย Nico Peters รองประธานฝ่ายบริหารเชิงพาณิชย์ของบริษัท Tailwind Shipping Lines อธิบายว่า ด้วยบริการในเอเชียนี้เรากำลังสร้างวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมในด้านการขนส่งโดยสามารถขยายความมั่นคงในห่วงโซอุปทาน เช่น สำหรับวัตถุดิบ และวัสดุขั้นกลางในอุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมถึงสำหรับภาคส่วนอื่น ๆ ด้วย การทำเช่นนี้เรามีส่วนสนับสนุนในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้นนั้นเองนอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึง ความยืดหยุ่นระดับสูงที่บริการนี้สามารถมอบให้กับบริษัทอีกด้วย ในอนาคตในโลกธุรกิจความยืดหยุ่นนี้มีแนวโน้มที่จะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการดำเนินการจัดซื้อของ Lidl ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกแบบ Discounter ปัจจุบัน Lidl ยังคงจัดหาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารจำนวนมากจากจีน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ของตกแต่ง และของใช้ในครัวเรือน อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัญหาภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนที่สูงขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ผลิตจำนวนมากจึงกำลังพิจารณาว่า การผลิตในจีนยังคุ้มค่าสำหรับพวกเขาในระยะยาวหรือไม่ ตัวอย่างเช่นบริษัท Shein ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ได้เสนอแรงจูงใจทางการเงิน และรับประกันการสั่งซื้อขั้นต่ำแก่ผู้ผลิตหลัก ๆ หากพวกเขาต้องการย้ายกำลังการผลิตออกจากจีน โดยปัจจุบันมีการย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศเวียดนามมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีต้นทุนแรงงานต่ำ และสามารถขยายกำลังการผลิตรอบ ๆ นครโฮจิมินห์ได้ง่าย นาย Planer ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้ากล่าวว่า เนื่องจากข้อพิพาทเรื่องภาษีศุลกากรและความไม่แน่นอนอย่างมากในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ผู้ค้าปลีกต้องมีความจำเป็นต้องย้ายฐานผลิตสินค้าที่ไม่ใช่อาหารจำนวนมากจากจีนไปยังตลาดทางเลือกอื่น ๆ เช่น มาเลเซียและเวียดนามดังนั้นสายการเดินเรือภายในเอเชียจึงเปิดโอกาสให้ Lidl สามารถเปลี่ยนซัพพลายเออร์ในประเทศอื่น ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นในอนาคต การขยายกิจการได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว Tailwind กำลังปรับใช้เรือลำที่ 2 คือ ASL Peony ซึ่งมีความจุ 1,900 ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อให้บริการระหว่างนครโฮจิมินห์ (เวียดนาม) กับท่าเรือเมือง Kelang (มาเลเซีย) เมืองโคลัมโบ (ศรีลังกา) และเมืองจิตตะกอง (บังกลาเทศ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

จาก Handelsblatt 30 มิถุนายน 2568

Share :
Instagram