fb
บริษัท Kroger ปรับกลยุทธ์โครงสร้างร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วสหรัฐฯ

บริษัท Kroger ปรับกลยุทธ์โครงสร้างร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วสหรัฐฯ

โดย
Pisetsako@ditp.go.th
ลงเมื่อ 02 กรกฎาคม 2568 12:00
10
1

เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568 บริษัท Krogerได้มีการประชุมรายงานผลประกอบการของบริษัทโดยนาย Ronald Sargent ประธานและซีอีโอชั่วคราวของบริษัท ได้ประกาศแผนการปิดร้านซุปเปอร์เก็ต Kroger สาขาที่ไม่ทำกำไรร่วม 60 แห่งทั่วประเทศสหรัฐฯ ภายในระยะเวลา 18 เดือนข้างหน้าแต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อร้านสาขาที่จะปิดอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ พนักงานที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดร้านสาขาจะได้รับข้อเสนอให้ย้ายไปทำงานในร้านสาขาอื่น

แผนปรับโครงสร้างดังกล่าวเพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพในการดำเนินงานในการทำกำไร โดยย้ายยอดขายของร้านสาขาที่จะดำเนินการปิดไปยังร้านสาขาอื่นและมีแผนเร่งการเปิดร้านสาขาแห่งใหม่ในพื้นที่ที่มีการเติบโตสูง หรือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพอย่างร่วม 30 แห่งภายในปีนี้

บริษัท Kroger เป็นห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ มีจำนวนร้านสาขาทั้งหมด 2,731 แห่งใน 35 รัฐ และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. บริษัท Kroger มีห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตภายใต้แบรนด์อื่นๆ อีกหลายชื่อ เช่น ห้างซุปเปอร์มาร์เก็ต Smith’s, Ralphs, King Soopers และ Fred Meyer 

ในทุกๆ ปี บริษัท Kroger จะมีการประเมินผลการดำเนินงานของแต่ละสาขาเป็นประจำทุกปี แต่ในช่วงระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการชะลอการปิดร้านสาขาเพื่อมุ่งเน้นการควบรวมกิจการกับคู่แข่งคือ ห้าง Albertsons อย่างไรก็ตาม แผนการควบรวมกิจการกับห้าง Albertsons ซึ่งมีมูลค่ากว่า 24.6 พันล้านเหรียญสหรัฐตามที่เคยประกาศไว้เมื่อปี 2565 ต้องถูกล้มเลิกไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาหลังจากผู้พิพากษาสองรายได้มีคำสั่งระงับการควบรวมกิจการดังกล่าวเนื่องจากเหตุผลด้านข้อกังวลของการแข่งขันทางการค้า

 

ข้อคิดเเห็น 

จากคำสั่งของศาลที่ระงับการควบรวมกิจการของบริษัท Kroger กับ Albertsons ทำให้บริษัท Kroger ต้องปรับกลยุทธ์โครงสร้างการบริหารการดำเนินงานปรับลดสาขาเพื่อการเติบโต (cut to grow) และเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนิน งาน และขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการลดต้นทุนจากสาขาที่ไม่ทำกำไรแต่ขยายการเปิดสาขาใหม่ในตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งในภาพรวมแสดงให้เห็นว่า บริษัท Kroger ไม่ได้ลดขนาดของธุรกิจแต่เป็นการย้ายจุดการลงทุนไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น เมืองที่มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นและมีกำลังซื้อ หรือ ย่านชุมชนเมืองที่มีอัตราการเติบโตการขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยมีแผนการเปิดสาขาแห่งใหม่ร่วม 30 แห่ง 

อย่างไรก็ตาม แผนนโยบายของบริษัท Kroger ในครั้งนี้ เมื่อมองอีกมิติเป็นการส่งสัญญาณสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐฯ ที่เผชิญกับแรงกดดัน และความท้าทายจากหลายๆ ด้าน เช่น สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลาดแรงงานที่อัตราค่าแรงเพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการขนส่ง และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ประเด็นอัตราภาษีนำเข้า ปัญหาสหภาพแรงงานที่มีการประท้วง ตลาดการแข่งขันของร้านค้าปลีกที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น การเติบโตของตลาด Asian Supermarkets ที่เข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น การแข่งแข่งของตลาดค้าปลีกทางออนไลน์ที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันเริ่มหันมานิยมใช้บริการมากขึ้น   

 

 

 

Weekly News ChicagoWEB-DITP NRA- 2025.pdf
Share :
Instagram