เงินบำนาญ ราคาแก๊ส ตั๋ว Deutschland-Ticket – นี่คือสิ่งที่รัฐบาลใหม่ของเยอรมนีตัดสินใจ

แม้ว่าขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรจะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมฤดูร้อน แต่รัฐบาลก็ยังคงผลักดันแผนงานด้านนิติบัญญัติต่อไป ตั้งแต่การลดค่าใช้จ่ายด้านก๊าซไปจนถึงระดับเงินบำนาญ รวมถึง Deutschlandticket โดยคณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการสำคัญหลายโครงการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยสรุปภาพรวมได้ดังต่อไปนี้

การตรึงระดับเงินบำนาญและเพิ่มเงินบำนาญของมารดา

แม้แรงกดดันในการปฏิรูปมีมหาศาล แต่รัฐบาลยังคงยึดมั่นในแนวทางเดิมเกี่ยวกับเงินบำนาญ โดยต้องการกำหนดระดับเงินบำนาญไว้ที่ 48 เปอร์เซ็นต์จนถึงปี 2574 และระดับเงินบำนาญนี้ (ร้อยละ 48 ของรายได้เฉลี่ย) หมายถึงเงินบำนาญมาตรฐานที่ผู้ทำงานจะได้หลังจากส่งเงินสมทบเป็นระยะเวลา 45 ปี

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนบำนาญทุกคน ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น ตามร่างกฎหมาย คาดว่าอัตราเงินสมทบจะเพิ่มขึ้นเป็น 18.8 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรวมในปี 2570 ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 18.7 เปอร์เซ็นต์ และในปี 2569 อัตรานี้คาดว่าจะคงที่ที่ 18.6 เปอร์เซ็นต์

อีกหนึ่งโครงการที่พรรครัฐบาลอย่าง CSU ชื่นชอบยังผ่านคณะรัฐมนตรีได้ด้วย นั่นก็คือเงินบำนาญของแม่จะได้รับการขยายเพิ่ม มารดาหรือบิดาของเด็กที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 จะได้รับสิทธิลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรเพิ่มอีกหกเดือน โดยมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการอย่างช้าที่สุดในปี พ.ศ. 2571 แต่เงินบำนาญดังกล่าวจะจ่ายย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป ตามแผน การเพิ่มเงินบำนาญสำหรับมารดาหมายความว่าจะมีเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ยูโรต่อเดือนต่อบุตรหนึ่งคน

ลดต้นทุนก๊าซ

นี่เป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลชุดใหม่ พรรคร่วมรัฐบาล CDU/CSU – SPD ต้องการบรรเทาปัญหาราคาพลังงานให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทต่างๆ และผู้บริโภคจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บก๊าซ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านยูโร ซึ่งต้องมีการแก้ไขพระราชบัญญัติอุตสาหกรรมพลังงาน

ด้วยค่าธรรมเนียมการจัดเก็บก๊าซที่ปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 2.89 ยูโรต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง ครัวเรือนที่มีสมาชิกสี่คนสามารถประหยัดได้ถึง 60 ยูโรต่อปี ค่าธรรมเนียมนี้ถูกนำมาใช้ในปี 2565 หลังจากที่รัสเซียเริ่มทำสงครามรุกรานยูเครน โดยมีจุดประสงค์เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มสูงจากการเปลี่ยนแหล่งก๊าซจากรัสเซียไปยังแหล่งอื่น ซึ่งในปัจจุบันเยอรมนีได้ยกเลิกไปแล้ว 

อนาคตของตั๋ว Deutschland-Ticket

ตั๋ว Deutschland-Ticket หรือที่รู้จักกันในชื่อ D-Ticket เป็นตั๋วรายเดือนสำหรับระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศเยอรมนี ราคา 58 ยูโรต่อเดือน ตั๋วนี้ทำให้ผู้ใช้เดินทางได้ไม่จำกัดบนระบบขนส่งสาธารณะทั้งในท้องถิ่นและในภูมิภาค รวมถึงรถบัสประจำทาง รถราง และรถไฟ (RB, RE, S-Bahn) แต่ไม่ครอบคลุมรถไฟระยะไกล

