fb
รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ประจำเดือนมิถุนายน 2568

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ประจำเดือนมิถุนายน 2568

โดย
kanthimak@ditp.go.th
ลงเมื่อ 14 กรกฎาคม 2568 23:00
16

---------------------------------------------------------

1. ภาพรวมเศรษฐกิจสำคัญ/ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

         1.1 การเติบโตทางเศรษฐกิจ

 ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.3 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 และลดลงจากร้อยละ 5.9 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2567 โดยภาคส่วนหลักที่มีส่วนร่วมในการเติบโตของ GDP ได้แก่ ภาคค้าส่งและค้าปลีก การซ่อมแซมยานยนต์และจักรยานยนต์ขยายตัวร้อยละ 6.4 ภาคการเงิน และการประกันภัยขยายตัวร้อยละ 7.2 ภาคการผลิตขยายตัวร้อยละ 4.1 สำหรับภาคเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมงขยายตัวร้อยละ 2.2 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 4.5 และภาคการบริการขยายตัวร้อยละ 6.3 ในส่วนของด้านอุปสงค์พบว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวร้อยละ 5.3 ขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐขยายตัวร้อยละ 18.7 สำหรับรายจ่ายเพื่อการสะสมทุนรวมเบื้องต้น (Gross Capital Formation) ขยายตัวร้อยละ 4 ในส่วนการส่งออกสินค้า และบริการขยายตัวร้อยละ 6.2 และการนำเข้าสินค้าและบริการขยายตัวร้อยละ 9.9 โดยรายได้รวมประชาชาติ (Gross National Income) ขยายตัวร้อยละ 7.5 และรายได้ปฐมภูมิ (Net Primary Income) ขยายตัวร้อยละ 24.6 

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 15 กรกฎาคม 2568

image.png

         1.2 ภาวะการลงทุน

image.png

ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ฟิลิปปินส์มีการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign InvestmentFI) มูลค่า รวม 27.99 พันล้านเปโซ ลดลงร้อยละ 82 จากช่วงเดียวกันของปี 2567 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 155.26 พันล้านเปโซ โดยเป็นการลงทุนผ่านหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน 7 หน่วยงาน ได้แก่ 

- The Authority of the Freeport Area of Bataan

- Bases Conversion and Development Authority

- Board of Investments (BOI) 

Clark Development Corporation (CDC)

- Cagayan Economic Zone Authority

- Philippine Economic Zone Authority (PEZA)

- Subic Bay Metropolitan Authority (SBMA)

 

                 ทั้งนี้ การลงทุนจากต่างประเทศในไตรมาสที่ ของปี 256พบว่าเป็นการลงทุนจากประเทศเกาหลีใต้มากที่สุดคิดเป็นมูลค่าการลงทุน 12.36 พันล้านเปโซ หรือคิดเป็นร้อยละ 44.2 ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด รองลงมาได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการลงทุน 3.08 พันล้านเปโซ คิดเป็นร้อยละ 11 แะจีนมีมูลค่าการลงทุน 2.88 พันล้านเปโซ คิดเป็นร้อยละ 10.3 สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดคือ อสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นร้อยละ 38.5 รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต (ร้อยละ 21.9และอุตสาหกรรมบริการ (ร้อยละ 19.1ตามลำดับ โดยคาดผลจากการลงทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อให้เกิดการจ้างงาน ทั้งหมด 31,848 งาน ซึ่งเป็นการจ้างงานจากการลงทุนจากต่างประเทศ 19,303 งาน หรือคิดเป็นร้อยละ 60.6 

1.การบริโภคภายในประเทศ 

             

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ ของปี 256การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของฟิลิปปินส์ขยายตัวร้อยละ 5.3 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 256ที่ร้อยละ 4.7 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ ของปี 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.7 โดยการใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มีมูลค่ามากที่สุด อยู่ที่ 1.33 ล้านล้านเปโซ ขยายตัวร้อยละ 4.5 รองลงมาได้แก่ ด้านสินค้าเบ็ดเตล็ดบริการอื่นๆ มีมูลค่า 570,725 ล้านเปโซ ขยายตัวตัวร้อยละ 4.และค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเชื้อเพลิง มีมูลค่า 484,958 ล้านเปโซ ขยายตัวร้อยละ 2.4 ตามลำดับ

