fb
รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2568

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ประจำเดือนกรกฎาคม 2568

โดย
kanthimak@ditp.go.th
ลงเมื่อ 13 สิงหาคม 2568 23:00
17

1. ภาพรวมเศรษฐกิจสำคัญ/ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

         1.1 การเติบโตทางเศรษฐกิจ

 ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2568 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.4 ในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2568 แต่ลดลงจากร้อยละ 6.5 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2567 โดยภาคส่วนหลักที่มีส่วนร่วมในการเติบโตของ GDP ได้แก่ ภาคค้าส่งและค้าปลีก การซ่อมแซมยานยนต์และจักรยานยนต์ขยายตัวร้อยละ 5.1 การบริหารราชการแผ่นดิน และการป้องกันประเทศ การประกันสังคมภาคบังคับ ขยายตัวร้อยละ 12.8และภาคการเงิน การประกันภัยขยายตัวร้อยละ 5.6 สำหรับภาคเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมงขยายตัวร้อยละ 7 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 2.1 และภาคการบริการขยายตัวร้อยละ 6.9 ในส่วนของด้านอุปสงค์พบว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวร้อยละ 5.5 ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐขยายตัวร้อยละ 8.7 สำหรับรายจ่ายเพื่อการสะสมทุนรวมเบื้องต้น (Gross Capital Formation) ขยายตัวร้อยละ 0.6 ในส่วนการส่งออกสินค้า และบริการขยายตัวร้อยละ 4.4 และการนำเข้าสินค้าและบริการขยายตัวร้อยละ 2.9 โดยรายได้รวมประชาชาติ (Gross National Income) ขยายตัวร้อยละ 8.2 และรายได้ปฐมภูมิ (Net Primary Income) ขยายตัวร้อยละ 32.8

 

image.png

 

         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1.2 ภาวะการลงทุน

ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2568 ฟิลิปปินส์มีการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign InvestmentFI) มูลค่า รวม 67.38 พันล้านเปโซ ลดลงร้อยละ 64.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2567 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 189.50 พันล้านเปโซ โดยเป็นการลงทุนผ่านหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน 7 หน่วยงาน ได้แก่ 

image.png

 

The Authority of the Freeport Area of Bataan

- Board of Investments (BOI)

- Bangsamoro Board of Investments

Clark Development Corporation (CDC)

- Clark International Airport Corporation

- Philippine Economic Zone Authority (PEZA)

- Subic Bay Metropolitan Authority (SBMA)

 

                ทั้งนี้ การลงทุนจากต่างประเทศในไตรมาสที่สองของปี 256พบว่าเป็นการลงทุนจากประเทศสิงคโปร์มากที่สุดคิดเป็นมูลค่าการลงทุน 53.48 พันล้านเปโซ หรือคิดเป็นร้อยละ 79.4 ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด รองลงมาได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการลงทุน 3.96 พันล้านเปโซ คิดเป็นร้อยละ 5.9 และเนเธอร์แลนด์มีมูลค่าการลงทุน 1.91 พันล้านเปโซ คิดเป็นร้อยละ 2.8 สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมพลังงานและระบบปรับอากาศ คิดเป็นร้อยละ 81.2 รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรมการบริการ (ร้อยละ 6.8และอุตสาหกรรมการผลิต (ร้อยละ 6.6ตามลำดับ โดยคาดผลจากการลงทุนในไตรมาสที่สองปี 2568 ทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อให้เกิดการจ้างงาน ทั้งหมด 38,234 งาน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.7 จากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีการจ้างงานอยู่ที่ 26,981 งาน

 

 

1.การบริโภคภายในประเทศ 


               จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ ของปี 256การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของฟิลิปปินส์ขยายตัวร้อยละ 5.5 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 256ที่ร้อยละ 4.และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ ของปี 2568 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.3 โดยการใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มีมูลค่ามากที่สุด อยู่ที่ 1.45 ล้านล้านเปโซ ขยายตัวร้อยละ 5.7 รองลงมาได้แก่ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเชื้อเพลิง มีมูลค่า 591,656 ล้าน
เปโซ ขยายตัวร้อยละ 0.8 และด้านสินค้าเบ็ดเตล็ดบริการอื่นๆ มีมูลค่า 530,414 ล้านเปโซ ขยายตัวร้อยละ 4.ตามลำดับ

