- กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของกัมพูชา เตรียมเปิดตัวสติกเกอร์ QR Code สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เพื่อระบุแหล่งกำเนิดสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์เกษตร เสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ซื้อและผู้บริโภค
- นาย Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างการตรวจเยี่ยมสวนทุเรียนในจังหวัดโพธิสัตว์ โดยระบุว่า QR Code ดังกล่าวจะช่วยตรวจสอบข้อมูลแหล่งเพาะปลูก กระบวนการเตรียมสินค้า และมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดสากล ทั้งนี้ QR Code จะช่วยเพิ่มความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และเตรียมความพร้อมสำหรับการส่งออก โดยเฉพาะไปยังตลาดที่มีข้อกำหนดเข้มงวด เช่น จีน สหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ
- ขณะเดียวกัน เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในจังหวัดพระตะบอง กำลังขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเตรียมส่งออกไปยังตลาดจีน โดยเกษตรกรรายหนึ่งที่มีพื้นที่ปลูกประมาณ 30 เฮกตาร์ เปิดเผยว่า สามารถสร้างรายได้สูงถึง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี อีกทั้งยังมีเกษตรกรอีกรายหนึ่งกำลังลงทุนสร้างโกดังสำหรับบรรจุผลผลิตเพื่อรองรับการส่งออกในอนาคต
- ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ ได้เน้นย้ำให้เกษตรกรปฏิบัติตามแนวทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพและชื่อเสียงของทุเรียนกัมพูชา พร้อมยืนยันว่ากระทรวงฯ จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งการขึ้นทะเบียนสวนและโรงงานบรรจุภัณฑ์ การใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและประเมินกระบวนการเตรียมผลผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยตลาดจีน
ข้อมูลที่น่าสนใจ
1) หลังจากที่จีนอนุญาตให้กัมพูชาส่งออกทุเรียนสดเข้าสู่ตลาดจีนได้เมื่อปลายเดือนเมษายน 2025 รัฐบาลกัมพูชาได้เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์เป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคของจีนอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาตลาดส่งออกที่มีมูลค่าสูงและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจีนถือเป็นผู้บริโภคทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนถึง 91% ของการบริโภคทั่วโลก
2) ในปี 2024 กัมพูชามีพื้นที่ปลูกทุเรียนรวม 10,454 เฮกตาร์ โดยสามารถเก็บเกี่ยวได้จากพื้นที่ 6,908 เฮกตาร์ ให้ผลผลิตรวมทั่วประเทศประมาณ 112,110 ตัน คาดว่าในอนาคตจะมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกและการลงทุนในโรงงานบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดส่งออกใหม่อย่างจีน ซึ่งถือเป็นตลาดผู้บริโภครายใหญ่ โดยที่ผ่านมาทุเรียนสดของกัมพูชาส่วนใหญ่ยังคงจำหน่ายภายในประเทศ และมีการส่งออกในสัดส่วนที่น้อย โดยไทยถือเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา
ความเห็นสำนักงานฯ
1) หากนโยบายการติดสติกเกอร์ QR Code ของกระทรวงเกษตรฯ เกิดขึ้นได้จริง จะถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรของกัมพูชา เสริมสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่การผลิต และเพิ่มโอกาสทางการค้าสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมให้เติบโตได้ในอนาคต
2) ในส่วนของทุเรียนนั้น ไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ที่สุดไปยังจีน ควรเริ่งการแข่งขันด้วยการสร้างความรับรู้ด้านคุณภาพ และกำหนดจุดยืนของแบรนด์ (Brand Positioning) ให้ชัดเจนเพื่อกำหนดเป็นกลยุทธ์ระยะยาว เช่น การส่งเสริมทุเรียน GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) จากจังหวัดต่างๆ ของไทย และทำตลาดเชิงรุกมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ และการค้า B2B มากขึ้น อีกทั้งต้องรักษาคุณภาพและมาตรฐาน ความปลอดภัยของสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีอันตราย เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีน และหาตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ นอกเหนือจากจีน
ที่มา: Khmer Times
พฤษภาคม 2025