
เป็นปีที่สองที่แบรนด์ Songmont เดินทางสู่ปารีสแฟชั่นวีค หลังจากปีที่แล้วทิ้งความทรงจำในสไตล์ทะเลทราย ปีนี้ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 4 ตุลาคม 2568 พวกเขาจัดสร้างศาลาแห่งกวีตะวันออก ณ อาคารเลขที่ 2 ถนนเซนต์-ซอชัวร์ ในเขตที่ 2 ของกรุงปารีส ใช้สุนทรียศาสตร์ตะวันออกเป็นภาษาที่สื่อสารเรื่องราวจากฝั่งตะวันออกสู่สายตาโลก
สำหรับ VOGUE นี่ไม่ใช่เพียงนิทรรศการ แต่เป็นการถ่ายทอด “มุมมองของเวลาในแบบตะวันออก” เมื่อโลกกำลังมุ่งสู่สิ่งใหม่ Songmont กลับเลือกที่จะหยุดฟัง ให้ผู้ชมได้สัมผัสคุณค่าของ “ความช้า” ในการเล่าเรื่องแบบตะวันออก คล้ายบทเพลงโบราณที่ซ่อนเร้นด้วยบทกวี
ความ “ช้า” นี้ไม่ได้หมายถึงการถอยตัว แต่คือการรู้จักตัวเองและความมั่นใจทางวัฒนธรรมเปิดโอกาสให้โลกเห็นว่าแบรนด์จีนไม่จำเป็นต้องมองตาใครอีกต่อไป แต่มีเสียงของตนเอง ถ่ายทอดสุนทรียภาพจีนอย่างเรียบง่าย สง่างาม และเต็มไปด้วยความประณีตที่ถูกหล่อหลอมด้วยกาลเวลา
บริเวณทางเข้า การจัดวางภูเขาจากแรงบันดาลใจภาพวาดยุคซ่ง “การเดินทางของภูเขา” สูงสองชั้น พร้อมเทคนิค “หยดน้ำ” ระบายลายเส้นหมึกลงบนภูเขา ผู้ชมก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น เหมือนเดินเข้าสู่ภาพม้วนหมึกยาว พื้นที่ระหว่างเสียงและรูปทรงจึงกลายเป็นบทกวี
การแสดงเชิงพื้นที่นี้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของการสื่อสารสุนทรียศาสตร์ตะวันออกอย่างเงียบๆ ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ภายนอก แต่กลายเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้อารมณ์และจังหวะที่ไหลผ่านหัวใจ



ในงานนี้ เหล่าคนดังระดับโลกปรากฏตัวอย่างสง่างาม อาทิ นักแสดงชาวฝรั่งเศส Isabelle Huppert ในโค้ทยาวลายมินิมัล ถือกระเป๋า “Basket” อย่างสงบ นักแสดงอเมริกัน Kelly Rutherford ในโค้ทยาวสีดำ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ไอคอนแฟชั่นอังกฤษ Alexa Chung สวมเทรนช์โค้ทยาว ถือ “Tracking Open Tote Bag” เดินอย่างผ่อนคลาย นักเต้นบัลเลต์ Germain Louvet โชว์ความเรียบง่ายในสไตล์ของตัวเอง ส่วน Ma Shichun กับเส้นสายสีอ่อนของคาราเมลและขี้ม้าให้ความรู้สึกสดชื่นและเยียวยา
ศิลปินและเพื่อนจากทั่วโลก ถือเครื่องดนตรีต่างกันและโพสท่าหลากหลาย ร่วมสร้างเสียงดนตรีอันสงบ ทุกอย่างอยู่ในโทนสีอ่อน อย่างขี้ม้า เทา และเขียวมรกต ทอเป็นป่าสนอันสงบ
เสื้อผ้าและกระเป๋าที่ผลิตจากไม้สนที่เชิงเขาของ Songmont สะท้อนความงามตามธรรมชาติ ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือรูปร่าง “Loose dressing” ไม่เน้นแฟชั่น แต่สะท้อนความสบายและร่องรอยของเวลา
กระเป๋าแต่ละใบและโครงสร้างสื่อถึงความหมาย ไม่ใช่เพียงรูปร่าง การใช้เวลาร่วมกับกระเป๋าเผยให้เห็นความช้าและความบริสุทธิ์ของงานฝีมือ ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์ “ธรรมชาติและการรู้จักตัวเอง”