  1.4 อัตราเงินเฟ้อ 

            อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ในเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2568 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 1.4 และอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.4 ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในเดือนกรกฎาคม 2568 มีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของการขยายตัวในดัชนีค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเชื้อเพลิง รวมถึงการลดลงของค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ค่าขนส่ง ค่าบริการด้านการศึกษา และค่าใช้จ่ายการดูแลส่วนบุคคล สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด

แผนภูมิ 1 – อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2568

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568)              

 

           1.5 อัตราการจ้างงานและอัตราการว่างงาน

                  อัตราการจ้างงานในเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ร้อยละ 96.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2568 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 96.1 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ที่มีอัตราจ้างงานอยู่ที่ร้อยละ 96.9 สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่
ร้อยละ 3.7 ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 3.9 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 3.1

ตารางที่ 1 – สถิติด้านแรงงานของฟิลิปปินส์ เดือนมิถุนายน 2568

สถิติ

มิ.ย.68

พ.ค.68

มิ.ย.67

อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงาน  (Labor force participation rate)

ร้อยละ 65.7

ร้อยละ 65.8

ร้อยละ 66.0

อัตราการจ้างงาน (Employment rate)

ร้อยละ 96.3

ร้อยละ 96.1

ร้อยละ 96.9

อัตราการว่างงาน (Unemployment rate)

ร้อยละ 3.7

ร้อยละ 3.9

ร้อยละ 3.1

อัตราการทำงานต่ำกว่าระดับความรู้ความสามารถ/ วุฒิการศึกษา (Underemployment rate)

ร้อยละ 11.4

ร้อยละ 13.1

ร้อยละ 12.1

 ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568)

2. สถานการณ์การค้า (การส่งออก-นำเข้า)

           2.การส่งออก

                การส่งออกของฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มีมูลค่ารวม 41,244.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 256ที่มีมูลค่าส่งออก 36,442.62  ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 

ตารางที่ 2 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของฟิลิปปินส์ โดยจำแนกตามประเภทของสินค้า และตารางที่ 3 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของประเทศฟิลิปปินส์จำแนกตามตลาด

ตารางที่ 2 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของฟิลิปปินส์ แยกตามประเภทของสินค้า เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

ลำดับ

สินค้า

มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

   

1

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Products)

20,631.59

21,686.72

5.1

2

สินค้าสำเร็จรูป (Other Manufacturer Goods)

1,884.73

3,920.29

108.0

3

ผลิตภัณฑ์แร่อื่นๆ (Other Mineral Products)

1,433.59

1,840.51

28.4

4

เครื่องจักร และส่วนประกอบยานยนต์ 

1,261.29

1,511.73

19.9

5

น้ำมันมะพร้าว 

922.09

1,392.93

51.1

6

ชุดสายไฟจุดระเบิด และชุดสายไฟอื่นๆ ที่ใช้ในยานพาหนะ เครื่องบิน และเรือสินค้า

1,170.86

1,275.38

8.9

7

ทองคำ 

579.00

936.55

61.8

8

สารเคมี

906.63

914.00

0.8

9

กล้วย (สด)

645.16

790.29

22.5

10

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วน 

537.62

596.10

10.9

 

การส่งออกรวม 

36,442.62

41,244.67

13.2

ตารางที่ 3 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของประเทศฟิลิปปินส์ แยกตามตลาด
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

ลำดับ

ประเทศ

มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

1

สหรัฐอเมริกา

5,828.10

 

6,598.16

16.0

13.2

2

ญี่ปุ่น

5,055.10

5,811.24

14.1

15.0

3

ฮ่องกง

5,241.93

5,712.02

13.8

9.0

4

จีน

4,603.91

4,268.34

10.3

-7.3

5

เนเธอร์แลนด์

1,478.56

1,686.50

4.1

14.1

6

สิงคโปร์

1,403.53

1,673.44

4.1

19.2

7

เยอรมัน

1,257.13

1,567.07

3.8

24.7

8

เกาหลีใต้

1,855.50

1,555.60

3.8

-16.2

9

ไต้หวัน

1,475.46

1,484.38

3.6

0.6

10

ไทย

1,461.83

1,405.35

3.4

-3.9

 