 

  1.4 อัตราเงินเฟ้อ 

                  อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ในเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ร้อยละ 1.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2568 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 1.3 แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2568 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของการขยายตัวในดัชนีค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเชื้อเพลิง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าเสื้อผ้าและรองเท้า ค่าของใช้ในครัวเรือนและค่าซ่อมบำรุงภายในครัวเรือน ค่าบริการด้านการศึกษา และค่าบริการร้านอาหารและที่พัก

แผนภูมิ 1 – อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึงเดือนมิถุนายน 2568

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568)            

           1.5 อัตราการจ้างงานและอัตราการว่างงาน

                อัตราการจ้างงานในเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 96.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2568 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 95.9 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2567 ที่มีอัตราจ้างงานอยู่ที่ร้อยละ 95.9 สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.9 ลดลงจากเดือนเมษายน 2568 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 4.1 และลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ที่มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 4.1

ตารางที่ 1 – สถิติด้านแรงงานของฟิลิปปินส์ เดือนพฤษภาคม 2568

สถิติ

พ.ค.68

เม.ย.68

พ.ค.67

อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงาน  (Labor force participation rate)

ร้อยละ 65.8

ร้อยละ 63.7

ร้อยละ 64.8

อัตราการจ้างงาน (Employment rate)

ร้อยละ 96.1

ร้อยละ 95.9

ร้อยละ 95.9

อัตราการว่างงาน (Unemployment rate)

ร้อยละ 3.9

ร้อยละ 4.1

ร้อยละ 4.1

อัตราการทำงานต่ำกว่าระดับความรู้ความสามารถ/ วุฒิการศึกษา (Underemployment rate)

ร้อยละ 13.1

ร้อยละ 14.6

ร้อยละ 9.9

 ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568)

2. สถานการณ์การค้า (การส่งออก-นำเข้า)

           2.การส่งออก

                การส่งออกของฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 มีมูลค่ารวม 34,197.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 256ที่มีมูลค่าส่งออก 30,874.04  ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 

ตารางที่ 2 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของฟิลิปปินส์ โดยจำแนกตามประเภทของสินค้า และตารางที่ 3 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของประเทศฟิลิปปินส์จำแนกตามตลาด

ตารางที่ 2 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของฟิลิปปินส์ แยกตามประเภทของสินค้า เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

ลำดับ

สินค้า

มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

   

1

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Products)

17,641.27

17,798.79

0.9

2

สินค้าสำเร็จรูป (Other Manufacturer Goods)

1,597.96

3,558.46

122.7

3

ผลิตภัณฑ์แร่อื่นๆ (Other Mineral Products)

1,181.53

1,346.75

14.0

4

เครื่องจักร และส่วนประกอบยานยนต์ 

1,085.69

1,208.42

11.3

5

น้ำมันมะพร้าว 

761.88

1,183.99

55.4

6

ชุดสายไฟจุดระเบิด และชุดสายไฟอื่นๆ ที่ใช้ในยานพาหนะ เครื่องบิน และเรือสินค้า

989.04

1,061.18

7.3

7

สารเคมี 

759.06

786.51

3.6

8

ทองคำ  

488.02

726.48

48.9

9

กล้วย (สด)

543.47

654.88

20.5

10

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วน 

450.86

496.07

10.0

 

การส่งออกรวม 

30,874.04

34,197.36

10.8

 

ตารางที่ 3 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้าส่งออกหลักของประเทศฟิลิปปินส์ แยกตามตลาด เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

ลำดับ

ประเทศ

มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

1

สหรัฐอเมริกา

4,929.72

5,377.78

15.7

9.1

2

ญี่ปุ่น

4,307.94

4,835.02

14.1

12.2

3

ฮ่องกง

4,355.21

4,645.96

13.6

6.7

4

จีน

3,735.25

3,531.48

10.3

-5.5

5

สิงคโปร์

1,188.62

1,360.39

4.0

14.5

6

เยอรมัน

1,075.69

1,302.19

3.8

21.1

7

เกาหลีใต้

1,615.13

1,291.28

3.8

-20.1

8

ไต้หวัน

1,269.58

1,222.10

3.6

-3.7

9

ไทย

1,284.63

1,173.05

3.4

-8.7

10

แคนาดา

205.38

 