เรื่องราวของ Songmont กระเป๋าไม่ใช่เพียงวัตถุ แต่เป็นการพบปะระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและชีวิตประจำวัน โดยนิทรรศการนี้แบ่งเป็น 5 ซีรีส์ ได้แก่
• Eaves Series: ได้แรงบันดาลใจจากคานหลังคาวัดเซน
• Moon’s Bow Bag: ถ่ายทอดความคิดถึงการกลับคืนสู่ครอบครัว
• Paper Iris Device: การตีความกระจาดไม้แบบ Weifang
• Anna Series: เรียบง่าย เหมือน “Moose Bag” บนหลังเขา
• Follow-Up Series: ใช้ผ้า Ganan ลวดลายเสือ สื่อถึงความคุ้มครองดินแดนทิเบต
ในโชว์รูมปารีส ไอเดียเหล่านี้ถูกจัดแสดงในรูปแบบ Installation เช่น ว่าวกระดาษลอยขึ้นในอากาศ กรอบไม้หลังคาเหยียดผ่านพื้นที่ สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและงานฝีมือ
ความยั่งยืนก็ปรากฏในแนวทางแบบตะวันออก ผลิตภัณฑ์บางชิ้นรีไซเคิลขยะทะเลเป็นหนังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้กาวจากยางธรรมชาติ ปราศจากฟอร์มาลดีไฮด์ แสดงถึงความรับผิดชอบที่ซ่อนอยู่ในงานฝีมือ
งานเสียงศิลปินยังเพิ่มมิติให้กับนิทรรศการ ซึ่งมีศิลปินจีน Fu Xiaotong ศิลปินกรีก George Koutsouris และโคลอมเบีย Leonel Vasquez ถ่ายทอดเสียงหายใจ น้ำไหล และก้อนหิน ผสานเป็นภูมิทัศน์เสียงหลายชั้น ทำให้ผู้ฟังได้สัมผัสความถี่ของตะวันออกในมุมมองใหม่
เมื่อ Songmont ยก “ภูเขา วัด ระฆัง และเสียงกระทบ” สู่ปารีส พวกเขาไม่ได้เพียงจัดนิทรรศการ แต่ส่งสัญญาณแห่งแบรนด์ตะวันออกสู่โลก

จากปีที่แล้วถึงต้นปีนี้ ก้าวย่างของ Songmont เต็มไปด้วยความสงบ สุนทรียศาสตร์ของทะเลจีนใต้เหมือนบทเพลงช้า การปรากฏตัวในปารีสไม่เพียงดึงดูดชาวจีนในเมือง แต่ยังสร้างความสนใจให้ชาวต่างชาติ แบรนด์ที่มีสุนทรียศาสตร์เอเชียกลาง เป็นหัวใจ กำลังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแบรนด์จีนในสายตาชาวโลก
ความตั้งใจและการเพาะบ่มวัฒนธรรมและสุนทรียศาสตร์ของ Songmont ทำให้พวกเขาทิ้งโทนเสียงที่ชัดเจนแต่สงบลงบนแผนที่แฟชั่นโลก ปีนี้ผู้ก่อตั้ง Paisong และผู้ร่วมก่อตั้ง Wang Jie ได้รับการบรรจุใน BoF 500 ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับจากสื่อและวงการแฟชั่นโลก
ในกรณีของ Songmont การที่ผู้ก่อตั้ง Paisong และ Wang Jie ติด BoF 500 หมายความว่า แบรนด์ได้รับการยอมรับจากวงการแฟชั่นโลกว่าเป็นแบรนด์จีนที่มีอิทธิพลและสุนทรียภาพโดดเด่นในระดับสากล
ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็น สคต. เฉิงตู
BoF 500 ย่อมาจาก Business of Fashion 500 เป็นรายการรายชื่อบุคคล 500 คนที่มีอิทธิพลสูงสุดในอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก จัดทำโดย Business of Fashion (BoF) สื่อออนไลน์ชื่อดังจากสหราชอาณาจักรที่มุ่งเน้นข่าวสาร การวิเคราะห์ และเทรนด์ของวงการแฟชั่น
