fb
ส่องสถานการณ์หลัง Reciprocal tariff ครบกำหนด 90 วัน

ส่องสถานการณ์หลัง Reciprocal tariff ครบกำหนด 90 วัน

โดย
Nonglukl@ditp.go.th
ลงเมื่อ 07 กรกฎาคม 2568 13:00
44

แม้ว่าวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 จะครบกำหนด 90 วันที่สหรัฐอเมริกาชะลอการเก็บภาษี Reciprocal tariff กับสินค้าจากทุกประเทศทั่วโลกที่ส่งไปยังสหรัฐฯ โดยในช่วง 90 วันที่ผ่านมาสินค้าจากทุกประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราร้อยละ 10 ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศคู่ค้าต่างๆมีเวลาในการเจรจาต่อรองในข้อตกลงทางการค้าร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรในอัตราที่สูง ตามที่สหรัฐฯกำหนดไว้ในวันที่ 9 เมษายน 2568 หรือสูงกว่า โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯบรรลุข้อตกลงเพียง 3 ประเทศ (หนึ่งในสามคือเวียดนามที่สินค้าจะต้องจ่ายภาษีขั้นต่ำที่ร้อยละ 20 รายละเอียดอื่นๆยังไม่ได้รับการเปิดเผย) 

image.png

อย่างไรก็ตาม นาย โดนัล ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ขยายเวลาในการเรียกเก็บภาษี Reciprocal tariff ออกไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เพื่อให้แต่ละประเทศที่ยังไม่ได้เจรจากับสหรัฐฯ ในช่วง 90 วันที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้เจรจาต่อรองในข้อตกลงร่วมกันกับสหรัฐฯ ต่อไป 

หากครบกำหนด 1 สิงหาคม 2568 สินค้าจากทุกประเทศที่ส่งไปยังสหรัฐฯต้องจ่ายภาษีเพิ่มในอัตราสูงซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในตลาดโลกและเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการถดถอย

สำหรับการส่งออกสินค้าออสเตรเลียส่วนใหญ่ถูกเรียกเก็บภาษี Reciprocal tariff ในอัตราร้อยละ 10 ซึ่งเป็นอัตราขั้นพื้นฐานต่ำสุด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากออสเตรเลียขาดดุลการค้าสหรัฐฯมาโดยตลอด โดยมีสินค้าบางรายการถูกเรียกภาษีในอัตราสูงและบางรายการได้รับข้อยกเว้น ดังนี้

  1. สินค้าที่ถูกเรียกภาษีในอัตราสูง ได้แก่

    • สินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ส่งออกไปสหรัฐฯจะถูกภาษีนำเข้าร้อยละ 50 เริ่ม 4 มิถุนายน 2568 (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25 ในเดือนมีนาคม 2568) ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์อนุพันธ์บางประเภทที่มีเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ บังคับใช้ตามมาตรา 232 ภายใต้พระราชบัญญัติ Trade Expansion Act 1962 เนื่องจากมีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ

    • สินค้ารถยนต์ รถบรรทุกขนาดเล็ก (Light trucks) และชิ้นส่วนยานยนต์บางประเภทต้องเสียภาษีนำเข้าร้อยละ 25 บังคับใช้ตามมาตรา 232 ภายใต้พระราชบัญญัติ Trade Expansion Act 1962 

  2. สินค้าบางรายการที่ได้รับการยกเว้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าใหม่ ได้แก่

    • ผลิตภัณฑ์พลังงานบางประเภท เหรียญและทองคำแท่ง

    • ผลิตภัณฑ์บางประเภทจัดอยู่ในบัญชีรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นในช่วงที่สหรัฐฯ ดำเนินการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเฉพาะในบางสาขา 

      โดยสหรัฐอเมริกาเริ่มการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าบางรายการภายใต้พระราชบัญญัติ Trade Expansion Act 1962 เพื่อประเมินผลกระทบของการนำเข้าสินค้าที่มีผลต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ดังนี้

      - สินค้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้รวมถึงผลิตภัณฑ์อนุพันธ์บางประเภท

      - ผลิตภัณฑ์ทองแดงและผลิตภัณฑ์อนุพันธ์บางประเภท

      - สินค้า Semiconductors อุปกรณ์การผลิต Semiconductor และผลิตภัณฑ์อนุพันธ์บางประเภท (เช่น โทรศัพท์ Smartphones และ Laptops)

      ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมบางประเภท

      แร่สำคัญบางประเภทและผลิตภัณฑ์อนุพันธ์

      รถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่และชิ้นส่วนรถบรรทุกที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐฯตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเริ่มตึงเครียดมากขึ้นหลังนาย Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยืนยันว่าสินค้าออสเตรเลียที่ส่งไปยังสหรัฐฯไม่ควรมีภาษีนำเข้าร้อยละ 10 แต่ควรมีภาษีเป็นศูนย์ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียได้วิเคราะห์ผลกระทบของมาตรการการค้าของสหรัฐฯ ต่อผู้ส่งออกออสเตรเลียว่าจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันไปในแต่ละภาคส่วนรวมถึงผลกระทบต่อผู้ส่งออกแต่ละรายที่แตกต่างกัน พร้อมเสนอแนะให้ผู้ส่งออกออสเตรเลียตระหนักถึงผลกระทบต่ออัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐสำหรับภาคธุรกิจออสเตรเลียที่ผลิตสินค้าในต่างประเทศและมีอัตราภาษี Reciprocal tariff ในอัตราที่สูงกว่า โดยแนะนำให้ผู้ส่งออกออสเตรเลียเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นปัจจุบัน

image.png

 นอกจากนี้ คณะกรรมการการค้าและการลงทุนของออสเตรเลีย (Austrade) ให้ข้อมูลและคำแนะนำเฉพาะแก่ธุรกิจของออสเตรเลีย ผ่านชุดเครื่องมือ Go Global Toolkit ซึ่งแสดงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ – การสนับสนุนสำหรับธุรกิจของออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงการจัดทำ Webinars เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงภาษีนำเข้า พร้อมส่งเสริมให้ผู้ส่งออกของออสเตรเลียขอรับคำแนะนำเป็นรายกรณี รวมถึงการติดต่อกับนายหน้าศุลกากรที่ได้รับใบอนุญาตหรือติดต่อหน่วยศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ สำหรับคำถามที่เฉพาะเจาะจง และการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีออสเตรเลีย-สหรัฐอเมริกา (AUSFTA) ที่ยังมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่

 

.................................................................................................................................................

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์

 

ที่มา:

www.dfat.gov.au/ www.abc.net.au/ www.thequardian.com

 

Share :
Instagram