กระทรวงพาณิชย์เร่งผลักดันตลาดข้าวไทยและประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยหรือ “ตราเขียว” เชิงรุกในประเทศสเปน รวมถึงโปรตุเกส และอันดอร์รา หรือกลุ่มประเทศคาบสมุทรไอบีเรีย ตอกย้ำคุณภาพมาตรฐานของข้าวที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศไทย โดยผนึกกำลังกับพันธมิตรผู้นำเข้า ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหาร Thai SELECT ในการสร้างการรับรู้ กระตุ้นการบริโภค และเพิ่มกระแสความนิยม หวังดันมูลค่าส่งออกโตทะลุ 10%
ตราเขียว คืออะไร
เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย (Thai Hom Mali Rice Certification Mark) หรือเรียกว่า เครื่องหมายตราเขียว หรือตรารวงข้าว เป็นเครื่องหมายที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ออกให้ผู้ประกอบการเพื่อรับรองคุณภาพและมาตรฐานของข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เครื่องหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในต่างประเทศ และส่งเสริมการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยผู้ประกอบการที่ต้องการใช้เครื่องหมายนี้จะต้องขออนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศ ช่วยให้ตรวจสอบได้ว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทยแท้หรือไม่ และมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาการปลอมแปลง การลอกเลียนแบบ
สำหรับประเทศสเปน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยไว้ตั้งแต่ปี 2545 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการส่งเสริมและสร้างความรับรู้ในเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในต่างประเทศ โดยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงมาดริด เชิญชวนให้ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในต่างประเทศมาขอใช้เครื่องหมายรับรองฯ ปัจจุบันมีร้านอาหารที่ได้รับตรารับรองฯ ทั้งสิ้น 14 แห่งและอยู่ระหว่างขอรับอนุญาตเพิ่มเติมเนื่องจากผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญของการรับรองข้าวหอมมะลิไทยแท้ สร้างความแตกต่างจากข้าวที่มีแหล่งกำเนิดจากแห่งอื่น
กองมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออกลงพื้นที่สร้างการรับรู้ หารือพันธมิตร และตรวจสอบคุณภาพข้าวในตลาด
เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในเชิงรุก นายวรวิทย์ หมื่นทอง ผู้อำนวยการกองมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำคณะตะลุยตลาดสเปนสร้างการรับรู้ "เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย" ซึ่งได้มีการจดทะเบียนไว้ในสเปนตั้งแต่ปี 2545 โดยเดินสายมอบประกาศนียบัตรให้กับร้านอาหารไทยที่สมัครขอรับตราฯ เพื่อรับรองว่าร้านอาหารใช้ข้าวหอมมะลิไทยที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานจากประเทศไทยอย่างแท้จริงในการให้บริการลูกค้า พร้อมทั้งหารือกับผู้บริหารห้างสรรพสินค้า El Corte Ingles ถึงแนวทางการส่งเสริมข้าวไทยในตลาดสเปน และประชุมร่วมกับผู้บริหารสถาบัน Instituto de Ciencia y Tecnología de Alimentos y Nutrición (ICTAN-CSIC) ซึ่งเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านอาหารและโภชนาการเกี่ยวกับมาตรฐานข้าวและการยกระดับข้าวไทยด้วย
ทั้งนี้ สถาบันฯ อยู่ระหว่างการวิจัยเพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้โครงการความร่วมมือข้าวไทย - ราชอาณาจักรสเปน (INNOVARICE) เป้าหมายเพื่อพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูง ดัชนีน้ำตาลต่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยการปรับปรุงพันธุ์ข้าว 2 สายพันธุ์ ระหว่างข้าวไรซ์เบอร์รี่ หรือข้าวสีม่วง (ไทย) ที่มีจุดเด่น คือ ดัชนีน้ำตาลต่ำ กับข้าว Japonica (สเปน) ที่ให้ผลผลิตสูง ซึ่งจะทำให้ได้ข้าวดัชนีน้ำตาลต่ำที่ให้ผลผลิตสูง และจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ในตลาดสุขภาพ ในโอกาสนี้ยังได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดข้าวทั้งในซุปเปอร์มาร์เกตกระแสหลัก อาทิ Mercadona, El Corte Ingles, BM, Costco และร้านค้าเอเชีย ได้แก่ Thai Market Spain, Iberochina, Wenzhou สำรวจและเก็บตัวอย่างตรวจสอบคุณภาพด้วย
ผุดแคมเปญ “ข้าวผัดกุ้ง” ร่วมกับห้างยักษ์ใหญ่ “El Corte Ingles”