รัฐบาลมีแผนที่จะคงไว้ซึ่งตั๋ว Deutschland-Ticket อย่างนั้นไปจนถึงปี 2569 และคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงคมนาคม โดยรัฐบาลกลางจะสนับสนุนงบประมาณ 1.5 พันล้านยูโรในปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะไม่เพียงพอ เพราะว่ารายได้ที่บริษัทขนส่งท้องถิ่นสูญเสียไปคาดว่าจะสูงถึง 3.5-3.8 พันล้านยูโร ดังนั้นปัญหางบประมาณอุดหนุนนี้จะก่อให้เกิดข้อพิพาทอย่างต่อเนื่องระหว่างรัฐบาลกลาง และบริษัทขนส่งท้องถิ่น ทั้งยังทำให้ค่าตั๋ว Deutschland-Ticket ยังต้องเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เปิดตัวคลังเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

แผนการสร้างคลังเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ รัฐบาลกลางต้องการเร่งรัดการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใต้ดินอย่างเร่งด่วน โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างพระราชบัญญัติการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะอนุญาตให้ใช้คลังเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อวัตถุประสงค์ทางอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติให้กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักสิ่งแวดล้อมยังคงอื้ออึง และแสดงความกังวลว่ากฎระเบียบดังกล่าวจะบั่นทอนแรงจูงใจในการหลีกเลี่ยงก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายสภาพภูมิอากาศ ในทางกลับกัน หอการค้าอุตสาหกรรมและการค้าแห่งเยอรมนี (DIHK) ก็ยินดีกับโครงการนี้เช่นกัน แต่เรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรเงินทุนสำหรับเส้นทางการขนส่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

วิชาชีพพยาบาลควรมีความน่าดึงดูดมากขึ้น

ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนบุคลากร คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติกฎหมายสองฉบับที่ออกแบบมาเพื่อให้วิชาชีพพยาบาลมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น พระราชบัญญัติว่าด้วยการขยายอำนาจและลดระบบราชการทางการพยาบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบหมายงานเพิ่มเติมให้กับพยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันสงวนไว้สำหรับแพทย์ พยาบาลควรสามารถดำเนินการรักษาพยาบาลบางอย่างได้ด้วยตนเอง และออกใบสั่งยาติดตามผลสำหรับบริการและความช่วยเหลือในการดูแลที่บ้าน

พระราชบัญญัติผู้ช่วยพยาบาลกำหนดให้หลักสูตรการฝึกอบรม 27 หลักสูตรสำหรับวิชาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายของรัฐ จะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนให้ค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกันสำหรับการฝึกอบรมผู้ช่วยพยาบาล ปัจจุบันมีเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของหลักสูตรการฝึกอบรมผู้ช่วยพยาบาลทั้งหมดเท่านั้นที่ได้รับค่าตอบแทน

นอกจากนี้ ผู้ช่วยพยาบาลควรสามารถทำงานที่พยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกำลังทำอยู่ได้ เนื่องจากประชากรสูงอายุอย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจำนวนผู้ที่ต้องการการดูแลและผู้ป่วยในโรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การปราบปรามการจ้างงานนอกระบบ

รัฐบาลกลางมีเจตนาที่จะปราบปรามกับการทำงานนอกระบบในเยอรมนีอย่างจริงจังยิ่งขึ้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างกฎหมายจากกระทรวงการคลังที่เสนอให้ปรับปรุงและเปลี่ยนระบบการควบคุมทางการเงินสำหรับการจ้างงานผิดกฎหมาย (FKS) ของสำนักงานศุลกากรให้ทันสมัยและเป็นระบบดิจิทัล FKS จะสามารถใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดำเนินการอย่างตรงจุดมากขึ้นกับนายจ้างที่น่าสงสัย เช่น ในกลุ่มผู้รับเหมาช่วงในพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ และจะได้รับอำนาจบางอย่างเช่นเดียวกับตำรวจ

นอกจากนี้ ภาคส่วนใหม่ๆ ที่ต้องสงสัยว่ามีการจ้างงานผิดกฎหมายจะถูกนำมาพิจารณา ซึ่งรวมถึงร้านทำผมร้านเสริมสวยและร้านทำเล็บ พนักงานจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารในการระบุตัวตน และนายจ้างจะต้องรายงานการจ้างพนักงานใหม่ให้ทางการทราบทันที 

เพิ่มความคุ้มครองในการจ้างงาน

สำหรับสัญญาจ้างที่มีมูลค่า 50,000 ยูโรขึ้นไป บริษัทต่างๆ จะต้องจ่ายเงินเดือน โบนัสคริสต์มาส วันหยุด และช่วงเวลาพักผ่อนให้กับพนักงานตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงร่วมมาตรฐานของอุตสาหกรรม มิฉะนั้นจะมีบทลงโทษ โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มความคุ้มครองในการจ้างงาน ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

ที่มา: www.SPIEGEL.de