fb
เศรษฐกิจฮ่องกงแข็งแกร่งคาดขยายตัวตามเป้า 2–3% ในปี 2568

เศรษฐกิจฮ่องกงแข็งแกร่งคาดขยายตัวตามเป้า 2–3% ในปี 2568

โดย
kannikas@ditp.go.th
ลงเมื่อ 20 สิงหาคม 2568 13:00
20

รัฐบาลฮ่องกงระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่งและการบริโภคภายในที่ปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นเศรษฐกิจของเมืองฮ่องกงจะขยายตัวในอัตรา 2–3% ในปี 2568 ตามที่คาดการณ์ไว้ แม้จะมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการภาษีจากสหรัฐอเมริกา โดยได้รับแรงสนับสนุนจากตลาดหุ้นภายในที่แข็งแกร่ง ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีเสถียรภาพ และรายได้แรงงานที่เพิ่มขึ้น

 สำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรฮ่องกง รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า เศรษฐกิจในไตรมาสที่สองเติบโต 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราเติบโต 3% ในไตรมาสแรก

Ms.Cecilia Lam Kwok-ying นักเศรษฐศาสตร์รักษาของรัฐบาลฮ่องกง กล่าวว่าการขยายตัวดังกล่าวเกิดจากการส่งออกที่แข็งแกร่งและการบริโภคภายในฮ่องกงที่ปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปี เธอระบุว่า “เราได้พิจารณาปัจจัยหลายประการ รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจเอเชีย โดยเฉพาะของจีน ซึ่งมาพร้อมกับรายได้จากการจ้างงานในฮ่องกงที่เพิ่มขึ้น” “นอกจากนี้ ตลาดหุ้นที่เจริญเติบโตดี ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีเสถียรภาพ และมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการบริโภค การดึงดูดการลงทุน และกระจายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น ล้วนเป็นแรงสนับสนุนที่ดีต่อเศรษฐกิจฮ่องกง อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะจากอัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐอเมริกา ประกาศเมื่อต้นเดือนสิงหาคมยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกาต่อสินค้าบางประเภทยังคงไม่แน่นอน

image.png

 

“ผลกระทบจากพัฒนาการเหล่านี้ต่อกระแสการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจปรากฏให้เห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงปลายปีนี้” ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม เพื่อขยายระยะเวลาการพักรบทางภาษีกับจีนออกไปอีก 90 วัน จนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน ในช่วงเวลาดังกล่าว ภาษี “ตอบโต้” ที่มีอัตรา 10 เปอร์เซ็นต์ซึ่งบังคับใช้กับสินค้านำเข้าจากจีนจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป 

การส่งออกสินค้าของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสที่สอง การส่งออกบริการก็เพิ่มขึ้น 7.5% ซึ่งรัฐบาลระบุว่าเป็นผลมาจากการเติบโตของการท่องเที่ยวขาเข้าและกิจกรรมทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ยอดขายปลีกขยายตัว หลังจากที่เคยลดลงต่อเนื่องถึง 14 เดือน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ น้อยกว่าการเติบโต ในเดือนพฤษภาคม อยู่ ที่ 2.4%

Ms. Lam กล่าวว่าการบริโภคภาคเอกชนได้พลิกฟื้นกลับมาในไตรมาสที่สอง โดยเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเปรียบเทียบกับการลดลง 1.2% แบบปีต่อปีในช่วงสามเดือนก่อนหน้านั้น เธอกล่าวว่า การลดลงของอัตราดอกเบี้ยในฮ่องกง, การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยที่มีเสถียรภาพ ได้ช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดหลักของตลาดหุ้นฮ่องกง สามารถฟื้นตัวจากการชะลอตัวลดลงก่อนหน้านี้ และเริ่มรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยปิดไตรมาสที่สองที่ระดับ 24,072 จุด เพิ่มขึ้น 4.1% จากวันที่ 31 มีนาคม

Ms. Lam กล่าวเพิ่มเติมว่า “นับตั้งแต่เข้าสู่ไตรมาสที่สาม ตลาดหุ้นฮ่องกงยังคงมีความคึกคัก โดยดัชนีได้ทะลุระดับในไตรมาสที่สองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา” นักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับประมาณการล่าสุดเกี่ยวกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของฮ่องกงในปี 2568 โดยคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ระหว่าง 1.8% ถึง 3% หรือเฉลี่ยที่ 2.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของรัฐบาลที่อยู่ในช่วง 2% ถึง 3% จากปีที่แล้วเช่นกัน ความเชื่อมั่นของรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตนี้ สะท้อนให้เห็นผ่านความพยายามในการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนและนักท่องเที่ยว ฮ่องกงต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวน 4.39 ล้านคนในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ยอดรวมของนักท่องเที่ยวในช่วง เจ็ดเดือนแรกของปีอยู่ที่ประมาณ 28 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12% (YOY)เช่นกัน นักท่องเที่ยวระยะไกล (long-haul visitors) เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในเดือนกรกฎาคม ซึ่งรวมถึงผู้เดินทางจากสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส

 

image.png

 

Ms. Vera Yuen Wing-han อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่าการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วง 2% ถึง 3% ตลอดทั้งปีนั้นเป็นไปได้ เนื่องจากผลประกอบการในสองไตรมาสแรกอยู่ใกล้ระดับบนของช่วงที่คาดการณ์ไว้ “ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้มั่นใจว่า ฮ่องกงสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ ก็คือการที่ฮ่องกงยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตไว้ที่ 3% และ 3.1% แม้จะมีความกังวลเหล่านั้น” Ms. Vera Yuen กล่าว แม้อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเมื่อข้อตกลงพักการเก็บภาษี 90 วันสิ้นสุดลง แต่ผลกระทบดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยธุรกิจส่วนใหญ่ ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดมาตั้งแต่ปี 2561 และยังคงวางแผนรับมือในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา “ผู้ประกอบการจะกระจายการลงทุน และเลือกผลิตจากประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า” เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “การย้ายโรงงาน และสายการผลิตไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นแข็งแกร่งขึ้น”

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของฮ่องกง มีความมั่นคงและเติบโตตามลำดับ แม้เผชิญแรงกดดันจากภายนอก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจฮ่องกงได้เป็นอย่างดี การส่งออกของฮ่องกงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกและเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่พึ่งพาตลาดฮ่องกง การฟื้นตัวของการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในฮ่องกงอาจส่งผลให้ความต้องการสินค้านำเข้าจากไทย เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และสินค้าแฟชั่น เพิ่มขึ้นมากขี้น 

ส่วนการเติบโตของการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะไกลจากยุโรปและอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีต่อธุรกิจไทยทั้งในกลุ่มสินค้าและบริการ เช่น กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านอาหารไทย และสินค้าที่ใช้ภายในโรงแรม เป็นต้น

 

แหล่งข้อมูล https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3322008/hong-kong-economy-forecast-grow-2-3-2025-despite-us-tariffs-geopolitics?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article

 

ข่าว สคต. ณ เมืองฮ่องกง 19 สิงหาคม 68.pdf
Share :
Instagram