Milan Design Week 2025 ตอกย้ำบทบาทของมิลานในฐานะศูนย์กลางการออกแบบระดับโลก โดยเฉพาะงาน Salone del Mobile ซึ่งยังคงเป็นเวทีเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต นักออกแบบ และผู้ชมจากหลากหลายประเทศ ปีนี้มีผู้เข้าชมมากถึง 302,548 คน โดย 68% มาจากต่างประเทศ ถือเป็นสัดส่วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กลุ่มผู้เข้าชมหลักได้แก่ จีน เยอรมนี สเปน โปแลนด์ บราซิล รัสเซีย ฝรั่งเศส สหรัฐฯ อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ตลาดเกิดใหม่อย่างเอเชียกลางและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับเริ่มมีบทบาทมากขึ้น นางมาเรีย ปอร์โร ประธานจัดงาน เน้นย้ำถึงความสำคัญของงานในฐานะแพลตฟอร์มระดับสากลที่ได้รวบรวมผู้จัดแสดงกว่า 2,100 รายจาก 37 ประเทศ รวมถึงไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างและครอบคลุมมากขึ้น งานในปีนี้ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 278 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยังคงเติบโตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก
นอกเหนือจากงานหลักอย่าง Salone del Mobile แล้ว กิจกรรมในส่วนของ Fuorisalone ซึ่งประกอบด้วยนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นทั่วเมืองมิลานในย่านสำคัญอย่าง Tortona, Brera และ Isola ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในย่าน Brera ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการออกแบบที่ทรงอิทธิพลที่สุดของอิตาลี โดยนายเปาโล คาซาตี (Mr. Paolo Casati) ผู้แทนจากเว็บไซต์ Fuorisalone.it ได้เปิดเผยว่า ในปีนี้จำนวนกิจกรรมและผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยในย่าน Brera เพียงแห่งเดียวมีการจัดกิจกรรมมากถึง 237 กิจกรรม ภายใต้ธีม “Connected World” ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่นิทรรศการ “Cre-action” ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Interni ณ University of Milan (Università degli Studi di Milano) โดยสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้ถึง 250,000 คน (เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10,000 คน) และกลายเป็นนิทรรศการที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของ Fuorisalone ปีนี้
ในย่านอื่นๆ อัตราผู้เข้าชมก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยย่าน Sarpi (ย่าน China Town ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ ADI เป็นส่วนหนึ่งของงาน) ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อปี 2567 ต้อนรับผู้ชมถึง 120,000 คน ส่วนย่าน Isola มีผู้ชมถึง 100,000 คน โดยเฉพาะผู้เข้าชมจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และ ย่าน Porta Venezia มีผู้เข้าชม 80,000 คนต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงงาน “Mission Aldebaran”ซึ่งเป็นนิทรรศการนำเสนอคอลเลคชันน้ำหอม โดย Marc Antoine Barrois ผู้คว้ารางวัล Fuorisalone Award ประจำปีนี้ ในขณะที่ย่าน Tortona มียอดผู้ชมลดลง โดย Superstudio ต้อนรับผู้เข้าชม 87,000 คน และ Tortona Design Week มีผู้เข้าร่วม 50,000 คน
[caption id="attachment_201495" align="aligncenter" width="655"]

นิทรรศการ Mission Aldebaran โดย Mr.Barrois
Credits: Riccardo Bertani[/caption]
การจัดนิทรรศการ Slow Hand Design 2025 & FRONT100: Cutie Thai: Plaisir d’Amour
ในช่วงสัปดาห์ Milan Design Week 2025 ประเทศไทยก็เข้าร่วมกิจกรรมนี้เช่นกัน โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ร่วมกับสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า) ได้จัดนิทรรศการ Slow Hand Design 2025 & FRONT100 ณ สตูดิโอ Superstudio Più บนพื้นที่ขนาด 304 ตารางเมตร ซึ้งตั้งอยู่ในย่าน Tortona ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีชีวิตชีวาที่สุดของงานออกแบบในมิลาน ระหว่างวันที่ 7-13 เมษายน 2568 โดยมีนายเอกรัตน์ วงษ์จริต เป็นผู้ออกแบบแนวคิดของงาน “Cutie Thai: Plaisir d’Amour”
โดยปีนี้มีความพิเศษคือ กรมฯ ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ หรือ THACCA (Thailand Creative Culture Agency) จัดนิทรรศการพิเศษ FRONT100 ที่รวบรวมผลงานของนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘New Occurring’ และกรมฯ ยังได้นำผลงานของนักออกแบบที่ได้รับรางวัล DEmark/สินค้าของนักออกแบบรุ่นใหม่ จากโครงการ Talent Thai รวมทั้งหมด 47 รายมานำเสนอความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดของวงการออกแบบไทยสู่เวทีระดับโลก และมี Trimode Studio เป็นผู้ออกแบบนิทรรศการ และ Pariwat Studio เป็นผู้ออกแบบกราฟิก (ทั้งสองรายเป็นนักออกแบบจาก FRONT100) นิทรรศการนี้เชิญชวนผู้เข้าชมเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส รูปทรงที่เล่นสนุก และวัสดุที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของนักออกแบบและผู้ประกอบการไทย ตั้งแต่ของตกแต่งบ้านที่ผลิตอย่างยั่งยืน ไปจนถึงเครื่องประดับแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ ทุกชิ้นสะท้อนข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความสามัคคี ความสมดุล และการแสวงหาความสุข สอดรับกับแนวคิด “HAPPINESS” ของผู้จัดงาน Superdesign Show 2025

โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ช่วงเย็น ได้มีพิธีเปิดนิทรรศการและกิจกรรม Business Networking ซึ่งได้รับเกียรติจากนางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประธานในพิธีเปิดงานและกล่าวต้อนรับและรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินโครงการ และนายเอกรัตน์ วงษ์จริต ภัณฑารักษ์โครงการ ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจและธีมของงานในปีนี้ อีกทั้งนางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน คณะผู้บริหารกรม และ Ms. Gisella Borioli ผู้ก่อตั้ง Superstudio Più ได้ให้เกียรติเข้าร่วมในงานเลี้ยงดังกล่าวและร่วมให้การต้อนรับแขกและสื่อมวลชน นอกจากนี้ สคต. ณ เมืองมิลาน ยังได้เชิญสมาคมด้านการออกแบบ หน่วยงาน/สถาบันส่งเสริมการออกแบบ ผู้แทนจากห้างสรรพสินค้า Rinascente ผู้ซื้อ/ผู้สนใจสินค้าด้านการออกแบบของไทยในอิตาลี และสื่อมวลชนในแวดวงการออกแบบ/ไลฟ์สไตล์ เช่น Marie Claire, Vanity Fair, Harper’s Bazaar, Casa facile กว่า 150 ราย เข้าร่วมกิจกรรมนี้ เพื่อพบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนักออกแบบไทย
สำหรับกิจกรรมในช่วงพิธีเปิด มีการจัดเลี้ยงอาหารไทย และเครื่องดื่ม ได้แก่ ถุงทอง ผัดไทยกุ้ง เมี่ยงปลาใบชะพลู น้ำตกเนื้อหมู เสริฟคู่กับข้าวเหนียว และปันนาคอตต้าชาไทย จากร้านอาหารไทย Thai Lounge Milano ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก อีกทั้ง สายการบิน Thai Airways (TG) ยังได้ร่วมสนับสนุนการจัดงานโดยนำของที่ระลึกมาแจกแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย

ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 8 วัน (วันที่ 6 เมษายน เปิดเฉพาะสื่อมวลชน และวันที่ 7-13 เมษายน เปิดให้แก่ประชาชนทั่วไป) มีผู้เข้าชมนิทรรรศการ Slow Hand Design 2025 & FRONT 100 รวม 30,370 คน (เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19,730 คน หรือ 185.43%) โดยส่วนใหญ่มาจากอิตาลี สหรัฐอเมริกา ภูมิภาคยุโรป อาทิ เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ โปรตุเกส เบลเยี่ยม สาธารณรัฐเช็ก นอร์เวย์ อังกฤษ เดนมาร์ก สโลเวเนีย เป็นต้น และภูมิภาคเอเชีย อาทิ จีน อินเดีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย ตุรกี เป็นต้น
ความคิดเห็นของสคต. ณ เมืองมิลาน
1. การจัดแสดงนิทรรศการ Slow Hand Design 2025 และ FRONT100 ถือเป็นเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Soft Power ไทย โดยเฉพาะด้านงานออกแบบและหัตถศิลป์ร่วมสมัย ซึ่งสามารถสร้างความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการในยุโรปได้อย่างกว้างขวาง ทั้งยังเป็นการขยายโอกาสทางการค้าและความร่วมมือระหว่างประเทศในระยะยาว และการเข้าร่วมงานระดับนานาชาติอย่าง Fuorisalone ยังเป็นพื้นที่สำคัญในการพบปะ เจรจา และสร้างเครือข่ายกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในอิตาลีและยุโรป ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการขยายตลาดสินค้าดีไซน์ไทยสู่ระดับโลก
2. การจัดงาน Milan Design Week 2025 มีย่านใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นย่านสร้างสรรค์ที่สำคัญของเมืองมิลานในอนาคต ได้แก่ Porta Venezia, University of Milan (Università degli Studi di Milano) และย่าน Durini พื้นที่โชว์รูมของแบรนด์อิตาลี) และย่าน Sarpi ซึ่งกรมอาจพิจารณาเข้าร่วมในย่านสร้างสรรค์ใหม่ๆ เหล่านี้ได้ในอนาคต เนื่องจากการเข้าร่วม Milan Design Week อย่างต่อเนื่อง จะช่วยตอกย้ำและสร้างการรับรู้ แบรนด์สินค้าออกแบบของไทย ในตลาดอิตาลี/ยุโรป ได้เป็นอย่างดี และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านความเป็นเลิศทางด้านงานฝีมือและการออกแบบอีกด้วย
3. การเข้าร่วมงาน Milan Design Week ของกรมฯ ยังช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ส่งออกและผู้ประกอบการไทยศึกษารสนิยมและพฤติกรรมผู้บริโภคในอิตาลี/ยุโรป ค้นหาแนวโน้มตลาดใหม่ ๆ และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ไทยในกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดอิตาลี/ยุโรปและตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา: 1. Milano, la carica dei 300 mila visitatori per il Salone (cinesi in testa). Brera e l'Università Statale le mete più gettonate - Corriere della Sera Milano
2. Interni Cre-Action è stata la mostra più visitata al FuoriSalone 2025 - Interni
3. เครดิตภาพประกอบ Riccardo Bertani – Fuorisalone.it
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
18 เมษายน 2568