รายละเอียดสำคัญของ BoF 500:
1) ใครติดอันดับได้ : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดีไซเนอร์ ผู้บริหารระดับสูง นักออกแบบ นักสร้างสรรค์ บรรณาธิการแฟชั่น นักลงทุน หรือผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่น
2) ความหมาย : การติด BoF 500 แสดงถึงการได้รับการยอมรับระดับโลกว่าบุคคลนั้นมีอิทธิพลและการสร้างสรรค์ที่สำคัญต่อวงการแฟชั่น
3) การอ้างอิง : นอกจากเป็นเกียรติแล้ว การติด BoF 500 จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพของแบรนด์และความเป็นผู้นำทางแฟชั่นในระดับสากล
การติด BoF 500 สำคัญกับแบรนด์จีนและการขยายตลาดต่างประเทศ กล่าวคือ
- การยอมรับในระดับสากล BoF 500 เป็นมาตรฐานอิทธิพลแฟชั่นโลก การติดอันดับแสดงว่าแบรนด์ถูกมองว่าเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการ ไม่ใช่แค่ในประเทศจีน และสำหรับแบรนด์จีน นี่คือ การยืนยันว่าคุณภาพและสุนทรียศาสตร์มีมาตรฐานโลก
- เพิ่มความน่าเชื่อถือและมูลค่าแบรนด์ เมื่อติด BoF 500 นักลงทุน สื่อ และลูกค้าต่างชาติจะมองว่าแบรนด์มีความเป็นมืออาชีพและมีวิสัยทัศน์ สามารถเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์อิมเมจระดับพรีเมียม ช่วยในการตั้งราคาผลิตภัณฑ์และเจรจาธุรกิจ
- ช่องทางเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ การติดอันดับนี้ทำให้แบรนด์จีน เปิดประตูสู่โชว์รูมแฟชั่นวีค การร่วมงานกับบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำ และนักออกแบบระดับโลก และเป็นสัญญาณว่าแบรนด์พร้อมแข่งขันในตลาดสากล
- สร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรม นอกจากเชิงธุรกิจแล้ว การติด BoF 500 ช่วยนำเสนอวัฒนธรรมและสุนทรียศาสตร์ตะวันออกสู่สายตาโลก อีกทั้งเป็นช่องทางให้ผู้ชมและนักวิจารณ์แฟชั่นเข้าใจแนวคิด ปรัชญา และแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีน ผ่านผลิตภัณฑ์และงานแสดง
- แรงดึงดูดสำหรับพาร์ทเนอร์และความร่วมมือ แบรนด์ที่ติด BoF 500 มักได้รับข้อเสนอความร่วมมือจากแบรนด์โลก การร่วมออกแบบ หรือการตลาดร่วม ส่งผลทำให้ขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลานานในการสร้างชื่อเสียงใหม่
สรุปการติด BoF 500 ไม่ใช่แค่เกียรติส่วนตัวของผู้ก่อตั้ง แต่เป็นใบรับรองความสามารถของแบรนด์จีนในการแข่งขันระดับโลก และเป็นก้าวสำคัญในการทำให้สุนทรียศาสตร์ตะวันออกและแบรนด์จีนเข้าถึงตลาดแฟชั่นสากล
อย่างไรก็ตาม เราสามารถเรียนรู้จากกรณีของ Songmont และการติด BoF 500 เพื่อนำมาปรับใช้กับ อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย ได้หลายด้านทั้งในเชิงการสร้างแบรนด์ การออกแบบ การตลาด และการขยายสู่ตลาดโลก ดังนี้
