fb
VW แซงหน้า Tesla ในตลาดรถ EV ยุโรป
โดย
thanith@ditp.go.th
ลงเมื่อ 04 สิงหาคม 2568 10:03
21

แม้ขณะนี้บริษัท Volkswagen (VW) กำลังขยายความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรปอย่างต่อเนื่อง แต่ผลกำไรกลับถูกกดดันมาก โดยก่อนหน้านี้สำนักข่าว Handelsblatt ได้รายงานว่า ยอดขายรถ EV ทั่วโลก จากค่ายนี้เพิ่มขึ้นถึง 14.3% หรือประมาณ 193,000 คัน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ซึ่งในตลาดยุโรปเอง VW ยังเติบโตมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และแซงหน้าคู่แข่งอย่างบริษัท Tesla (บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ) อย่างมากในแง่ของจำนวนของรถที่จดทะเบียนใหม่ อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Volkswagen จะยังไม่ประกาศตัวเลขการส่งมอบอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีแรกจนกว่าจะถึงเช้าวันพุธหน้า โดยแบรนด์รถยนต์ยี่ห้อ VW เป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักร Volkswagen และครองส่วนแบ่งการส่งมอบรถยนต์หลักของกลุ่มบริษัท Volkswagen ซึ่ง VW เองก็ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่เป็นตัวชี้วัดค่าดัชนีตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) อีกด้วย ด้านนาย Martin Sander ผู้อำนวยการฝ่ายขายของ VW ได้ให้สัมภาษณ์กับ Handelsblatt ว่า อัตราการเติบโตที่เราทำได้ในยุโรปนั้นน่าประทับใจมากอย่างไรก็ตามนาย Sander ยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางธุรกิจในสหรัฐฯ และจีน เนื่องจากยอดขายรถ EV และรถยนต์ไฮบริดของทั้งสองตลาดลดลงอย่างหนักเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยรวมแล้วยอดขายของรถยนต์ทุกแบรนด์ของ VW เติบโตขึ้น 4.5% เป็น 2.32 ล้านคัน ในช่วงครึ่งปีแรก

โดย VW เป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีมายาวนาน และปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าซีดานรุ่น ID.7 เป็นรถ EV ที่ขายดีที่สุดในเยอรมนี ในส่วนยุโรปบริษัท VW มีรถยนต์ไฟฟ้าสามรุ่น ได้แก่ ID.3, ID.4 และ ID.7 ที่ติดอันดับท็อปห้ารถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดการจดทะเบียนสูงสุด อย่างไรก็ตาม เมื่อดูเป็นรุ่นต่าง ๆ ของ Tesla รุ่น Model Y ก็ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งในยุโรปที่มียอดการจดทะเบียนสูงสุดอยู่ ซึ่งในด้านการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเป็นระยะเวลานานที่ Tesla ครองอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป VW ก็ได้กลายมาเป็นผู้นำด้านสถิติการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปแทน สัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้บริษัท Tesla ออกมาประกาศว่า ยอดขายที่ลดลง 13.5% ในช่วงครึ่งปีแรก แต่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงสำหรับยุโรป นาย Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้กล่าวถึงตลาดยุโรปต่อสาธารณะว่าเป็น “ตลาดที่อ่อนแอที่สุดของ Tesla” ซึ่งเขากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีความแข็งแกร่งในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก โดยตัวเลขพิเศษจากบริษัท Dataforce แพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านข้อมูลอุตสาหกรรมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับช่องว่างของตัวเลขยอดจดทะเบียนระหว่าง VW และ Tesla โดยตัวเลขดังกล่าวระบุว่า ในช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม ของปีนี้ Tesla สูญเสียยอดจดทะเบียนในยุโรปไปเกือบ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ VW เติบโตถึง 90% ในช่วงเวลาเดียวกัน บนแพลตฟอร์มฯ สำหรับ ตัวเลขเดือนมิถุนายน 2025 ยังไม่สามารถแสดงได้ครบถ้วน สิ่งที่น่าสนใจคือ โดยปกติแล้ว Tesla มักจะสามารถเพิ่มยอดขายในยุโรปในช่วงปลายไตรมาส ในยุโรปมีเพียงเดือนมีนาคมเท่านั้นที่ทั้งรถ 2 แบรนด์นี้จะมียอดขายสูสีกัน อย่างไรก็ตาม รถของ VW ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้านยอดขายนำหน้ารถแบรนด์สัญชาติอเมริกันในตลาดทวีปบ้านเกิดของตนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Tesla นับตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ได้เกือบ 8,000 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขรายเดือนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นมา นอกจากนี้ VW ยังขายรถ EV ได้มากกว่า 3 เท่าในเดือนเดียวกัน ดูเหมือนว่า Tesla พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาผลประกอบการที่อ่อนแอของตนแล้ว สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ซีอีโอของ Tesla นาย Musk ได้เข้ามาดูแลรับผิดชอบการผลิต และการจำหน่ายในยุโรปด้วยตนเองแล้ว 

