fb
เจาะลึกตลาดอุตสาหกรรมงานเเต่งอินเดีย

เจาะลึกตลาดอุตสาหกรรมงานเเต่งอินเดีย

โดย
parisap@ditp.go.th
ลงเมื่อ 25 กรกฎาคม 2568 11:30
26

โอกาสการขยายตลาดธุรกิจแต่งงานไทยในอินเดีย

ค่าใช้จ่ายของงานแต่งงานขึ้นอยู่กับการเลือกของคู่บ่าวสาวและครอบครัวของทั้งสองฝ่ายโดยงานแต่งงานเล็กๆที่จัดในวัดและเชิญแขกเพียงไม่กี่คนสามารถจัดได้ในงบประมาณประมาณ 5 แสนรูปี ในขณะที่งานแต่งงานใหญ่ในพระราชวังหรูอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง หลายสิบล้านรูปี การประเมินความต้องการของทั้งสองครอบครัว และทำให้ตรงกับวิสัยทัศน์ของงาน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการประมาณค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด

  • อาหารจัดเลี้ยง: อาหารจัดเลี้ยงถือเป็นส่วนสำคัญ มักจะคิดเป็นร้อยละ 20-30 ของงบประมาณงานแต่งทั้งหมด โดยราคาต่อหัวอยู่ในช่วง 500 ถึง 2,500 รูปี ขึ้นอยู่กับเมนูและจำนวนแขก หากมีแขก 300 คน ค่าใช้จ่ายอาหารจะอยู่ที่ 1.5 แสน ถึง 7.5 แสนรูปี

  • เครื่องประดับ: เครื่องประดับถือเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญ โดยเฉพาะในงานแต่งงานแบบอินเดีย ซึ่งทองและเพชรถือเป็นส่วนสำคัญในพิธี ค่าใช้จ่ายเครื่องประดับอาจอยู่ที่ 2 แสน ถึง 10 แสนรูปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนชิ้น ประเภทของอัญมณี และความชอบของครอบครัว

  • สถานที่จัดงานและการตกแต่ง:ค่าใช้จ่ายของสถานที่จัดงานและการตกแต่งถือเป็นส่วนสำคัญของงบประมาณ โดยราคามักจะอยู่ในช่วง แสนรูปี ถึง 10 แสนรูปี ขึ้นอยู่กับสถานที่และประเภทของสถานที่ ถ้าเลือกโรงแรมหรูหรือพระราชวังค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับการเลือกห้องจัดเลี้ยงของชุมชนหรือลานสวน

  • เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าของเจ้าสาว เจ้าบ่าว และสมาชิกในครอบครัว มักใช้งบประมาณร้อยละ 15-20 ของงบประมาณรวม ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับชนิดของผ้า ดีไซเนอร์ และจำนวนชุด 

  • ช่างแต่งหน้า:   การแต่งหน้าเป็นส่วนสำคัญของการเตรียมตัวแต่งงาน โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการแต่งหน้าสามารถเริ่มต้นที่ 20,000 รูปี ไปจนถึง แสนรูปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของช่างและบริการที่ได้รับ มักจะมีการจ้างทีมช่างแต่งหน้าแยกต่างหากสำหรับครอบครัว เนื่องจากเจ้าสาวอาจใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงในการเตรียมตัว การมีทีมช่างเพียงทีมเดียวอาจทำให้ล่าช้าได้ การมีทีมช่างแยกจะช่วยให้การเตรียมตัวของเจ้าสาวและครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่น

  • การถ่ายภาพงานแต่ง:   การถ่ายภาพงานแต่งถือเป็นการลงทุนที่สำคัญเพื่อบันทึกความทรงจำ ค่าใช้จ่ายสำหรับการถ่ายภาพงานแต่งโดยทั่วไปอยู่ในช่วง 50,000 ถึง แสนรูปี ซึ่งมักจะรวมถึงการถ่ายพรีเวดดิ้ง การถ่ายภาพวันงาน และอัลบั้มหลังงาน

  • ดนตรีและความบันเทิงการจัดงานแต่งงานแบบอินเดียมักประกอบด้วยฟังก์ชันย่อยหลายวัน เช่น Mehendi, Sangeet, พิธีแต่งงาน และงานเลี้ยงรับรอง โดย ค่าใช้จ่ายด้านบันเทิง (Entertainment & Music) ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างประสบการณ์ให้จดจำ และมักใช้สัดส่วน ประมาณร้อยละ 5–7 ของงบงานแต่งทั้งหมด ข้อมูลจาก Wedding Cloud และ Economic Times กล่าวว่า หากงบงานแต่งรวมอยู่ที่ ล้านรูปี ค่าบันเทิงจะอยู่ที่ 1.4–1.7แสนรูปี และสำหรับงาน Destination Wedding ที่งบรวมเฉลี่ยสูงถึง 5.1 ล้านรูปี งบEntertainment 3–5แสนรูปีขึ้นไป

