รัฐบาลเม็กซิโกประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้าที่มีการนำเข้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จากเดิมร้อยละ 19 เป็นร้อยละ 33.5 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการตรวจพบว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนบางราย เช่น Shein และ Temu หลีกเลี่ยงการเสียภาษี รัฐบาลเม็กซิโกจึงตัดสินใจปรับขึ้นภาษีสำหรับสินค้าที่มีการนำเข้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยกระทรวงการคลังเห็นว่ามาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายในการปกป้องอุตสาหกรรมภายในของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มสิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า และภาคการผลิตภายในเม็กซิโก จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมซึ่งเกิดจากแพลตฟอร์มระดับโลก เช่น Shein, Temu, AliExpress, Mercado Libre และ Amazon ที่มีการร้องเรียนว่ามีการเสนอขายสินค้าในราคาที่ต่ำมาก ทำให้สินค้าในประเทศไม่สามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงท่าทีของเม็กซิโกที่ต้องการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับสหรัฐอเมริกาในการกีดกันสินค้าจากจีนและส่งเสริมการค้าในภูมิภาคอเมริกาเหนือมากขึ้น
อัตราภาษีใหม่สำหรับสินค้าที่นำเข้าผ่านอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม มีดังนี้
(1) สินค้าที่นำเข้าจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโก เช่น จีน จะถูกเก็บภาษีร้อยละ 33.5
(2) สินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศภาคีความตกลง USMCA แบ่งเป็น :
- มูลค่าน้อยกว่า 50 เหรียญสหรัฐ จะได้รับการยกเว้นภาษี
- มูลค่าระหว่าง 50 –117 เหรียญสหรัฐ จะถูกเก็บภาษีร้อยละ 17
- มูลค่ามากกว่า 117 เหรียญสหรัฐ จะถูกเก็บภาษีร้อยละ 19
(3)สินค้าที่นำเข้าจากประเทศอื่นๆ ที่มีข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก จะถูกเก็บภาษีในอัตราตามที่กำหนดในข้อตกลงฯ
แม้การปรับภาษีนำเข้าในครั้งนี้ เป็นความพยายามของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีในอัตราที่แตกต่างกันตามประเทศต้นทางและมูลค่าของสินค้านับเป็นการสร้างภาระในการบริหารจัดการระบบศุลกากรและภาคโลจิสติกส์ ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาระบบให้สามารถรองรับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น บริษัทขนส่งพัสดุ เช่น FedEx แจ้งลูกค้าให้เตรียมพร้อมรับมือกับข้อกำหนดใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการกรอกข้อมูลผู้รับในใบตราส่งทางอากาศ (Air Waybill) เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (RFC) หรือ เลขบัตรประจำตัวประชาชน (CURP) ให้ครบถ้วน นอกจากนี้ อาจเพิ่มปัญหาให้กับบริษัทจัดส่งพัสดุเนื่องจากลูกค้าอาจสั่งซื้อสินค้าแบบแยกออร์เดอร์ เพื่อให้ราคาของสินค้าต่ำกว่าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมการขายออนไลน์เม็กซิโก (AMVO) ชี้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2023 มูลค่าตลาดแตะ 32.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24.6 เมื่อเทียบกับปี 2022 และมีผู้ซื้อสินค้าออนไลน์มากถึง 65.9 ล้านคนทั่วประเทศ หมวดหมู่สินค้าที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ (1) เสื้อผ้า (2) เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (3) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (4) ผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและสุขภาพ โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากปัจจัยสนับสนุนหลัก เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ระบบโลจิสติกส์ที่สะดวกและคล่องตัวขึ้น รวมถึงการตลาดของแพลตฟอร์มที่มีการเสนอโปรโมชั่น ส่วนลด ของแถมต่างๆ ที่สามารถดึงดูดผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี ตลาดอีคอมเมิร์ซในเม็กซิโกจึงเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการซื้อสินค้าออนไลน์จากแพลตฟอร์มต่างประเทศโดยเฉพาะแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น SHEIN และ TEMU ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของจีน เนื่องจากต้นทุนในการซื้อสินค้าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33.5 ดังนั้น แพลตฟอร์มที่ขายสินค้าจากต่างประเทศจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อรับมือกับมาตรการดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการเสนอโปรโมชั่นเพิ่มเติม การสนับสนุนค่าจัดส่ง ตลอดจนอาจจัดหาสินค้าภายในประเทศเพื่อมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มมากขึ้น
สคต. ณ กรุงเม็กซิโก
แหล่งที่มา
Official Gazette
https://www.dof.gob.mx/nota_detalle.php?codigo=5763997&fecha=28/07/2025#gsc.tab=0
Mexican Online Sales Association (AMVO)
https://info.amvo.org.mx/estudiodeventaonline2024
https://blog.amvo.org.mx/publicaciones/estudios/estudio-sobre-venta-online-en-mexico-2024-3
Ministry of Finance
https://www.gob.mx/sat/prensa/sat-emite-la-resolucion-miscelanea-fiscal-y-reglas-generales-de-comercio-exterior-para-2025-075-2024