ในปี 2023 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สร้างความสั่นสะเทือนต่อธุรกิจห้างค้าปลีกฝรั่งเศสเมื่อห้างยักษ์ใหญ่ Casino ประสบปัญหาจนต้องขายกิจการให้กับกลุ่มห้างค้าปลีก Intermarché แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นยังไม่อาจรอดพ้นจากวิกฤตหากไม่มีการปรับตัว ซึ่งช่วงเวลาขณะนั้นฝรั่งเศสประสบกับสถานการณ์เงินเฟ้อที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก
ภายหลังจากที่ห้างค้าปลีก Casino จำนวน 600 สาขาทั่วประเทศเปลี่ยนเจ้าของไปเป็นห้างค้าปลีกแบรนด์อื่นๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ของบริษัท Intermarché ส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดห้างค้าปลีกเปลี่ยนแปลงไป โดยห้าง Carrefour กลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์เพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อีกสองจุด ในขณะที่ห้าง Leclerc ผู้นำอันดับหนึ่งกลับเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปสองจุด
จากข้อมูลของสถาบัน Kantar ผู้นำตลาดค้าปลีกฝรั่งเศสห้าอันดับแรกในปี 2025 เรียงตามลำดับตามส่วนแบ่งทางการตลาด ได้แก่ ห้างค้าปลีก Leclerc (ร้อยละ 24) ห้างค้าปลีก Carrefour (ร้อยละ 20.6) ห้างค้าปลีก Intermarché หรือกลุ่มบริษัท Les Mousquetaires (ร้อยละ 18.2) ห้างค้าปลีก Super U ของบริษัท Coopérative U (ร้อยละ 12.8) และ ห้างค้าปลีก Auchan (ร้อยละ 8.7)
นอกเหนือจากการเข้าซื้อห้าง Casino ห้างค้าปลีก Intermarché ยังคงดำเนินนโยบายเชิงรุกอย่างต่อเนื่องด้วยการเข้าซื้อกิจการห้างค้าปลีก Colruyt สัญชาติเบลเยี่ยมซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศสจำนวนทั้งสิ้น 81 สาขา โดยตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งทางการตลาดจากร้อยละ 18.2 ในปัจจุบันเป็นร้อยละ 20 ภายในปี 2028
ถึงกระนั้นก็ตามนาง Gaëlle Le Floch ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท Kantar กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการไม่สามารถยืนยันได้ว่าบริษัทจะช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมาได้ เนื่องจากผลจากการเข้าซื้อกิจการบวกกับการประเมินตัวเลขผลลัพธ์ทางธุรกิจต่อเนื่องจากนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และในขณะเดียวกันแนวโน้มการบริโภคเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นได้จากว่าสินค้าอาหารออร์แกนิคเริ่มกลับมาได้รับความนิยม และห้างค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชนมียอดขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันทางด้านราคาเพียงอย่างเดียวดังเช่นที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์เงินเฟ้อไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามราคายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค
ธุรกิจห้างค้าปลีกมีการแข่งขันสูงส่งผลให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นห้าง Auchan ปรับขนาดพื้นที่ขายสินค้าส่วนอื่นให้เล็กลงและเพิ่มพื้นที่ขายสินค้าอาหารสดมากขึ้น ดังเช่นรูปแบบการจัดพื้นที่ของห้าง Grand Frais ที่ใช้พื้นที่อาหารสดเป็นจุดแข็งของห้างและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ซึ่งสินค้าอาหารสดมีความสำคัญช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการได้บ่อยขึ้นเนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องมีการหมุนเวียน และการจัดวางสินค้าที่สวยงามสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับห้างค้าปลีก
นอกเหนือจากปัจจัยที่กล่าวมาแล้วการทำความเข้าใจต่อความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เห็นได้จากยอดขายของห้างค้าปลีกในชุมชนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในชุมชนได้มากกว่าเมื่อเทียบกันกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามนาย Frédéric Boublil ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดค้าปลีก กล่าวว่าธุรกิจค้าปลีกอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงโดยผู้ประกอบการหน้าใหม่เน้นขายสินค้าเฉพาะทาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวทางการตลาดที่เป็นรูปแบบครบวงจรของห้างค้าปลีกแบบดั้งเดิมให้อ่อนแอลงเนื่องจากส่งผลต่ออำนาจต่อรองทางธุรกิจ และส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดแบ่งย่อยลงไปจากเดิม
จากแผนภูมิส่วนแบ่งตลาดแบ่งตามประเภทห้างค้าปลีกจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ส่วนแบ่งการตลาดห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (Hypermarket) ลดลงทุกปี ในขณะที่ห้างค้าปลีกในชุมชนและร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น
ความเห็นสคต.
สถานการณ์เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2021 -2024 ยังคงมีผลต่อเนื่องต่อการบริโภคของคนฝรั่งเศส โดยผู้บริโภคยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย จากข้อมูลของสถาบันสถิติและเศรษฐศาสตร์แห่งชาติ (INSEE) เปิดเผยว่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอัตราการบริโภคโดยรวมภายในประเทศฝรั่งเศสลดลงร้อยละ 1 ถึงแม้ว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีการปรับตัวลดลง 0.7 ในช่วงระยะเวลาหนึ่งปี
ธุรกิจห้างค้าปลีกฝรั่งเศสเกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในช่วงตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ทั้งการเลิกกิจการของห้าง Casino การปรับกลยุทธ์ทางการตลาดของแต่ละห้างที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามธุรกิจห้างค้าปลีกสินค้าอาหารเอเชียไม่ได้รับผลกระทบใดๆและสามารถขยายตัวได้เป็นอย่างดีเนื่องมาจากเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ดังเช่น ห้าง Tangs Frères เจ้าของธุรกิจค้าปลีกและผู้นำเข้าสินค้าเอเชียรายใหญ่ของฝรั่งเศส (10 สาขาทั่วประเทศ) เติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังสถานการณ์โควิดจากผลประกอบการมูลค่า 174 ล้านยูโรในปี 2020 เป็น 300 ล้านยูโรในปี 2024 เนื่องมาจากการทำตลาดผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆและการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าสินค้าอาหารเอเชียยังมีโอกาสเติบโตทางการค้าได้อีกเป็นอย่างมากในประเทศฝรั่งเศส
ที่มาของข่าว
Ninon Renaud
ข้อมูลจาก Les Echos
https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/leclerc-carrefour-intermarche-auchan-la-bataille-des-parts-de-marche-sintensifie-2171984