920.00

2.7

348.0

 

 

การส่งออกรวม

30,874.04

34,197.36

100.0

10.8


ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568)

           

           

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

2.2 การนำเข้า

                การนำเข้าของฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 มีมูลค่า 53,873.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 51,594.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ตารางที่ 4 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์ โดยจำแนกตามประเภทของสินค้า และตารางที่ 5 แสดงถึงมูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์จำแนกตามแหล่งนำเข้า

ตารางที่ 4 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์ แยกตามประเภทของสินค้าเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

ลำดับ

สินค้า

มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

   

1

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์

10,490.87

11,944.24

13.9

2

แร่ธาตุเพื่อพลังงานเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น

8,539.14

6,919.86

-19.0

3

ส่วนประกอบยานยนต์

4,429.95

5,165.85

16.6

4

เครื่องจักรอุตสาหกรรม และส่วนประกอบ

2,322.81

2,704.27

16.4

5

อาหาร และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ  

1,985.77

2,363.66

19.0

6

เหล็ก และเหล็กกล้า

2,285.40

2,236.85

-2.1

7

ธัญพืช

2,366.26

2,078.95

-12.1

8

สินค้าเบ็ดเตล็ด

1,825.87

1,972.00

8.0

9

ชิ้นส่วนโทรคมนาคม และเครื่องจักรไฟฟ้า 

1,424.34

1,712.97

20.3

10

พลาสติกในรูปแบบปฐมภูมิและไม่ใช่ปฐมภูมิ

1,150.52

1,350.15

17.4

 

การนำเข้ารวม

51,594.47

53,873.46

4.4

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568) 

ตารางที่ 5 – มูลค่า และอัตราการขยายตัวของสินค้านำเข้าหลักของฟิลิปปินส์ แยกตามแหล่งนำเข้าเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

ลำดับ

ประเทศ

มูลค่า: ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ขยายตัว

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

1

จีน 

12,997.15

15,312.06

28.4

17.8

2

ญี่ปุ่น 

4,103.45

4,399.83

8.2

7.2

3

อินโดนีเซีย

4,065.93

4,335.80

8.0

6.6

4

เกาหลีใต้

3,850.94

3,906.01

7.3

1.4

5

สหรัฐอเมริกา

3,419.36

3,269.40

6.1

-4.4

6

ไทย

3,101.30

3,087.54

5.7

-0.4

7

เวียดนาม 

2,287.71

2,463.69

4.6

7.7

8

สิงคโปร์

2,473.32

2,318.74

4.3

-6.3

9

มาเลเซีย

2,626.33

2,285.26

4.2

-13.0

10

ไต้หวัน

1,565.79

1,653.22

3.1

5.6

 

การนำเข้ารวม

51,594.47

53,873.46

100.0

4.4

image.png ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568)  

image.png           

2.3 มูลค่าการค้าระหว่างไทย – ฟิลิปปินส์

มูลค่าการค้ารวมของไทยกับฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม พฤษภาคม 256มีมูลค่า 4,479.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 256ที่มีมูลค่า 4,413.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.61 ของการค้าไทยไปทั่วโลก สำหรับการส่งออกจากไทยไปยังฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม พฤษภาคม 256มีมูลค่า 3,148.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 3,037.61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.28 ของการส่งออกไปทั่วโลก ในขณะเดียวกันไทยมีการนำเข้าจากฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 มีมูลค่า 1,331.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่านำเข้า 1,375.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.96 ของการนำเข้าจากทั่วโลก 

                 สรุปการค้าระหว่างไทย ฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 256ปรากฏว่าไทยได้เปรียบดุลการค้าฟิลิปปินส์ เป็นมูลค่า 1,817.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ตารางที่ 6 – สรุปการค้าระหว่างประเทศของไทยกับฟิลิปปินส์ เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

การค้าระหว่าง

ไทย - ฟิลิปปินส์

มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อัตราขยายตัว

(ร้อยละ)