นาย Constantin Gall หุ้นส่วนระดับผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านการสัญจรของบริษัทที่ปรึกษา EY เชื่อว่า การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน บริษัทจากเยอรมนีจะสามารถแข่งขันและ/หรือเทียบเคียงได้กับ Tesla ได้ โดยกล่าวว่า ตอนนี้กำลังมีการปรับเปลี่ยนขนานใหญ่ในตลาดรถยนต์ใหม่ในยุโรปการลงทุนของ VW และผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์ทำให้ น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้น เวลาในการชาร์จที่เร็วขึ้น และซอฟต์แวร์ที่ดีขึ้นกำลังออกดอกออกผลให้เห็นเป็นรูปธรรม นาย Gall กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในตอนนี้ คือ การสร้างรายได้จากรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ บริษัท VW ได้ผลักดันการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองด้วยการมอบส่วนลดในปริมาณมากเป็นหลัก บริษัทจาก Wolfsburg เพิ่งขยายแคมเปญส่วนลดสำหรับรถรุ่น ID จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งทำให้ราคารถรุ่น ID.3 ต่ำกว่าระดับ 30,000 ยูโร ซึ่งเป็นระดับราคาที่สำคัญทางจิตวิทยา ส่วนรุ่นไฟฟ้าขนาดใหญ่กว่าอย่าง ID.4, ID.5 และ ID.7 ก็ลดราคาลงอย่างมากเช่นกัน แรงจูงใจช่วนให้ผู้บริโภคซื้อสินค้านี้ยังช่วยให้โรงงานผลิตรถ EV ของ VW ในเมือง Emden และ Zwickau สามารถใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ Volkswagen จำเป็นต้องเร่งเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเพื่อให้สอดคล้องกับข้อการจำกัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ของผู้ผลิตยานพาหนะใน EU ต่อปี (เยอรมัน: Flottengrenzwert, COEmission Performance Standards for Cars and Vans) ที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป เนื่องจากกฎระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ในระดับกลุ่มบริษัท Volkswagen ทำให้ VW ซึ่งแบรนด์หลักที่มียอดขายเชิงปริมาณสูงมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณรถ EV จะมีความสำคัญต่อข้อจำกัด Flottengrenzwert และภาพลักษณ์ก็ตาม แต่ธุรกิจ EV ยังคงทำกำไรได้ไม่เพียงพอต่อระบบเศรษฐกิจของบริษัท VW นาย Sander ผู้อำนวยการฝ่ายขายของรถแบรนด์ VW ย้ำว่า แบรนด์ฯ กำลังทำเริ่มกำไรจากรถยนต์ไฟฟ้า แต่ตัวเลขนี้ต่ำกว่าเป้าหมายผลตอบแทนที่ VW ตั้งเป้าไว้ภายในปี 2029 ไว้ที่ 6.5% โดยในไตรมาสแรกผลตอบแทนจากการดำเนินงานต่อยอดขายของแบรนด์ VW ลดลงเหลือ 0.5% จาก 3.9% ในปีก่อนหน้า สาเหตุนี้เป็นผลมาจากการตั้งสำรองค่า Flottengrenzwert และต้นทุนการปรับโครงสร้างที่สูง

 

 

จาก Handelsblatt 4 สิงหาคม 2568

Share :
Instagram