การส่งออกรวม

36,442.62

41,244.67

100.0

13.2


ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568)

           

          

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 2.2 การนำเข้า

                การนำเข้าของฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มีมูลค่า 65,216.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 61,498.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 

ตารางที่ 4 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์ โดยจำแนกตามประเภทของสินค้า และตารางที่ 5 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์จำแนกตามแหล่งนำเข้า

ตารางที่ 4 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์ แยกตามประเภทของสินค้า
เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

ลำดับ

สินค้า

มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

   

1

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์

12,714.40

14,547.34

14.4

2

แร่ธาตุเพื่อพลังงานเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น

10,108.71

8,439.70

-16.5

3

ส่วนประกอบยานยนต์

5,221.62

6,492.76

24.3

4

เครื่องจักรอุตสาหกรรม และส่วนประกอบ

2,822.62

3,208.38

13.7

5

อาหาร และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ  

2,426.86

2,799.19

15.3

6

เหล็ก และเหล็กกล้า

2,656.08

2,660.36

0.2

7

สินค้าเบ็ดเตล็ด

2,172.40

2,400.64

10.5

8

ธัญพืช

2,680.87

2,396.10

-10.6

9

ชิ้นส่วนโทรคมนาคม และเครื่องจักรไฟฟ้า 

1,695.98

2,190.90

29.2

10

พลาสติกในรูปแบบปฐมภูมิและไม่ใช่ปฐมภูมิ

1,375.97

1,606.03

16.7

 

การนำเข้ารวม

61,498.66

65,216.67

6.0

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568) 

ตารางที่ 5 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์ แยกตามแหล่งนำเข้า เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

ลำดับ

ประเทศ

มูลค่า: ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

1

จีน 

15,596.86

18,471.04

28.3

18.4

2

ญี่ปุ่น 

4,889.21

5,316.84

8.2

8.7

3

อินโดนีเซีย

4,927.63

5,204.03

8.0

5.6

4

เกาหลีใต้

4,569.94

4,772.08

7.3

4.4

5

สหรัฐอเมริกา

4,078.35

3,848.09

5.9

-5.6

6

ไทย

3,656.07

3,723.11

5.7

1.8

7

เวียดนาม

2,632.43

2,916.90

4.5

10.8

8

สิงคโปร์

2,976.84

2,776.01

4.3

-6.7

9

มาเลเซีย

3,123.51

2,771.33

4.2

-11.3

10

ไต้หวัน

1,898.80

2,130.37

3.3

12.2

 

การนำเข้ารวม

61,498.66

65,216.67

100.0

6.0

 ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568)  

           2.3 มูลค่าการค้าระหว่างไทย – ฟิลิปปินส์

มูลค่าการค้ารวมของไทยกับฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม มิถุนายน 256มีมูลค่า 5,334.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 256ที่มีมูลค่า 5,344.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.60 ของการค้าไทยไปทั่วโลก สำหรับการส่งออกจากไทยไปยังฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม มิถุนายน 256มีมูลค่า 3,742.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.91 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 3,708.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.24 ของ
การส่งออกไปทั่วโลก ในขณะเดียวกันไทยมีการนำเข้าจากฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 มีมูลค่า 1,592.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่านำเข้า 1,635.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.95 ของการนำเข้าจากทั่วโลก 

                 สรุปการค้าระหว่างไทย ฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - มิถุนายน 256ปรากฏว่าไทยได้เปรียบดุลการค้าฟิลิปปินส์ เป็นมูลค่า 2,149.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ตารางที่ 6 – สรุปการค้าระหว่างประเทศของไทยกับฟิลิปปินส์ เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

การค้าระหว่าง

ไทย - ฟิลิปปินส์

มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อัตราขยายตัว

(ร้อยละ)

สัดส่วนต่อการค้าโลก

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

มูลค่าการค้า

5,344.29

5,334.89

0.89

-0.18

1.81

1.60

ไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์

3,708.40

3,742.08

-0.62

0.91

2.56

2.24

ไทยนำเข้าจากฟิลิปปินส์

1,635.88

1,592.81

4.49

-2.63

1.09

0.95

ดุลการค้า 

2,072.52

2,149.27

-4.31

3.70

-

-

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568) 

           2.4 การส่งออกสินค้าของไทยไปยังฟิลิปปินส์

                 เมื่อพิจารณาสินค้า อันดับที่ไทยส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 พบว่า สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 1,171.50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.59 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมา ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ตามลำดับ

ตารางที่ 7 – การส่งออกสินค้า อันดับของไทยไปยังฟิลิปปินส์ เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

 

อันดับ

 

รายการสินค้า

มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อัตราขยายตัว

(ร้อยละ)

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

1.

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

1,240.92

1,171.50

5.72

-5.59

33.46

31.31

2.

แผงวงจรไฟฟ้า

246.96

285.12

-16.46

15.45

6.66

7.62

3.

เม็ดพลาสติก

121.33

158.71

-1.65

30.81

3.27

4.24

4.

เครื่องสำอาง สบู่ และ

ผลิตภัณฑ์รักษาผิว

128.58

137.89

-10.55

7.23

3.47

3.68

5.

เครื่องจักรกล และส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

101.74

130.70

-13.92

28.46

2.74

3.49

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568)

           2.5 การนำเข้าของไทยจากฟิลิปปินส์

                 เมื่อพิจารณาการนำเข้าสินค้า 5 อันดับของไทยจากฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม มิถุนายน 256พบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่าสูงสุด 499.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 27.58 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ตามลำดับ 

ตารางที่ 8 - การนำเข้าสินค้า 5 อันดับของไทยไปยังฟิลิปปินส์ เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567/ 2568

 

อันดับ

 

รายการสินค้า

มูลค่า

 (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อัตราขยายตัว

(ร้อยละ)

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

ม.ค.-มิ.ย.67

ม.ค.-มิ.ย.68

1.

เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ

391.29

499.22

61.98

27.58

23.92

31.34

2.

แผงวงจรไฟฟ้า

315.49

325.83

10.36

3.27

19.29

20.46

3.

เครื่องจักรไฟฟ้า และส่วนประกอบ 

136.72

147.49

-1.81

7.88

8.36

9.26

4.

ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ยานยนต์

133.26

131.30

4.47

-1.47

8.15

8.24

5.

สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะ และผลิตภัณฑ์

248.21

101.05

-12.13

-59.29

15.17

6.34

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 14 สิงหาคม 2568)

3. สถานการณ์และภาวะสินค้าเป้าหมายของไทยในตลาดฟิลิปปินส์

แนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยมายังฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 ประเภทสินค้าหลักของไทยที่มีการขยายตัวในการส่งออกมายังตลาดฟิลิปปินส์ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องจักรกล และส่วนประกอบของเครื่องจักรกล โดยสรุปข้อมูลสถานการณ์ และภาวะสินค้าโดยสังเขป ดังนี้ 

           3.1 แผงวงจรไฟฟ้า

                 ความต้องการแผงวงจรไฟฟ้าในฟิลิปปินส์มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในฟิลิปปินส์สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้มากขึ้นตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยมายังฟิลิปปินส์ขยายตัวตามไปด้วย โดยแผงวงจรไฟฟ้าเป็นกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกมาฟิลิปปินส์มากเป็นอันดับที่ 2 โดยมีมูลค่าการส่งออกในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 285.12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.45 จากในช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 246.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์และไทยถือว่ามีห่วงโซ่อุปทานภูมิภาค (Regional Supply Chain) ร่วมกันในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในฐานะเป็นฐานการผลิตเช่นเดียวกัน โดยมีการส่งออก - นำเข้าสินค้าดังกล่าว เพื่อผลิตและเป็นส่วนประกอบก่อนส่งออกไปยังตลาดโลก โดยไทยถือเป็นผู้ส่งออกแผงวงจรไฟฟ้าและชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำคัญ และฟิลิปปินส์มีการนำเข้าแผงวงจรไฟฟ้าจากประเทศไทยเพื่อมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป

           3.2 เม็ดพลาสติก

ความต้องการสินค้าเม็ดพลาสติกในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 มีมูลค่าอยู่ที่ 158.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ เม็ดพลาสติกถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ การก่อสร้างและอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกในตลาดอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งต้องใช้เม็ดพลาสติกมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต

           3.3 เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว

                  ความต้องการสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดฟิลิปปินส์ เป็นสินค้าที่มีศักยภาพที่ไทยส่งออกมาฟิลิปปินส์ โดยในเดือนมกราคม - มิถุนายน ขยายตัวร้อยละ 7.23 มีมูลค่า 137.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 128.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ชาวฟิลิปปินส์มีแนวโน้มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญกับความสวยความงามมากขึ้น รวมถึงการได้รับอิทธิพลจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านความงาม การดูแลผิวพรรณและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามที่แตกต่างกันไป ทำให้สินค้าประเภทเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดส่งออกมายังฟิลิปปินส์เพิ่มมากขึ้น

           3.4 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

ตลาดเครื่องจักรกลในฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการของภาคการผลิตโดยเฉพาะภาคอาหารที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจและจำนวนประชากรขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องกล นับเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีศักยภาพของไทยในตลาดฟิลิปปินส์ และมีแนวโน้มขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะเครื่องจักรกลการเกษตร เนื่องจากมีความทันสมัยและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ โดยในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 ไทยส่งออกเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกลมายังฟิลิปปินส์ มูลค่า 130.70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.46 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 101.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

           ข้อสังเกตเพิ่มเติม                                                              

           ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ในไตรมาสที่สองของปี 2568 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 5.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.4 ในไตรมาสที่หนึ่ง และถือเป็นระดับสูงสุดในรอบสี่ไตรมาสที่ผ่านมา และยังเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยสูงกว่าจีน (ร้อยละ 5.2) อินโดนีเซีย (ร้อยละ 5.1) มาเลเซีย (ร้อยละ 4.5) และสิงคโปร์ (ร้อยละ 4.3) การขยายตัวของเศรษฐกิจในฟิลิปปินส์เป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ระหว่างร้อยละ 2 - 4 ประกอบกับต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง และตลาดแรงงานที่มีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง ฟิลิปปินส์มีแรงงานในระบบจำนวน 52.4 ล้านคน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงปริมาณแรงงานที่เพียงพอและคุณภาพของการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นจากอัตราการว่างงาน ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการบริโภคภาคครัวเรือนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของ GDP รวมถึงความแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนรวมในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Capital Formation) เติบโตร้อยละ 2.6 โดยได้รับการสนับสนุนจากการก่อสร้างภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 และการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและการขยายตัวของธุรกิจ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสามารถชดเชยการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาครัฐที่ได้รับผลกระทบจากการห้ามเบิกจ่ายงบประมาณสาธารณะเป็นระยะเวลา 45 วันช่วงก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และแม้ว่าฟิลิปปินส์จะเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก อาทิ นโยบายการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้แก่ พายุไต้ฝุ่น ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพบริการสาธารณะในด้านการศึกษา การสาธารณสุข ความมั่นคงด้านอาหาร และโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพ และดิจิทัล รวมถึงผลักดันการดำเนินโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership: PPP) เพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างโอกาสการจ้างงานเพิ่มขึ้น กระทรวงการท่องเที่ยวประกาศยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa-Free Entry) ให้แก่นักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียและไต้หวัน มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ การประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมประสิทธิภาพของตลาดทุน (Capital Markets Efficiency Promotion Act: CMEPA) มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่องในตลาดทุน กระตุ้นกิจกรรมการซื้อขาย และส่งเสริมการระดมทุน เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน

           สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ การส่งออกสินค้าไทยมายังฟิลิปปินส์ยังคงขยายตัว โดยในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 พบว่าการส่งออกสินค้าของไทยมาฟิลิปปินส์ที่ยังคงขยายตัวได้ดีและมีศักยภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติก (+ร้อยละ 10.60) เคมีภัณฑ์ (+ร้อยละ 9.19)  ผลิตภัณฑ์ยาง (+ร้อยละ 13.63) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ และส่วนประกอบ (+ร้อยละ 42.70) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (+ร้อยละ 56.40) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+ร้อยละ 10.79) และเครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบ (+ร้อยละ 0.63) เป็นต้น 

 

-------------------------------------------------------------------------------

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

15 สิงหาคม 2568                                         

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์กรกฎาคม 2568 RV.pdf
Share :
Instagram