กฎหมายโควต้าการจับสัตว์น้ำของชิลี

สภาสูงของชิลีได้ลงมติผ่านร่างกฎหมาย (กฎหมาย 21.752) กำหนดโควต้าปริมาณการจับสัตว์น้ำฉบับใหม่ โดยสภาล่างของชิลีได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ด้วยคะแนนเสียง 122 เสียง คัดค้าน 15 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง วัตถุประสงค์ของการจัดทำร่างกฎหมายนี้ เพื่อสร้างความสมดุลต่อปริมาณการจับสัตว์น้ำของทั้งภาคการประมงพื้นบ้าน และภาคการประมงสมัยใหม่ (การประมงเพื่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่) เป็นระยะเวลา 12 ปี ซึ่งภาคการประมงพื้นบ้านจะได้รับประโยชน์ในด้านรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น (ประมาณ 169 ล้านเหรียญสหรัฐ) และส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนถึงปี 2583 และจะมีการปรับปรุงกฎหมายเป็นระยะให้เหมาะสมกับสถานการณ์[1]

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การพัฒนาและการท่อเที่ยว (นาย Nicolás Grau) เน้นย้ำว่า “ชิลีกำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ต่อการกระจายทรัพยากรประมงในชิลี เพื่อสร้างสมดุล ความยุติธรรม ความโปร่งใส และการพัฒนาสู่ภาคการประมง โดยการแก้ไขความไม่เท่าเทียมกันระหว่างการประมงพื้นบ้าน และการประมงสมัยใหม่ ที่เป็นปัญหาของชิลีมาอย่างยาวนาน” นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังช่วยสร้างโอกาสการเข้าถึงและการพัฒนาการประมงพื้นบ้านของชิลี

ในขณะที่ภาคการประมงสมัยใหม่ (การประมงเพื่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่) ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว และเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่เป็นธรรมและขัดต่อรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ผู้ใช้แรงงานในภารการประมงสมัยใหม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายดังกล่าว และเกรงว่าอาจทำให้มีการลดจำนวนแรงงานในภาคการประมงต่อไปในอนาคต ในส่วนของบริษัท PacificBlu ที่เป็นผู้ประกอบการรายสำคัญในภาคการประมงสมัยใหม่ของชิลี ได้ประกาศว่าจะปิดการดำเนินงานในวันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป เนื่องจากการกำหนดโควต้าการจับสัตว์น้ำตามร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหรรมทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมประมาณ 3,000 ตำแหน่ง 

สายพันธุ์สัตว์น้ำเฉพาะภายใต้การกำหนดโควต้า ได้แก่ 

• Anchovy (Engraulis ringens) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Arica และ Parinacota, Tarapacá, Antofagasta, Atacama, และ Coquimbo: การจัดสรรโควต้าอยู่ระหว่างร้อยละ 55 – 85 สำหรับภาคการประมงพื้นบ้านได้รับโควต้าที่ร้อยละ 15 – 45 ภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับโควต้าที่ร้อยละ 45 โดยรัฐบาลจะมีการปรับปรุงปริมาณโควต้าเป็นรายปี ตามเงื่อนไขต่อไปนี้

a) หากภาคการประมงสมัยใหม่ ไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในปีที่แล้ว ภาคการประมงพื้นบ้านจะได้รับการจัดสรรโควต้าการจับสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี 

b) หากภาคการประมงสมัยใหม่สามารถบรรลุเงื่อนไขการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพประจำปีที่ได้รับการจัดสรรโควต้า ภาคการประมงนั้นอาจรักษาปริมาณโควต้าเดิมหรือของเพิ่มโควต้าได้ถึงร้อยละ 10 ต่อปี  

• Anchoveta (Engraulis ringens) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น  Valparaíso, Libertador General Bernardo O'Higgins, Maule, Ñuble, Biobío, La Araucanía, Los Ríos, และ Los Lagos: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 90 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 10

• Spanish sardine (Sardinops sagax) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Arica และ Parinacota, Tarapacá, Antofagasta, Atacama, และ Coquimbo: การจัดสรรโควต้าอยู่ระหว่างร้อยละ 55 – 85 สำหรับภาคการประมงพื้นบ้านได้รับโควต้าที่ร้อยละ 15 – 45 ภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับโควต้าที่ร้อยละ 45 โดยรัฐบาลจะมีการปรับปรุงปริมาณโควต้าเป็นรายปี ตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  a) หากภาคการประมงสมัยใหม่ ไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในปีที่แล้ว ภาคการประมงพื้นบ้านจะได้รับการรจัดสรรโควต้าการจับสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี 

  b) หากภาคการประมงสมัยใหม่สามารถบรรลุเงื่อนไขการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพประจำปีที่ได้รับการจัดสรรโควต้า ภาคการประมงนั้นอาจรักษาปริมาณโควต้าเดิมหรือของเพิ่มโควต้าได้ถึงร้อยละ 10 ต่อปี  

