การสนับสนุนจากรัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการเร่งการนำเทคโนโลยี AI และ IoT มาใช้

ที่มา : สำนักข่าว Bernama

ดร.มัซลัน อับบาส ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม IoT กล่าวว่า การสนับสนุนจากรัฐบาลมีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำ Artificial Intelligence (AI) และ Internet of Things หรือ (IoT) มาใช้งาน และได้กล่าวเน้นย้ำว่า การที่รัฐบาลให้การสนับสนุนผ่านแรงจูงใจทางภาษี เงินอุดหนุน และกรอบการกำกับดูแล จะทำให้ธุรกิจต่างๆสามารถลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ และสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลในระยะยาวได้ โดยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจที่พัฒนาโซลูชัน AI และ IoT จะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมในท้องถิ่นและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีนำเข้า อย่างมาเลเซียมีความกระตือรือร้นอย่างมากกับแผนงาน AI แห่งชาติ ซึ่งระบุกลยุทธ์สำคัญในการขยายขีดความสามารถของ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ

ประธานเจ้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ Favoriot Sdn Bhd กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา อย่างมาเลเซีย โดยโครงสร้างพื้นฐาน เงินทุน และความเชี่ยวชาญทางเทคนิคยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญ

สตาร์ตอัปในพื้นที่มีบทบาทสำคัญในการนำ AI และ IoTมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาเฉพาะชุมชนและขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ ที่สตาร์ตอัปมีความคล่องตัว มีนวัตกรรม และสามารถตอบสนองต่อความต้องการในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว สตาร์ตอัปแม้ว่าจะมีศักยภาพ แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรค เช่น เงินทุนที่จำกัด กฎระเบียบ และการขาดโอกาสในการร่วมมือ ดังนั้น รัฐบาลจึงมีบทบาทสำคัญสำหรับการให้ความช่วยเหลือ เงินกู้ หรือกองทุนเริ่มต้นธุรกิจ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญของการจัดตั้ง National and Innovation Sandbox (NTIS) ที่จะช่วยให้นักวิจัยและบริษัทสตาร์ตอัปสามารถทดสอบผลิตภัณฑ์ บริการ โมเดลทางธุรกิจ และอื่นๆ ซึ่งสามารถประกันได้ว่าจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรม

ดร.มัซลัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ควรเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในด้าน AI และ IoT และเรียกร้องให้มีการลงทุนมากขึ้นในด้านการศึกษาและทักษะอาชีพ อย่างมหาวิทยาลัยและสถาบันฝึกอบรมอาชีวศึกษา ควรเน้นการสนับสนุนด้าน AI , IoT และการวิเคราะห์ข้อมูลให้แก่นักศึกษาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรม โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนยังมีบทบาทที่สำคัญในการลดช่องว่างที่อาจจะเกิดขึ้น บริษัทต่างๆ ที่มีชื่อเสียงจะทำงานร่วมกับสตาร์ตอัปเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับภาคส่วนที่สำคัญ เช่น เกษตรกรรม บริการด้านสุขภาพ และขนส่งสาธารณะ

 

บทวิเคราะห์ผลกระทบ

ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย

  • การที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เช่น ให้เงินอุดหนุน สนับสนุนด้านภาษี หรือการจัดตั้งกองทุนเริ่มต้นธุรกิจ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อพัฒนาโซลูชัน AI และ IoT ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต
  • เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทย สตาร์ตอัป ในการเริ่มพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ขยายตลาดไปยังมาเลเซียและส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ในอนาคต
  • เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถนำ AI และ IoT ไปใช้เพื่อปรับปรุงเพื่อการผลิตหรือการให้บริการ เพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ

ผลกระทบต่อนักลงทุนไทย

  • นักลงทุนไทยอาจจะต้องรับมือกับการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรม AI และ IoT มาเลเซียที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
  • มาเลเซียมีการสนับสนุนทางด้านการเงินและการพัฒนาทักษะ อย่างไรก็ตามก็ยังมีในเรื่อง
    ของกฎหมายต่างๆ ที่ยังไม่ชัดเจน อาจจะเป็นความท้าทายต่อนักลงทุนไทยในการศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจนก่อนเข้ามาลงทุนในมาเลเซีย

 

 ความคิดเห็น สคต.

การที่มาเลเซียสนับสนุน Aritificial Intelligence (AI) และ Internet of Things (IoT) จะช่วยสร้างโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยและนักลงทุนไทยที่จะสามารถคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะสามารถนำไปพัฒนาร่วมกับมาเลเซียที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้ผู้ประกอบไทยได้ขยายการลงทุนและการพัฒนาไปยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยควรที่จะศึกษาความต้องการของตลาดมาเลเซีย รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ ควรติดตามพัฒนาการของโครงการและนโยบายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับโอกาสและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อที่สามารถใช้จุดนี้ในการสร้างความร่วมมือกันเพื่อไปถึงจุดหมายได้ที่ตั้งไว้

Office of Commercial Affairs, Royal Thai Embassy (Thai Trade Center) - Kuala Lumpur

en_USEnglish