บีวายดี (BYD) เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำจากจีนที่ก้าวเข้ามาในตลาดไทยด้วยความมุ่งมั่น และแผนงานที่ชัดเจน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา BYD สามารถสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ซึ่งหากย้อนกลับไปในปี 2564 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังถือว่ายังเล็กมากเมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์โดยรวมที่รถยนต์ไฟฟ้าขายได้เพียงประมาณ 2,000 คันทั่วประเทศ และ BYD เอง ก็ยังไม่เป็นรู้จักในตลาดนี้มากนัก อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ BYD ในเวลาต่อมาเป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นที่น่าประทับใจมาก โดยในปี 2567 BYD สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยได้มากกว่า 27,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 40 เท่า และในช่วงเพียงห้าเดือนแรกของปี 2568 BYD ก็สามารถทำยอดขายได้เกือบเท่ากับยอดขายของทั้งปี 2567
การเติบโตที่ก้าวกระโดดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า BYD ได้ครองใจผู้บริโภคไทยและสามารถแซงหน้าแบรนด์อื่น ๆ ที่อยู่ในตลาดเดียวกัน ส่งผลให้ BYD ขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 3 ของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากว่าร้อยละ 40 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมากในระยะเวลาอันสั้น โดยการเติบโตนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลข แต่ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและการยอมรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
ปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จและการตอบโจทย์ตลาดไทย
ความสำเร็จของ BYD ในตลาดไทยไม่ได้มาโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากการวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับบริบทของตลาดไทยอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะความสามารถในตอบรับกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่ร้อนชื้น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายรัฐบาลล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง
อีกทั้ง รัฐบาลไทยได้ประกาศแผน “30&30” ซึ่งมีเป้าหมายให้ภายในปี 2573 รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วน เป็นร้อยละ 30 ของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ พร้อมออกมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การลดภาษี และสิทธิประโยชน์สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น นโยบายเหล่านี้ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ BYD ลงทุนและขยายการผลิตในประเทศไทย จึงได้จัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในต่างประเทศที่ประเทศไทย โดยโรงงานนี้ไม่ใช่แค่โรงงานประกอบรถยนต์เท่านั้น แต่ยังสามารถผลิตชิ้นส่วนหลักอย่างแบตเตอรี่และชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ครบวงจร ซึ่งช่วยลดต้นทุนการนำเข้าและทำให้ราคาของรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในไทยมีความสามารถแข่งขันสูง
นอกจากนี้ BYD ยังมีการลงทุนในการปรับแต่งรถยนต์ให้เหมาะกับสภาพอากาศของไทย เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศและระบบระบายความร้อน เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ดี แม้ในวันที่อากาศร้อนจัด รวมทั้งการเสริมความทนทานของแบตเตอรี่ให้สามารถทนต่อความชื้นและน้ำได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า BYD สามารถที่จะเข้าใจและใส่ใจในความต้องการของตลาดไทยได้อย่างแท้จริง
การพัฒนากำลังคนและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง
นอกจากการผลิตและการออกแบบรถยนต์ให้เหมาะกับตลาดแล้ว BYD ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่พนักงานของ BYD ในไทยเป็นคนไทยกว่าร้อยละ 90 และได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อเพิ่มทักษะที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพแรงงานไทยและเพิ่มโอกาสการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ BYD ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบริการหลังการขายที่แข็งแกร่งขึ้น โดยขยายศูนย์บริการและเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายไปทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการซ่อมบำรุงและอะไหล่ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว การลงทุนในส่วนนี้ช่วยลดความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า และสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้น จากจุดอ่อนที่เคยมีในอดีต BYD จึงได้เปลี่ยนมาเป็นจุดแข็งที่สร้างความพึงพอใจและความไว้วางใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่าง BYD กับประเทศไทยและอนาคตของตลาดรถไฟฟ้า
ความร่วมมือระหว่าง BYD และประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยประเทศไทยได้รับการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่ทันสมัยและสร้างงานที่มีคุณภาพ ขณะที่ BYD ได้ฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ BYD มุ่งมั่นที่จะอยู่ในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ไม่เพียงแต่จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศ โดยการสร้างเครือข่ายซัพพลายเออร์และพันธมิตรในไทยเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ในอนาคต BYD เชื่อว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว และรถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ BYD ยังวางแผนขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ผ่านเครือข่ายโรงงานและพันธมิตรที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู
บีวายดี (BYD) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำจากจีนได้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ด้วยการลงทุนตั้งโรงงานผลิตครบวงจรในไทยและปรับแต่งรถยนต์ให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศและความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ BYD มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่าร้อยละ 40 และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ซึ่งความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดจากปัจจัยด้านเทคโนโลยีเพียงประการเดียว หากแต่เกิดจากการวิเคราะห์ตลาดอย่างลึกซึ้ง และการปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการกำหนดระดับราคาที่แข่งขันได้ทำให้สามารถขยายฐานผู้บริโภคในไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถแข่งขันในตลาดที่มีความหลากหลายและมีการแข่งขันสูงได้อย่างยั่งยืน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ นครเฉิงตู จึงมีความเห็นว่า ผู้ประกอบการไทยควรใช้บทเรียนจากความสำเร็จของ BYD เป็นแรงบันดาลใจในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตในอุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลกได้อย่างมั่นคง
-----------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
กรกฎาคม 2568
แหล่งข้อมูล
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1803993103744490849&wfr=spider&for=pc
https://www.finnomena.com/fruhling/know-byd/