ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 พบว่าการบริโภคในประเทศจีนได้กลายเป็นเสาหลักแห่งการเติบโตที่มั่นคง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในที่น่าจับตามองหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจสูงวัย (Silver Economy) ที่ขยายตัว การจับจ่ายตามอารมณ์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และสงครามส่งด่วนทันทีที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนความต้องการบริโภค แต่ยังเร่งการเปลี่ยนรูปแบบพื้นฐานการประกอบธุรกิจในจีนด้วย
ความร้อนแรงของการบริโภครูปแบบใหม่ยังคงสูง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จีนมียอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคถึง 24.55 ล้านล้านหยวน (115.38 ล้านล้านบาท) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 (YoY) โดยเฉพาะไตรมาส 2 ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5.4 (YoY) (ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกร้อยละ 0.8 (MoM)) โดยรายจ่ายเพื่อการบริโภคขั้นสุดท้ายมีส่วนช่วยในการเติบโตของ GDP ถึงร้อยละ 52 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ภายในประเทศจีนมีการฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นการบริโภคในประเทศจีน รวมทั้งความต้องการบริโภครูปแบบใหม่ ซึ่งช่วยขยายอุปสงค์การค้าปลีกในประเทศจีนให้เติบโตขึ้น ดังนี้
(1) ดิจิทัลในเศรษฐกิจสูงวัยกำลังเร่งตัวขึ้น พฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มผู้สูงอายุก็กำลังค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตลาดเช่นเดียวกัน ภายใต้การขับเคลื่อนของนโยบายและโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เทคโนโลยีที่เหมาะกับผู้สูงอายุ+บริการ กลายเป็น New Blue Ocean ที่มีศักยภาพมหาศาล จากข้อมูลสำนักงานสรรพากรแห่งชาติจีนเปิดเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ยอดการซื้อบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 (YoY) โดยบริการเทคโนโลยีดูแลผู้สูงอายุอัจฉริยะอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุ และบริการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 30 แสดงให้เห็นว่าสินค้า/บริการด้านดิจิทัลที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุรูปแบบใหม่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มพัฒนา และเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก เช่น การจัดการสุขภาพอัจฉริยะ และการดูแลระยะไกล เป็นต้น
(2) เศรษฐกิจความสุข (Economics of Happiness) ปัจจุบันพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจีนมีความซับซ้อนมากขึ้น จากเดิมที่จะตัดสินใจซื้อจากราคา รายได้ และความคุ้มค่า แต่จะเพิ่มการให้คุณค่ากับอารมณ์ความรู้สึก และความสุขด้วย “การจับจ่ายตามอารมณ์” กลายเป็นวลีหรือคำยอดนิยม ซึ่งเกิดจากความกำลังซื้อที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ไม่ได้ต้องการเพียงแต่ฟังก์ชั่นการใช้งานหรือความทนทานของสินค้าเพียงอย่างเดียว
จากรายงานแนวโน้มการบริโภคตามความชอบในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 พบว่า ผู้บริโภคเกือบร้อยละ 70 มีความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายเพื่อความสุข และผู้บริโภคกว่าร้อยละ 20 ยินดีจ่ายเงินโดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อความสุข นอกจากนี้ได้มีผลการสำรวจการใช้จ่ายของผู้บริโภคไปกับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบหรือสนใจ ดังนี้
- ผู้บริโภคร้อยละ 34 ใช้จ่ายประมาณ 200 - 500 หยวนต่อเดือน
- ผู้บริโภคร้อยละ 27 ใช้จ่ายประมาณ 501 – 1,000 หยวนต่อเดือน
- ผู้บริโภคร้อยละ 20 ใช้จ่ายประมาณ 200 หยวนต่อเดือน
- ผู้บริโภคร้อยละ 14 ใช้จ่ายประมาณ 1,001 – 3,000 หยวน
- ผู้บริโภคร้อยละ 5 ใช้จ่ายมากกว่า 3,000 หยวนต่อเดือน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าหลักการการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มเปลี่ยนจากการซื้อสินค้าสู่การซื้อความรู้สึก จากการเน้นคุณสมบัติเป็นการซื้อตามความพอใจ อาทิ กล่องสุ่ม บริการบำบัด ความบันเทิง และการซื้อประสบการณ์ เป็นต้น ซึ่งกลายเป็นกลไกหลักในการกระตุ้นศักยภาพการบริโภค