สัดส่วนต่อการค้าโลก

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

มูลค่าการค้า

4,413.58

4,479.71

-0.03

1.50

1.80

1.61

ไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์

3,037.61

3,148.56

-1.49

3.65

2.53

2.28

ไทยนำเข้าจากฟิลิปปินส์

1,375.97

1,331.16

3.35

-3.26

1.10

0.96

ดุลการค้า 

1,661.63

1,817.40

-5.16

9.37

-

-

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568) 

           

           2.4 การส่งออกสินค้าของไทยไปยังฟิลิปปินส์

                 เมื่อพิจารณาสินค้า อันดับที่ไทยส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 พบว่า สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่าส่งออกสูงสุด 1,022.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.39 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมา ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ตามลำดับ

ตารางที่ 7 – การส่งออกสินค้า อันดับของไทยไปยังฟิลิปปินส์ เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

 

อันดับ

 

รายการสินค้า

มูลค่า

(ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อัตราขยายตัว

(ร้อยละ)

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

1.

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

943.81

1,022.95

-5.24

8.39

31.07

32.49

2.

แผงวงจรไฟฟ้า

207.21

232.90

-12.90

12.40

6.82

7.40

3.

เม็ดพลาสติก

98.45

132.95

-4.90

35.05

3.24

4.22

4.

เครื่องจักรกล และส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

82.94

113.37

-11.09

36.69

2.73

3.60

5.

เครื่องสำอาง สบู่ และ

ผลิตภัณฑ์รักษาผิว

105.93

110.95

-10.23

4.74

3.49

3.52

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568)

        

           2.5 การนำเข้าของไทยจากฟิลิปปินส์

                 เมื่อพิจารณาการนำเข้าสินค้า 5 อันดับของไทยจากฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม พฤษภาคม 256พบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่าสูงสุด 416.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 22.71 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 รองลงมาได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ตามลำดับ 

ตารางที่ 8 - การนำเข้าสินค้า 5 อันดับของไทยไปยังฟิลิปปินส์ เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567/ 2568

 

อันดับ

 

รายการสินค้า

มูลค่า

 (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อัตราขยายตัว

(ร้อยละ)

สัดส่วน

(ร้อยละ)

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

ม.ค.-พ.ค.67

ม.ค.-พ.ค.68

1.

เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ

339.57

416.67

52.21

22.71

24.68

31.30

2.

แผงวงจรไฟฟ้า

254.90

264.15

5.13

3.63

18.52

19.84

3.

เครื่องจักรไฟฟ้า และส่วนประกอบ 

116.90

120.78

0.67

3.32

8.50

9.07

4.

ส่วนประกอบ และ

อุปกรณ์ยานยนต์

114.26

111.04

-1.30

-2.82

8.30

8.34

5.

สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะ และผลิตภัณฑ์

219.68

98.58

-11.10

-55.13

15.97

7.41

 

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เข้าถึงข้อมูลวันที่ 1กรกฎาคม 2568)

3. สถานการณ์และภาวะสินค้าเป้าหมายของไทยในตลาดฟิลิปปินส์

แนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยมายังฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 ประเภทสินค้าหลักของไทยที่มีการขยายตัวในการส่งออกมายังตลาดฟิลิปปินส์ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกล และส่วนประกอบของเครื่องจักรกล และเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว โดยสรุปข้อมูลสถานการณ์ และภาวะสินค้าโดยสังเขป ดังนี้ 

3.1 รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

                 อุตสาหกรรมยานยนต์ในฟิลิปปินส์มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัวของตลาดยนต์ในฟิลิปปินส์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความต้องการของผู้บริโภค อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปิดตัวของรถยนต์รุ่นใหม่ และแนวโน้มการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงฐานจำนวนประชากรขนาดใหญ่ของฟิลิปปินส์ โดยสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกมายังประเทศฟิลิปปินส์เป็นอันดับ 1 มูลค่ารวม 1,022.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.39 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่า 943.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มการเติบโตของยอดขายรถยนต์ใหม่ของฟิลิปปินส์ที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในฟิลิปปินส์ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต

 

