- การค้าระหว่างจีน-กัมพูชาเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันหกไตรมาส โดยในไตรมาสแรกของปี 2025 มูลค่าการค้าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 33.33 พันล้านหยวน (4.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024
- การนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชาของจีนเพิ่มขึ้น 12.2% คิดเป็นมูลค่า 980 ล้านหยวนในไตรมาสแรก หรือคิดเป็น 25.9% ของการนำเข้าทั้งหมดจากกัมพูชา สินค้าหลักที่ผู้บริโภคจีนให้ความนิยม ได้แก่ ลำไยสด มันสำปะหลังอบแห้ง และผงโกโก้ นอกจากนี้ ในส่วนของยางธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตยางรถยนต์นั้น จีนก็นำเข้าเพิ่มจากกัมพูชาเกือบสี่เท่าในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการผลิตของทั้งสองประเทศได้อย่างดี ในทางกลับกัน การส่งออกสินค้าเกษตรจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น 61.9% คิดเป็นมูลค่า 640 ล้านหยวน
- ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ก็เติบโตเช่นกัน โดยการส่งออกรถยนต์และแบตเตอรี่ลิเธียมจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสแรกนี้ จีนส่งออกรถยนต์มายังกัมพูชาคิดเป็นมูลค่า 840 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 183.7 ขณะที่การส่งออกแบตเตอรี่ลิเธียม เพิ่มขึ้นร้อยละ 465.7 คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านหยวน
- ด้านนาย Zhou Shixin ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศ ของสถาบัน Shanghai Institute for International Studies กล่าวเสริมว่า การค้าระหว่าง 2 ประเทศที่เพิ่มสูงนี้ เป็นผลมาจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างจีนและกัมพูชา รวมถึงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่ช่วยเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้สูงขึ้น
ความเห็นของสำนักงานฯ
1) แม้ว่าการค้าระหว่างกัมพูชาและจีนจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่จากข้อมูล พบว่า กัมพูชายังคงขาดดุลการค้ากับจีนในระดับสูง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรูปแบบการลงทุนของบริษัทจีนที่มักใช้กัมพูชาเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะไปยังประเทศที่กัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี เช่น สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเดินทาง โดยจีนจะผลิตและส่งวัตถุดิบมายังกัมพูชา เพื่อตัดเย็บเป็นสินค้าสำเร็จรูปก่อนทำการส่งออก
2) ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากกัมพูชาสูงถึง 49% ซึ่งอาจส่งผลให้กัมพูชาเสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มสิ่งทอที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นหลัก แม้ว่าในขณะนี้ รัฐบาลกัมพูชาจะใช้ความพยายามอย่างมากในการเจรจาและสร้างความเข้าใจกับสหรัฐฯ แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวคาดว่าจะยังไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ววัน
3) ผู้ประกอบการไทยที่มีเกี่ยวข้องกับภาคการผลิตสินค้าดังกล่าวข้างต้นในกัมพูชาเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ควรติดตามสถานการณ์ด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพื่อใช้ประกอบการวางแผนด้านการผลิต การลงทุน และการตลาดหาส่งออกใหม่นอกเหนือจากตลาดสหรัฐฯ ในอนาคตอย่างเหมาะสม
ที่มา: Khmer Times
เมษายน 2025