  • ปัจจัยที่เอื้อต่อการขยายตลาดในอินเดีย

  • กลุ่มเป้าหมายหลักในอนาคต: ผลสำรวจจาก Skyscanner พบว่า มากกว่าร้อยละ 80 ของชาวอินเดียเคยจัดหรือมีแผนจะจัดงานแต่งแบบ Destination Wedding โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ที่มีถึง 50% และกลุ่ม Millennials อีก 30% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่เน้นประสบการณ์และความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

  • ความนิยมของ Wedding Destination ในต่างประเทศคู่รักอินเดียยุคใหม่เริ่มมองหาสถานที่แต่งงานที่แตกต่างและน่าจดจำ โดยคู่รักยอมจ่ายเงินเพิ่มถึงร้อยละ 50 เพื่อประสบการณ์ในต่างประเทศที่มีสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม หรือบรรยากาศที่แปลกใหม่ 

  • การเติบโตของชนชั้นกลาง:รายได้เฉลี่ยของชนชั้นกลางในอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ทำให้การจัด Destination Wedding ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ผู้ประกอบการไทยสามารถตั้งเป้ากลุ่มนี้ในฐานะลูกค้าระดับกลางถึงพรีเมียม

  • อิทธิพลของ Social Media: คู่รักชาวอินเดียในยุคปัจจุบันมักใช้แพลตฟอร์มอย่าง Instagram และ Pinterest เป็นแหล่งค้นหาแรงบันดาลใจสำหรับธีมงานแต่ง ชุดแต่งงาน ไปจนถึงสถานที่จัดงาน ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างแบรนด์ และเข้าถึงลูกค้าต่างชาติได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ การเห็นภาพงานแต่งของบุคคลมีชื่อเสียงบนโลกโซเชียล ยังมีอิทธิพลต่อรูปแบบและการตัดสินใจของคู่รักในการเลือกจัดงานตามเทรนด์ของคนดังเหล่านั้นอีกด้วย

  • การเปิดรับวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่: Gen Z เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมงานแต่งมากขึ้น อีกทั้งคนกลุ่มนี้ยังเริ่มเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆมากขึ้น โดยเฉพาะด้านแฟชั่น อาหาร พิธีกรรมแบบผสมผสาน รวมถึงในเรื่องของการแต่งงาน ทำให้ไทยมีโอกาสเจาะตลาดได้ง่ายขึ้นเพราะมีวัฒนธรรมหลายอย่างที่ใกล้เคียงกัน

  • การสนับสนุนจากทางภาครัฐและเอกชนไทย:ประเทศไทยมุ่งเน้นตลาดท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เช่น Romance Tourism, Wedding & Honeymoon ผ่านนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยมีการพัฒนาแพ็กเกจและบริการที่ตรงกับความต้องการ เช่น พิธีแต่งงานแบบไทยริมทะเล หรือพิธีในวัดโบราณสถาน เช่น โครงการ Lanna Love Initiative จังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนการจัดพิธีแต่งงานใน วัดมรดกและหมู่บ้านหัตถกรรม โครงการ Andaman Wedding Circuit จังหวัดภูเก็ต เชื่อมโยงพิธีริมชายหาด งานเลี้ยงบนเรือยอชต์ และพิธีทางศาสนา

  • การเปรียบเทียบอุตสาหกรรมงานแต่งของไทยกับคู่แข่งในตลาดโลก

  • อุตสาหกรรมงานแต่งที่ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองส่วนบุคคลเท่านั้นแต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่อยู่ในโครงสร้างทางสังคมเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมและพิธีการที่ซับซ้อนซึ่งวัฒนธรรมนี้มีผลโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจซึ่งค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับงานแต่งงานในอินเดียเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าสามเท่าของรายได้ครัวเรือนเฉลี่ย จึงอาจเป็นโอกาสของไทยในการเข้าไปดึงดูดเม็ดเงินจากภาคธุรกิจนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจของนักลงทุนเปรียบเทียบอุตสาหกรรมงานแต่งสำหรับตลาดงานแต่งของไทย อินโดนีเซีย ตุรกี อิตาลีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเปรียบเทียบจากปัจจัยราคาตั๋วเครื่องบิน ราคาโรงแรมที่พัก และประเภทแหล่งท่องเที่ยว  ซึ่งทำการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบจากราคาหน้าเวปไซด์ของ Skyscanner และ Marriott จากข้อมูลในตารางแสดงให้เห็นว่า ราคาตั๋วเครื่องบินจากอินเดียไปยังประเทศเป้าหมายของการจัดงานแต่งงาน ในด้านปัจจัยราคาตั๋วเครื่องบินโดยเฉลี่ยราคาต่อคนไทยราคาถูกที่สุด เมื่อเทียบกับระยะเวลาในการเดินทาง ในด้านปัจจัยราคาโรงแรมจากราคาห้อง 1-Bedroom Suite ต่อ1 คืน ของโรงแรมในเครือ Marriott ระดับ5ดาว ของไทยราคาถูกที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ด้วยเหตุทั้งสองปัจจัยราคาค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรม พร้อมระยะเวลาเดินทางที่ ไม่นานจนเกินไป ทำให้ไทยเป็นจุดหมายที่คุ้มค่า และประสบการณ์ที่หลากหลายครบครันสำหรับคู่รัก

  • โอกาสของผู้ประกอบการไทยในตลาดงานแต่งอินเดีย

  • ธุรกิจท่องเที่ยวและแพ็กเกจฮันนีมูน: ประเทศไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของคู่รักอินเดีย ทั้งก่อนและหลังพิธีแต่งงาน ผู้ประกอบการไทยสามารถจัดแพ็กเกจ Honeymoon Trip แบบรวมสปา นวดไทย ดินเนอร์ริมทะเล หรือทริปสุขภาพได้

  • ช่องว่างของงานแต่งในอินเดีย: ในช่วง Wedding Season ของอินเดีย โดยเฉพาะช่วงปลายปีถึงต้นปี สถานที่จัดงานยอดนิยมมักมีราคาสูงขึ้นและถูกจองเต็มล่วงหน้า ส่งผลให้คู่รักจำนวนมากเริ่มมองหาทางเลือกอื่นที่มีความพร้อมและราคาสมเหตุสมผลมากกว่าประเทศไทยจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความหลากหลายของสถานที่จัดงาน เช่น รีสอร์ทริมทะเล วิวภูเขา หรือวัดทางศาสนา อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมบางอย่างที่ใกล้เคียงกับอินเดีย เช่น การจัดงานใหญ่ การให้ความสำคัญกับครอบครัว และการใช้พิธีกรรมที่มีความหมาย ทำให้คู่รักสามารถสัมผัสประสบการณ์ใหม่ โดยไม่หลุดจากบริบททางวัฒนธรรมที่คุ้นเคย

  • การจัดงานแบบครบวงจร (One-stop Wedding Service): ผู้ประกอบการไทยสามารถต่อยอดด้วยการให้บริการแบบครบวงจร เช่น บริการจัดงานแต่งที่รวมสถานที่ อาหาร พิธีทางศาสนา การตกแต่ง การแต่งหน้าเจ้าสาว พิธีกร และดนตรี โดยเฉพาะในรีสอร์ทที่มีความพร้อมสูง เช่น ภูเก็ต กระบี่ สมุย ซึ่งตอบโจทย์คู่รักอินเดียที่ต้องการจัด Destination Wedding แบบสะดวกและมืออาชีพ โดยไม่ต้องประสานงานหลายฝ่าย

  • อาหารมังสวิรัติและขนมไทยงานแต่งอินเดียส่วนใหญ่เน้นอาหารมังสวิรัติ ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับเมนูไทยให้เข้ากับรสนิยมอินเดีย เช่น ต้มข่าเห็ดแบบเจ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมชั้น ฯลฯ ซึ่งจะสร้างความแปลกใหม่ และกลายเป็นจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง

  • บริการถ่ายภาพและวิดีโอประเทศไทยมีทีมช่างภาพและวิดีโอมืออาชีพที่มีประสบการณ์หลากหลาย เช่น การใช้แสงธรรมชาติ การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพเหมือนกับภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีตัวเลือกในการถ่ายทั้งแบบฟิล์มและดิจิทัล รวมถึงสามารถปรับโทนสีให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น โทนอบอุ่นแบบ หรือโทนสดใสแบบสมัยใหม่ จึงเป็นจุดแข็งที่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวอินเดียที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และความทรงจำในวันสำคัญ