• Common sardine (Strangomera bentincki) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Valparaíso, Libertador General Bernardo O'Higgins, Maule, Ñuble, Biobío, La Araucanía, Los Ríos, และ Los Lagos: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 90 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 10

• Jack mackerel (Trachurus murphy) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Arica และ Parinacota, Tarapacá, และ Antofagasta: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 15 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 85

• Jack mackerel (Trachurus murphy) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Atacama, Coquimbo, Valparaíso, Libertador General Bernardo O’Higgins, Maule, Ñuble, Biobío, La Araucanía, และ Los Ríos: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 30 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 70

• Jack mackerel (Trachurus murphy) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Los Lagos region: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสสรรโควต้าที่ร้อยละ 15 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 85

• Common hake (Merluccius gayi) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Coquimbo, Valparaíso, Libertador General Bernardo O’Higgins, Maule, Ñuble, Biobío, La Araucanía, Los Ríos, และ Los Lagos: การรจัดสรรโควต้าเป็นไปตามเงื่อนไข ต่อไปนี้ 
  a) หากปริมาณการจับสัตว์น้ำรวมใน 1 ปี ตามที่ได้รับอนุญาตเท่ากับหรือน้อยกว่า 35,020 ตัน ภาคการประมงพื้นบ้านจะได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 45 และร้อยละ 55 สำหรับภาคการประมงสมัยใหม่ 

• b) หากปริมาณการจัดสัตว์น้ำรวมใน 1 ปี ตามที่ได้รับอนุญาตเกินกว่า 35,020 ตัน ส่วนที่เกินจะถูกจัดสรรให้แก่ภาคการประมงพื้นบ้านทั้งหมด โดยจำกัดโควต้าที่ร้อยละ 50 ของทั้งภาคการประมงพื้นบ้านและภาคการประมงสมัยใหม่  

• Patagonian grenadier (Macruronus magellanicus) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Valparaíso, Libertador General Bernardo O’Higgins, Maule, Ñuble, Biobío, La Araucanía, Los Ríos, Los Lagos, Aysén del General Carlos Ibáñez del Campo, และ Magallanes และ Chilean Antarctica: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 5 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 95

• Southern hake (Merluccius australis):

  a) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Los Lagos region: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 70 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 30

  b) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Aysén del General Carlos Ibáñez del Campo และ Magallanes และ Chilean Antarctica: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 63 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 37

• Golden cusk-eel (Genypterus blacodes):

  a) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Los Lagos region: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 70 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 30

  b) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Aysén del General Carlos Ibáñez del Campo and Magallanes and Chilean Antarctica: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 63 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 37

• Southern blue whiting (Micromesistius Australis) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Los Lagos, Aysén del General Carlos Ibáñez del Campo, และ Magallanes and Chilean Antarctica: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 5 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 95

• Nylon shrimp (Heterocarpus reedi) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ทางเหนือระหว่างแคว้น Antofagasta และทางตอนใต้ของแคว้น Biobío : ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 25 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 75 ทั้งนี้ การได้รับการจัดสรรโควต้าเพิ่มขึ้นจะพิจารณาจากการส่งเสริมการเข้าถึงการจับสัตว์น้ำของการประมงขนาดเล็ก

• Red squat lobster (Pleuroncodes monodon)ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Arica และ Parinacota, Tarapacá, Antofagasta, Atacama, และ Coquimbo: โควต้าที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมดอยู่ระหว่าง 701 – 2,100 ตัน ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ 700 ตัน หรือร้อยละ 30 และโควต้าที่เกินจำนวนนี้จะถูกจัดสรรให้ภาคการประมงสมัยใหม่ หรือร้อยละ 70 

• Yellow squat lobster (Cervimunida johni)ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Arica และ Parinacota, Tarapacá, Antofagasta, Atacama, และ Coquimbo: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 40 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 60 ทั้งนี้ การได้รับการจัดสรรโควต้าเพิ่มขึ้นจะพิจารณาจากการส่งเสริมการเข้าถึงการจับสัตว์น้ำของการประมงขนาดเล็ก

• Skate (Dipturus trachydema) ในพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในแคว้น Los Lagos, Aysén del General Carlos Ibáñez del Campo, และ Magallanes และ Chilean Antarctica: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 97 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 3