           3.2 แผงวงจรไฟฟ้า

                 ความต้องการแผงวงจรไฟฟ้าในฟิลิปปินส์มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในฟิลิปปินส์สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้มากขึ้นตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยมายังฟิลิปปินส์ขยายตัวตามไปด้วย โดยแผงวงจรไฟฟ้าเป็นกลุ่มสินค้าที่ไทยส่งออกมาฟิลิปปินส์มากเป็นอันดับที่ 2 โดยมีมูลค่าการส่งออกในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 232.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.40 จากในช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 207.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์และไทยถือว่ามีห่วงโซ่อุปทานภูมิภาค (Regional Supply Chain) ร่วมกันในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในฐานะเป็นฐานการผลิตเช่นเดียวกัน โดยมีการส่งออก - นำเข้าสินค้าดังกล่าว เพื่อผลิตและเป็นส่วนประกอบก่อนส่งออกไปยังตลาดโลก โดยไทยถือเป็นผู้ส่งออกแผงวงจรไฟฟ้าและชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำคัญ และฟิลิปปินส์มีการนำเข้าแผงวงจรไฟฟ้าจากประเทศไทยเพื่อมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป

           3.3 เม็ดพลาสติก

                  ความต้องการสินค้าเม็ดพลาสติกในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.05 มีมูลค่าอยู่ที่ 132.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ทั้งนี้ เม็ดพลาสติกถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ การก่อสร้างและอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกในตลาดอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งต้องใช้เม็ดพลาสติกมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต

           3.4 เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล

                  ตลาดเครื่องจักรกลในฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการของภาคการผลิตโดยเฉพาะภาคอาหารที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจและจำนวนประชากรขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องกล นับเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีศักยภาพของไทยในตลาดฟิลิปปินส์ และมีแนวโน้มขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะเครื่องจักรกลการเกษตร เนื่องจากมีความทันสมัยและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ โดยในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 ไทยส่งออกเครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกลมายังฟิลิปปินส์ มูลค่า 113.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.69 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 82.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

           3.5 เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว

                  ความต้องการสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดฟิลิปปินส์ เป็นสินค้าที่มีศักยภาพที่ไทยส่งออกมาฟิลิปปินส์โดยในเดือนมกราคม - พฤษภาคม ขยายตัวร้อยละ 4.74 มีมูลค่า 110.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 105.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ชาวฟิลิปปินส์มีแนวโน้มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญกับความสวยความงามมากขึ้น รวมถึงการได้รับอิทธิพลจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านความงาม การดูแลผิวพรรณและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามที่แตกต่างกันไป ทำให้สินค้าประเภทเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดส่งออกมายังฟิลิปปินส์เพิ่มมากขึ้น
           ข้อสังเกตเพิ่มเติม                                                              

           ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฟิลิปปินส์ในไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารัฐบาลจะเร่งผลักดันนโยบายการใช้จ่ายภาครัฐ และโครงการโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง การเติบโตดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ร้อยละ 6 - 8 อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงบ้าง ฟิลิปปินส์ยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในประเทศแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศ ได้แก่ การลงทุนภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชนที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2568 โดยเฉพาะการบริโภคภาคครัวเรือนที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง สภาวะตลาดแรงงานที่มีอัตราการว่างงานในระดับต่ำ การส่งออกและนำเข้ามีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น และรายได้จากการส่งเงินกลับประเทศของแรงงานที่ทำงานต่างแดน ตลอดจนบทบาทของรัฐบาลในการกำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงิน ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ลดอัตราดอกเบี้ย และส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระยะยาว แต่ทั้งนี้เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก อาทิ นโยบายการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง หรือพายุไต้ฝุ่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศ

           สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ การส่งออกสินค้าไทยมายังฟิลิปปินส์ยังคงขยายตัว โดยในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 พบว่าการส่งออกสินค้าของไทยมาฟิลิปปินส์ที่ยังคงขยายตัวได้ดีและมีศักยภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์พลาสติก (+ร้อยละ 11.33) เคมีภัณฑ์ (+ร้อยละ 7.84)  ผลิตภัณฑ์ยาง (+ร้อยละ 9.30) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ และส่วนประกอบ 
(+ร้อยละ 39.20) เครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบ (+ร้อยละ 7.15) และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (+ร้อยละ 44.96) เป็นต้น 

 

-------------------------------------------------------------------------------

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

15 กรกฎาคม 2568 

รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ มิถุนายน 2568.pdf
Share :
Instagram