1. การสร้างเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย โดยเรียนรู้จาก Songmont ใช้สุนทรียศาสตร์และปรัชญาตะวันออกในการเล่าเรื่อง เช่น การแสดง “ความช้า” หรือ การตีความวัฒนธรรมท้องถิ่น นำศิลปะพื้นบ้าน ผ้าไหม ผ้าฝ้าย งานจักสาน ลวดลายไทยโบราณ มาปรับให้ร่วมสมัย ตลอดจนถึงการสร้างคอลเล็กชันที่สะท้อน ความเป็นไทยแต่ร่วมสมัย เช่น การใช้โทนสีธรรมชาติ วัสดุท้องถิ่น และเรื่องเล่าวัฒนธรรมในแต่ละซีรีส์
2. เน้นคุณค่าและเรื่องราวมากกว่ารูปลักษณ์ ดังเช่น Songmont เน้นความหมายของกระเป๋า ไม่ใช่แค่รูปร่างแต่ให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความพิเศษและเรื่องราวเบื้องหลัง เช่น แรงบันดาลใจจากประเพณี ตำนานท้องถิ่นการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งในกรณีนี้เราสามารถสร้างแฟชั่นไทยให้มีตัวตนและความแตกต่างที่จับต้องได้
3. รวมศิลปะและประสบการณ์ Songmont ใช้ Installation งานศิลปะ และเสียงดนตรีสร้างประสบการณ์หลากมิติให้ผู้ชม ในขณะที่ไทยเราสามารถแฟชั่นโชว์แบบ immersive เช่น ผสม performance art ดนตรี งานศิลปะไทยร่วมสมัยให้ผู้ชมเข้าถึงสุนทรียศาสตร์ไทยในมิติทั้งสายตาและสัมผัส
4. ความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม Songmont มีการใช้วัสดุรีไซเคิล กาวธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ไทยเราก็สามารถทำได้โดยใช้ผ้าท้องถิ่น เส้นใยธรรมชาติ กระบวนการผลิต eco-friendly สร้างจุดขายสวยงามและยั่งยืน เพิ่มคุณค่าแบรนด์ในตลาดโลก อาทิ แบรนด์ PIPATCHARA ที่ใช้ฝาขวดน้ำดื่มพลาสติกมาผลิตเป็นกระเป๋า ชุดเสื้อผ้า ที่มีความสวยงาม เก๋ไก๋ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจน
5. พัฒนาบุคลากรและเครือข่ายระดับโลก Songmont การติด BoF 500 เปิดโอกาสสู่ตลาดและเครือข่ายโลก ซึ่งไทยเราสามารถส่งนักออกแบบไทยไปฝึกงาน/แลกเปลี่ยนความรู้กับต่างประเทศ เข้าร่วม แฟชั่นวีค งานนิทรรศการนานาชาติ สร้างเครือข่ายนักลงทุนและพาร์ทเนอร์ต่างชาติ
6. สร้างแบรนด์ให้มีอัตลักษณ์และเรื่องเล่าชัดเจน Songmont แบรนด์มีปรัชญา “ธรรมชาติและการรู้จักตัวเอง” ชัดเจน ซึ่งไทยสามารถกำหนดเอกลักษณ์แบรนด์ไทยชัดเจน เช่น แฟชั่นที่เล่าเรื่องราวไทย การสร้างสุนทรียศาสตร์ไทยร่วมสมัย เมื่อแบรนด์มี Storytelling และ Identity จะสร้างการจดจำและความแตกต่างในตลาดโลก
สรุปสั้น ประเทศไทยสามารถใช้วัฒนธรรมไทยเป็นแกนกลางในการถ่ายทอดความหมายและปรัชญา ไม่ใช่แค่แฟชั่น สร้างประสบการณ์แบบ immersive มีความใส่ใจต่อความยั่งยืนและนวัตกรรมวัสดุ จนถึงการพัฒนาความสามารถและสร้างเครือข่ายระดับโลก ด้วยการสร้างแบรนด์และเรื่องราวชัดเจนที่ต่างชาติเข้าใจง่าย
----------------------------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ตุลาคม 2568
แหล่งข้อมูล : VOGUE CNCC