• Jumbo squid (Dosidicus gigas) ในพื้นที่น่านน้ำสากล การจัดสรรโควต้าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 80-90 สำหรับภาคการประมงพื้นบ้าน และร้อยละ 10-20 สำหรับภาคการประมงสมัยใหม่ โดยรัฐบาลจะมีการปรับปรุงปริมาณโควต้าเป็นรายปี ตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  a) หากภาคการประมงสมัยใหม่สามารถบรรลุเงื่อนไขการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพประจำปีที่ได้รับการจัดสรรโควต้า ภาคการประมงนั้นอาจรักษาปริมาณโควต้าเดิมหรือของเพิ่มโควต้าได้ถึงร้อยละ 5 ต่อปี โดยอยู่ในช่วงที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้

  b) หากภาคการประมงสมัยใหม่ ไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขการจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในปีที่แล้ว ภาคการประมงสมัยใหม่สามารถรักษาโควต้าที่เริ่มต้นที่ร้อยละ 20 หรือภาคการประมงพื้นบ้านจะได้รับการจัดสรรโควต้าการจับสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี

  เงื่อนไขดังกล่าวจัดทำขึ้น เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการจับสัตว์ในกลุ่มนี้ และการจับสัตว์น้ำภายใต้กฎหมาย 18,892 มาตรา 55 หรือกฎหมายทั่วไปว่าด้วยการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจะไม่นำมาพิจารณาสำหรับการจัดสรรโควต้า อย่างไรก็ดี การจับสัตว์น้ำในกลุ่มนี้ในสัดส่วนที่ร้อยละ 90 ถือว่าเพียงพอแล้ว 

• Reineta (Brama australis) ในพื้นที่น่านน้ำสากล: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 90 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 10

• Golden cusk-eel นอกพื้นที่ประมง : ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 97 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 3

• Skate นอกพื้นที่ประมง : ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 97 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 3

• Beakfish (Epigonus crassicaudus) ในพื้นที่ทางทะเลจากแคว้น Atacama ถึงแคว้น Los Lagos: ภาคการประมงพื้นบ้านได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 5 และภาคการประมงสมัยใหม่ได้รับการจัดสรรโควต้าที่ร้อยละ 95

  บทวิเคราะห์ / ความเห็น สคต. ณ กรุงซันติอาโก

กฎหมายการประมงฉบับก่อนหน้านี้ มีการบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2556 และกำหนดให้มีอายุการบังคับใช้ถึงปี 2575 โดยสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว เกี่ยวกับการทำประมงสมัยใหม่ เช่น แนวทางการป้องกันและการจัดการตามหลักวิทยาศาสตร์สำหรับการควบคุมโควต้าการจับสัตว์น้ำของชิลี โดยเฉพาะที่เอื้อต่อการจับสัตว์น้ำของบริษัทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท ซึ่งรัฐบาลในชุดปัจจุบันเห็นว่าไม่เป็นธรรม[1] และเกิดการถกเถียงระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งนี้ กฎหมายฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรโควต้าการจับสัตว์น้ำจะส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของชิลี โดยคาดว่าในส่วนการส่งออกสัตว์น้ำของชิลีจะมีราคาสูงขึ้น (สินค้าส่งออกราคาแพงขึ้น) เนื่องจากภาคการประมงพื้นบ้านที่ได้รับการจัดสรรโควต้าอาจไม่สามารถผลิตสินค้าประมงได้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้ง ภาคการประมงสมัยใหม่จำเป็นต้องลดกำลังการผลิตเนื่องจากโควต้าการจับสัตว์น้ำที่ได้รับลดลง และในส่วนการนำเข้าสัตว์น้ำของชิลีจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นด้วยการแข่งขันด้านราคาที่จะเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสของประเทศผู้ผลิตสินค้าประมง รวมทั้งไทยที่จะเติมเต็มอุปทานสัตว์น้ำ และอาหารแปรรูปจากสัตว์น้ำที่ลดลงและขยายการส่งออกเพิ่มขึ้นไปยังตลาดชิลี 

ทั้งนี้ สินค้าอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปเป็นสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังชิลี และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากอาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป โดยเฉพาะทูน่า ซาร์ดีน แมคเคอเรล เป็นที่นิยมในการบริโภค ซึ่งเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีราคาค่อนข้างถูกและสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารประเภทแซนวิชและรับประทานกับผักสลัด โดยในปี 2568 (เดือนมกราคม - มิถุนายน) ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังชิลีคิดเป็นมูลค่า 31.61 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.86 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ สินค้าอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปของไทยได้รับการยอมรับด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร จึงมีโอกาสค่อนข้างสูงที่ไทยจะขยายส่วนแบ่งตลาดชิลีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การแข่งขันในตลาดในกลุ่มสินค้าดังกล่าวมีอัตราค่อนข้างสูง และการอุปทานสินค้าอาหารทะเลที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการในชิลีอาจใช้เวลาระยะสั้นในช่วงที่ผู้ประกอบธุรกิจประมงของชิลีอยู่ในช่วงการปรับตัวต่อกฎหมายฉบับใหม่

______________________________________

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก

สิงหาคม 2568