เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ข่าวจากสำนักข่าวออนไลน์ https://tribune.com.pk รายงานว่าเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำปากีสถาน นายฝ่าม อัน ตวน (H.E. Pham Anh Tuan) เปิดเผยว่า เวียดนามและปากีสถาน ได้ตกลงร่วมกันที่จะพิจารณาจัดทำข้อตกลงการค้าพิเศษ (Preferential Trade Agreement- PTA) เพื่อเป็นรากฐานทางกฎหมายที่มั่นคง ในการขยายการเข้าถึงตลาดและลดอัตราภาษีศุลกากร ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว APP เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตกล่าวว่า หลังจากการสรุปข้อตกลง PTA ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมการค้าและการลงทุนทวิภาคี เพื่อมุ่งสู่การจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement- FTA) ที่ครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต
การประชุมคณะกรรมการการค้าทวิภาคีครั้งสำคัญ
ในการประชุมครั้งที่ 5 ของคณะกรรมการการร่วมการค้าปากีสถาน-เวียดนาม (Pakistan-Vietnam Joint Trade Committee- JTC) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี เอกอัครราชทูตระบุว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่เชิงยุทธศาสตร์ หลังจากที่คณะกรรมการ JTC ไม่ได้จัดการประชุมมานานถึง 8 ปี โดยคณะกรรมการดังกล่าว ทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นระบบ และเป็นช่องทางสำหรับการเจรจาอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 เวียดนามได้ยื่นร่างข้อตกลง PTA อย่างเป็นทางการ พร้อมรายการสินค้าส่งออกสำคัญกว่า 80 รายการ โดยขอให้ปากีสถานพิจารณาลดอัตราภาษีศุลกากรลงเหลือ 0-5% ซึ่งปากีสถานตอบรับข้อเสนอนี้ด้วยความยินดี และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการศึกษาและเริ่มการเจรจาภายในปีนี้
ผลลัพธ์จากการประชุม JTC
ผลสำเร็จจากการประชุม JTC รวมถึงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนธุรกิจ การจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ รวมถึงการส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่าย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญของกันและกัน โดยเวียดนาม ได้ขอให้ปากีสถานสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยมากขึ้น สำหรับผู้ประกอบการชาวเวียดนามที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าในปากีสถาน และเชิญชวนให้ปากีสถานเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญในเวียดนาม เช่น Saigontex, Hanoitex, SaigonFabric และ HanoiFabric ในทางกลับกัน ปากีสถานได้เชิญชวนให้เวียดนามเข้าร่วมงานนิทรรศการในปากีสถาน เช่น Texpo, HEMS และ FoodAg
ความสำคัญของปากีสถานในอุตสาหกรรมสิ่งทอของเวียดนาม
เอกอัครราชทูตเน้นย้ำว่า เวียดนามให้ความสำคัญกับปากีสถานในฐานะผู้ส่งออกเส้นใยรายใหญ่อันดับที่ 14 ของกรุงฮานอย โดยเวียดนามมีความประสงค์ที่จะเพิ่มการนำเข้าฝ้าย ผ้า และวัตถุดิบจากปากีสถาน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อการส่งออกของเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศความร่วมมือด้านประมงและการแก้ไขอุปสรรค
ในด้านความร่วมมือด้านการประมง เอกอัครราชทูตระบุว่า เนื้อปลาแปรรูป (fish fillets) คิดเป็นสัดส่วนถึง 98% ของการส่งออกสินค้าประมงของเวียดนามไปยังปากีสถาน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะขจัดอุปสรรคทางการค้า แก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์ที่มีอยู่อย่างจำกัด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการค้าสินค้าประมงอย่างยั่งยืนมองสู่อนาคต
การฟื้นฟูการประชุม JTC และการริเริ่มข้อตกลง PTA เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นของทั้งเวียดนามและปากีสถานในการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การลดอัตราภาษีและการขยายโอกาสทางการค้าจะช่วยเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนทวิภาคี ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
ที่มาข่าว/ภาพ: https://tribune.com.pk/story/2558999/pakistan-vietnam-to-finalise-pta-soon