  • โฟโต้บูธและของที่ระลึกในงานแต่งในประเทศไทย โฟโต้บูธ” ได้กลายเป็นองค์ประกอบยอดนิยมของงานแต่ง โดยเฉพาะในหมู่ Gen Z และ Millennial เพราะสามารถสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานให้แขกผู้มาร่วมงาน และยังกลายเป็นของที่ระลึกส่วนตัวจากงานแต่งได้อย่างมีสไตล์ ในขณะที่ในอินเดีย โฟโต้บูธยังอยู่ในช่วงเริ่มเป็นที่รู้จักและยังไม่แพร่หลายนัก จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอนวัตกรรมนี้ในแพ็กเกจงานแต่ง เพื่อสร้างจุดต่างและเพิ่มคุณค่าให้กับบริการ

  • พัฒนาแพ็กเก็จเฉพาะกลุ่ม (Niche Package): เช่น แพ็กเกจงานแต่งแนวรักษ์โลก (Eco-Wedding) สำหรับกลุ่มที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและกำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยสามารถแทรกการใช้ดอกไม้ปลอมหรือดอกไม้รีไซเคิลจากฝีมือคนไทยไปจัดในงานได้อีกด้วย

  • การขายและจัดดอกไม้: ประเทศไทยเรามีความสามารถในการจัดดอกไม้ทั้งแบบสด และการทำดอกไม้รีไซเคิลเช่นกัน พร้อมทั้งยังสามารถจัดให้เข้ากับ theme ต่างๆตามที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ

  • แพ็คเกจพิเศษเฉพาะโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหารออกแบบแพ็กเกจเฉพาะสำหรับตลาดอินเดีย เช่น แพ็กเกจ “Indian Ceremony + Thai Experience” แพ็กเกจแต่งงาน วัน 3 พิธี (Haldi, Mehndi, Wedding Ceremony)  เมนูอาหารมังสวิรัติหรือฮาลาล เช่น South Indian veg set, Punjabi buffet

  • ข้อเสนอแนะจาก สคต. ณ กรุงนิวเดลี

  • เทศกาลงานแต่งงานของอินเดียถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจคึกคักที่สุดของประเทศและยังสร้างโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจจากต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความได้เปรียบหลายด้าน ทั้งในเรื่องของสินค้าการบริการ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งนี้ สคต.ณ กรุงนิวเดลี ขอเสนอแนะมุมมองโอกาสทางธุรกิจงานแต่งกลยุทธ์การเข้าถึงตลาดงานแต่งของอินเดียที่ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าร่วมและสร้างเครือข่ายต่อยอดได้จากเทศกาลงานแต่งงานของอินเดีย ดังนี้

  • การจับมือกับ Wedding Planner อินเดียร่วมมือกับผู้จัดงานและผู้วางแผนงานแต่งในอินเดีย เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้า

  • เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและงานแฟร์ (Wedding Fairs) งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับงานแต่ง เช่น The Vogue Wedding Show, India Bridal Fashion Week, Destination Wedding Planners Congress เป็นช่องทางสำคัญในการโปรโมตสินค้าและบริการของไทย

  • การทำการตลาดเชิงรุก (Targeted Marketing) การสร้างคอนเทนต์เฉพาะทาง เช่น วิดีโอโฆษณา รีวิวงานแต่งงานในไทย หรือแพ็คเกจฮันนีมูนพิเศษ สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่กำลังวางแผนจัดงานแต่งได้ดี

  • สร้างโอกาสพิเศษสำหรับตลาดไทย โดยผลักดัน Thailand as a Destination Wedding Hub โดยเน้นโปรโมตเมืองหลัก เช่น ภูเก็ต สมุย กระบี่ พัฒนา Wedding Packages for Indian Market เช่น งานแต่งริมทะเล พิธีแบบอินเดีย อาหารอินเดีย กิจกรรมพิเศษ

  • สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์หรือฐานข้อมูลกลาง (เช่น Thai Wedding Hub for Indian Market) ที่รวมผู้ให้บริการไทยที่เชี่ยวชาญด้านงานแต่งอินเดีย เช่น โรงแรมช่างภาพ, Wedding Planner, ร้านอาหารมังสวิรัติ ฯลฯ เพื่อให้เอเจนซี่อินเดียสามารถเข้าถึงและเลือกใช้บริการได้ง่าย พร้อมเน้นความน่าเชื่อถือและคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน

  • สร้างหลักสูตรหรือ workshop สำหรับ Event Organizer โรงแรมช่างภาพ และช่างแต่งหน้าทำผมไทย ให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวอินเดีย เช่น พิธีการ ศิลปะการเจรจา ธรรมเนียมที่ควรเคารพ และ แนวโน้มแฟชั่น-อาหารของแต่ละภูมิภาคอินเดีย เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับงานแต่งอินเดียขนาดใหญ่ 

รายงานการตลาดข้อมูลเชิงลึกเทศกาลแต่งงานของอินเดีย-22072025.pdf
Share :
Instagram