fb
โอกาสสินค้าไทยจากกระแสยานยนต์ไฟฟ้าเช็ก
ลงเมื่อ 13 สิงหาคม 2568 17:45
21
1

ปี 2025 กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดยานยนต์สาธารณรัฐเช็ก เมื่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทะยานขึ้นกว่าร้อยละ 60 ในช่วง เดือนแรกของปี คิดเป็นยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 7,980 คัน และผลักดันให้สัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มเป็น ร้อยละ 5.6 จากร้อยละ 4.2 โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยการขนส่ง (Transport Research Centre) ระบุว่ารถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับสาม รองจากเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 4.1 ซึ่งแบรนด์ Škoda ยังคงครองความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 35.4 โดยรถยนต์รุ่น Elroq กลายเป็นดาวเด่น ขณะที่ Tesla สูญเสียความนิยมอย่างรวดเร็วจากยอดขายเกือบร้อยละ 40 เหลือเพียงร้อยละ 15.6 ในเวลาเพียง 1 ปี สำหรับตลาดรถยนต์โดยรวมในสาธารณรัฐเช็กกำลังเติบโตเช่นกัน โดยมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ 143,456 คัน ในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของภาคธุรกิจ มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (รถตู้และรถบรรทุกน้ำหนักต่ำกว่า 3.5 ตัน) จำนวน 708 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 468 คันจากปีก่อน และมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 6.3 ส่วนรถบรรทุกไฟฟ้ามียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 64 คัน เพิ่มขึ้น 54 คันจากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของตลาดทั้งหมด โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แตะที่ 31,703 คัน ทั้งนี้ โตโยต้าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยยอดขาย 5,988 คัน ตามมาด้วย Škoda Auto ด้วยยอดขาย 4,496 คัน และ Mercedes-Benz ครองอันดับสามด้วยยอดขายรถยนต์ไฮบริด 2,453 คัน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2025 ไม่เพียงเท่านั้น  โตโยต้ายังประกาศลงทุนครั้งใหญ่ เตรียมเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในยุโรปที่โรงงานเมืองโคลิน (Kolín) ภายในปี 2028 โดยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ ไฟฟ้าราว 100,000 คันต่อปี การตัดสินใจนี้สอดคล้องกับเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนของโตโยต้าในยุโรปให้เป็นศูนย์ภายในปี 2035 และรับมือข้อกำหนดสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งจะเสริมบทบาทของเช็กในฐานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในยุโรปกลาง

 

ในยุโรป ซึ่งมีกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นประมาณร้อยละ 15 ของยอดขายรถยนต์ใหม่ แม้ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันจะอ่อนแอ แต่บริษัทก็กำลังมองหาการขยายระบบการผลิตโดยมุ่งหวังที่จะนำไปใช้อย่างแพร่หลายในอนาคต ซึ่งปัจจุบันโรงงานที่โคลินผลิตรถยนต์รุ่น Aygo X และ Yaris และเป็นหนึ่งในห้าโรงงานประกอบรถยนต์ของโตโยต้าในยุโรป เดิมทีโรงงานแห่งนี้เป็นโครงการร่วมทุนกับ PSA Peugeot Citroën (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Stellantis) นอกจากนี้ นายโยชิฮิโระ นากาตะ ประธานโตโยต้ายุโรป ให้สัมภาษณ์กับ E15 เมื่อปีที่แล้วว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปยุโรป ในขณะนั้นมีการคาดการณ์กันว่าโรงงานที่โคลินอาจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีราคาประมาณ 400,000 เช็กคราวน์ และมีระยะทางวิ่งสูงสุด 100 กิโลเมตร” สำนักข่าว Nikkei รายงาน

 

ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต. จากบทความที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าตลาดสาธารณรัฐเช็กกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว ทั้งยอดขายที่พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด และการลงทุนของผู้ผลิตระดับโลกอย่าง Škoda และ Toyota สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึงแค่โอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์เท่านั้น แต่ยังเปิดทางให้สินค้าส่งออกไทยที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด วัสดุคุณภาพสูง และสินค้ารักษ์โลก เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่มูลค่าในยุโรปกลาง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรเรียนรู้และปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงยกระดับมาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับตลาดยุโรป การสร้างแบรนด์ที่เน้นภาพลักษณ์ “Green & Innovative” ทำการตลาดโดยเชื่อมโยงสินค้ากับแนวคิดความยั่งยืนและนวัตกรรม เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต หรือการพัฒนาสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อสร้างคุณค่าแบรนด์ไทยในสายตาผู้ซื้อต่อไป

ข่าว 1-15 ส.ค. 68.pdf
Share :
Instagram