(3) การค้าปลีกแบบจัดส่งทันที การแข่งขันของสงครามส่งด่วนที่สามารถตอบสนองการซื้อแบบทันทีทันใดเป็นรูปแบบการค้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนรูปแบบใหม่ในชีวิตประจำวัน ข้อมูลจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเฉลี่ยต่อวันของการค้าปลีกแบบจัดส่งทันทีในช่วงเทศกาล 618 ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นเป็นสองร้อยล้านคำสั่งซื้อ (จากหนึ่งร้อยล้านคำสั่งซื้อในเดือนก่อน) แสดงให้เห็นว่าการค้าปลีกแบบจัดส่งทันที กำลังแทนที่การซื้อแบบปกติที่ต้องรอสินค้า 1-3 วัน ซึ่งจะมีผลต่อการปรับโครงสร้างกลยุทธ์และการบริหารจัดการการค้าปลีกอีคอมเมิร์ซแบบส่งด่วน
(4) การบริโภคสีเขียวมีการปรับปรุงและขยายกว้างขึ้น นโยบายเก่าแลกใหม่มีส่วนกระตุ้นการบริโภคสินค้าอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่ายอดค้าปลีกรถยนต์พลังงานใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 (YoY) และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะมีการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอื่น
เสียงสะท้อน/แนวโน้มการลงทุนที่น่าจับตา
การความสำคัญกับแนวโน้มโครงสร้างสังคมและวิวัฒนาการความชอบของผู้บริโภค เมื่อพิจารณาจากมุมมองระยะกลางถึงระยะยาว สรุปได้ดังนี้
1) การบริโภคเพื่อตอบสนองอารมณ์และความพึงพอใจส่วนตัว แนวโน้มการบริโภคที่แสดงออกผ่านคุณค่าทางอารมณ์และการจ่ายเพื่อความสุข กำลังเป็นกระแสมากขึ้น ผู้ประกอบการจะพัฒนาไปสู่การสร้างแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ความสามารถในการดึงดูดลูกค้า และการควบคุมราคา จะถือเป็นผู้นำตลาดในระยะยาวอย่างแท้จริง โดยประเภทธุรกิจที่ตอบสนองตลาดกลุ่มนี้ ได้แก่ บริการด้านวัฒนธรรมและความบันเทิง อาทิ ภาพยนตร์และโทรทัศน์ การแสดง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และคาแรกเตอร์ เป็นต้น และสินค้าเพื่อการดูแลตนเอง อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและความงาม ชุดกีฬา น้ำหอมเฉพาะกลุ่ม รวมทั้งสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
2) บริการที่เหมาะกับผู้สูงอายุ อาทิ แฟรนไชส์ร้านขายยา เฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้สูงอายุ เครื่องช่วยเหลือและบริการดูแลผู้สูงวัย ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการจะมีการแข่งขันสูงในการสร้างความได้เปรียบด้านช่องทางจัดจำหน่าย และความสะดวกในการใช้ผลิตภัณฑ์
3) ค้าปลีกแบบจัดส่งทันทีและพื้นฐานโลจิสติกส์ กระแสดการค้าปลีกแบบจัดส่งทันที เร่งการปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานโลจิสติกส์ในหลายประเภท อาทิ โลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็น (cold chain) และ คลังสินค้าล่วงหน้า
4) การแทรกซึมแบบครบวงจรของการบริโภคสีเขียว การสนับสนุนของนโยบายรัฐและการตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค แนวโน้มการบริโภคคาร์บอนต่ำจะยังคงต่อเนื่องตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต การจัดจำหน่าย การบริโภคขั้นสุดท้าย ไปจนถึงขั้นตอนรีไซเคิลกำลังเป็นช่องทางใหม่
ความเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว
การฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศจีน และแนวโน้มการบริโภครูปแบบใหม่ เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการขยายตลาดสินค้าและบริการ อาทิ คาแรกเตอร์ ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะมวยไทย การท่องเที่ยว หรือผลิตภัณฑ์บริการอื่นๆ อาทิ สปาสมุนไพรไทย บำบัดความเครียด เพื่อตอบโจทย์ชาวจีนรุ่นใหม่ที่ต้องการบริโภคตามอารมณ์ รวมถึงสินค้าและบริการกลุ่มสูงวัย ทั้งนี้ยังสามารถตอบรับกระแสค้าปลีกแบบจัดส่งทันทีในการร่วมมือกับคู่ค้าท้องถิ่น/แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ cold chain ข้ามพรมแดน+คลังสินค้า สำหรับสินค้าผลไม้สดของไทยอย่างทุเรียน มังคุด มะพร้าว รวมทั้งอาหารพร้อมทาน ให้สามารถจัดส่งถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา : https://www.21jingji.com/article/20250728/herald/c1fd823dafaf0ef9ce862e4e2ae570a5.html