ในเดือนที่ผ่านมา สคต. ร่วมกับห้าง El Corte Ingles ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งของสเปน ผลักดันเมนู “ข้าวผัดกุ้ง” ภายใต้แคมเปญ COCINA DEL MUNDO หรือ "อาหารจากครัวทั่วโลก" ณ จุดจำหน่ายกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ เจาะกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นระดับกลางถึงบน สามารถส่งเสริมตลาดข้าวหอมมะลิไทย สร้างการรับรู้ และกระแสความนิยมข้าวจากไทย สิ่งปรุงรสไทย ตลอดจนการรับรู้เกี่ยวกับมาตรฐานข้าวไทย "ตราเขียว" ควบคู่กับ "Thai SELECT" ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคสเปนรับรู้มากกว่า 1 ล้านครั้ง และมีการพิมพ์แผ่นรองจานรูปข้าวผัดกุ้งพร้อมตรารวงข้าวและตรา Thai SELECT สำหรับการปรุงรส เป็นการปรุงด้วยสูตรไทยแท้ ใช้ซอสปรุงรสที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เท่านั้น ได้แก่ ซีอิ๊วตราเด็กสมบูรณ์ น้ำปลาแท้ตราปลาหมึก ควบคุมและพัฒนารสชาติอย่างเข้มข้น มีการสาธิตปรุงจากเชฟ Thai SELECT ในท้องถิ่นเพื่อกระจายสูตรต่อไปยังสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากการนำเสนอรสชาติไทยแท้แล้ว สคต. ยังมุ่งนำเสนออัตลักษณ์ครัวไทยในมิติการนำเสนอและตกแต่งจานอาหารที่ส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของ Soft Power อาหารของไทยด้วย
สหภาพยุโรป (EU) ถือเป็นกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญของข้าวหอมมะลิไทย โดยเมื่อปี 2567 ไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปประเทศในกลุ่ม EU ประมาณ 139,000 ตัน มูลค่าประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยเมื่อปี 2567 ไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปสเปน ประมาณ 15,265 ตัน มูลค่าประมาณ 447 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 11 ของปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยทั้งหมดไปสหภาพยุโรป
5 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่า 8.27 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 21.81 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 14 ของไทยไปยังสเปน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.46 ของการส่งออกทั้งหมดของไทยไปยังสเปน
ข้อคิดเห็นของ สคต.
ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ผลักดันให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จัก มีภาพลักษณ์ดี ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นในสเปน สะท้อนผ่านการกล่าวถึงในสื่อท้องถิ่น เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายสินค้าข้าวไทยมากขึ้น มูลค่าการส่งออกสินค้าข้าวไทยเข้ามายังตลาดสเปนขยายตัว โดยเฉพาะการร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า El Corte Ingles ซึ่งเป็นห้างหลักของสเปนที่มีลูกค้าประจำเป็นชาวสเปนกำลังซื้อปานกลาง - สูง จำนวน 11.8 ล้านราย (อ้างอิงจากจำนวนผู้ถือบัตร Shopping card ของห้าง) นับเป็นเวทีที่ดีในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้าวไทยและเมนูไทยอื่นๆ รวมทั้งเป็นการวางตำแหน่งอาหารไทยในระดับกลางถึงบน ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้ดี
สคต. เห็นว่าข้าวไทยในสเปนมีศักยภาพที่จะเติบโตเนื่องจากตลาดของผู้บริโภคท้องถิ่นยังมีช่องว่างอีกมาก โดยปัจจุบันชาวสเปนบริโภคข้าว 6 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ขณะที่ชชาวไทยบริโภคข้าว 142 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ดังนั้นจึงสามารถผลักดันให้เป็นคาร์โบไฮเดรตทางเลือกที่เข้ามาแทนที่ขนมปัง หรือมันฝรั่ง ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตหลักดั้งเดิมของชาวสเปน อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณประโยชน์ทางโภชนาการ สร้างจุดเด่นให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันไทยและสเปนมีโครงการวิจัยสายพันธุ์ข้าวร่วมกันเพื่อพัฒนา "ข้าวดัชนีน้ำตาลต่ำและโภชนาการสูง" รองรับ health conscious consumers เพื่อแย่งชิงสัดส่วนตลาดข้าวท้องถิ่นและข้าว Basmati จึงเห็นควรผลักดันข้าวไทยในสเปนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด โดยมุ่งเน้นผู้บริโภคระดับกลางถึงบนต่อไป โดยอาจพิจารณานำเสนอข้าวไทยในแง่มุมด้านสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากเป็นแนวโน้มที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกำลังซื้อสูง หรือสร้างสรรค์เมนูข้าวที่สอดคล้องพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อสร้างกระแส viral อาทิ เมนูที่กลมกลืนกับวิถีการรับประทานในชีวิตประจำวันของชาวสเปน เมนูโปรตีนสูง เมนูรับหน้าร้อน ฯลฯ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมาดริด
กรกฎาคม 2568