“ในช่วงระหว่างปี 2563 - 2566 ประชากรชาวเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวสูงสุด โดยชาวอินเดียมีสัดส่วนประชากรมากที่สุด”
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันมีจำนวนประชากรมากเกือบ 340 ล้านคน อีกทั้ง ยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติสูง แม้ว่าประชากรภายในประเทศกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 57.8) จะเป็นกลุ่มผิวขาว แต่กลับพบว่าสัดส่วนประชากรกลุ่มดังกล่าวเริ่มมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัย ในขณะที่กลุ่มประชากรเชื้อชาติอื่นกลับมีบทบาทและขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกลุ่มประชากรชาวเอเชียที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 103 จากเดิมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 18.43 ล้านคนในปี 2563 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 21.1 ล้านคนในปี 2566 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.2 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในสหรัฐฯ จากรายงานผลการสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดในปี 2563 โดยสำนักสำมะโนประชากร (United States Census Bureau) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (Department of Commerce) ซึ่งได้จำแนกกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียไว้ทั้งสิ้น 41 กลุ่มพบว่า หากพิจารณาเฉพาะจำนวนประชากรเอเชียที่มีเชื้อสายเดียวไม่มีเชื้อสายอื่นผสม (Alone) กลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียได้ขยับก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มประชากรชาวเอเชียที่มีจำนวนมากที่สุดในสหรัฐฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 4.40 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 54.7 แซงหน้ากลุ่มประชากรจีนที่ตามมาเป็นอันดับสองมีจำนวนทั้งสิ้น 4.13 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 31.6 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำนวนประชากรเอเชียทั้งหมดซึ่งรวมทั้งกลุ่มประชากรที่มีเชื้อชาติเดียว (Alone) และกลุ่มประชากรที่มีเชื้อชาติผสมกับเชื้อชาติอื่น (In Any Combination) ยังพบว่า กลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายจีนยังคงเป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากที่สุดในสหรัฐฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 5.21 ล้านคนหรือ คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 37.2 รองลงมาคือกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียจำนวนทั้งสิ้น 4.77 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 49.8 โดยผลการสำรวจดังกล่าวยังพบว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเนปาลเป็นกลุ่มที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุด (ร้อยละ 295.5) ในกลุ่มประชากรเอเชียเชื้อสายเดียวทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ ชาวเมียนมาร์ (ร้อยละ 183.9) ชาวภูฏาน (ร้อยละ 158.8) ชาวสิงคโปร์ (ร้อยละ 137.9) ชาวบังคลาเทศ (ร้อยละ 99.2) และชาวมองโกเลีย (ร้อยละ 97.6) ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาประชากรชาวอเมริกันที่ทั้งที่มีเชื้อสายเอเชียเดียวและเชื้อสายเอเชียผสมรวมกันพบว่า ชาวมัลดีฟมีอัตราการขยายตัวสูงสุด (ร้อยละ 477.2) รองลงมา ได้แก่ ชาวเนปาล (ร้อยละ 269) ชาวเมียนมาร์ (ร้อยละ 175.8) ชาวสิงคโปร์ (ร้อยละ 151.8) ชาวภูฏาน (ร้อยละ 137.4) และชาวมองโกเลีย (ร้อยละ 119) ตามลำดับ ในส่วนของชาวอเมริกันเชื้อสายไทยนั้น พบว่า กลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายไทยเพียงอย่างเดียวมีจำนวนทั้งสิ้น 2.01 แสนคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.90 และหากรวมกลุ่มชาวอเมริกันที่มีทั้งเชื้อชาติไทยเพียงเชื้อชาติเดียวและกลุ่มเชื้อชาติไทยผสมกับเชื้อชาติอื่นด้วยมีจำนวนทั้งสิ้น 3.27 แสนคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.5 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ประชากรชาวเอเชียในสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นส่วนหนึ่งมาจากระบบการศึกษาและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่พัฒนาอย่างรุดหน้าทำให้ชาวเอเชียที่มีกำลังสนับสนุนนิยมเลือกจะเดินทางไปศึกษา ทำงาน และตั้งรกรากในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (Tech Boom) เขตซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley) ในรัฐแคลิฟอร์เนียช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้สหรัฐฯ มีความต้องการแรงงานเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ประชากรชาวอินเดียและจีนซึ่งส่วนมากมีทักษะและความเชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในระดับสูงขยายตัวเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ“ตัวอย่างสินค้าไทยที่วางจำหน่ายในตลาดม้งเมือง St. Paul รัฐมินนิโซตา”
ที่มา: สำนักข่าว CNBC ****************************** สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก