fb
ข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของจีนปี 2568

ข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของจีนปี 2568

โดย
ploenpitn@ditp.go.th
ลงเมื่อ 09 กรกฎาคม 2568 23:00
9

image.png

ที่มาภาพ: https://www.2foodtrippers.com/best-instant-noodles/

 

ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น สถานการณ์การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีต่ำเพื่อสุขภาพและรสชาติเอกลักษณ์ตามท้องถิ่นเป็นจุดเด่น ตามข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในจีนในปี 2568 โดย iiMedia Research พบว่าผู้บริโภคชาวจีนร้อยละ 56.40 รับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และการบริโภคบ่อยครั้งจะกระจุกตัวอยู่ในอาหารจานด่วนที่บ้านและในมหาวิทยาลัย ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค ความถี่ในการบริโภคของผู้บริโภคร้อยละ 50.91 เพิ่มขึ้นน้อยกว่าร้อยละ 10 แสดงให้เห็นว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปค่อย ๆ ผสานเข้ากับโครงสร้างอาหารปกติ ความต้องการของผู้บริโภคมีลักษณะหลายมิติ: ผู้ซื้อร้อยละ 47.90 ตอบสนองความต้องการความหิวโหยในแต่ละวันเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มนักเรียนมีส่วนสนับสนุนอย่างมาก และสัดส่วนการบริโภคในหอพักของโรงเรียนคิดเป็นร้อยละ 50.05 ในแง่ของเกณฑ์การเลือกผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคร้อยละ 50.59 ให้ความสำคัญกับคุณภาพของส่วนผสม แบรนด์ White Elephant (白象เป็นผู้นำตลาดด้วยความชอบแบรนด์ร้อยละ 38.21 และรสเนื้อตุ๋นกลายรสชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุดด้วยร้อยละ 31.43

แม้ว่าผู้บริโภคร้อยละ 58.33 จะพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่อุตสาหกรรมนี้ยังคงมีจุดอ่อนอยู่ โดยผู้บริโภคร้อยละ 45.86 ต้องการให้มีการปรับปรุงการรับรองความปลอดภัยของอาหาร ในขณะเดียวกัน ปัญหาของความล้าหลังในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ก็กลายเป็นเรื่องสำคัญ รสชาติและคุณสมบัติแบบเดียวกันได้กลายเป็นข้อจำกัด นักวิเคราะห์ของ iiMedia Research เชื่อว่าอุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องสร้างโมเดลขับเคลื่อนด้วย "ความปลอดภัย + นวัตกรรม" เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ด้วยการพัฒนาสูตรเพื่อสุขภาพแคลอรีต่ำ และปรับเปลี่ยนรสชาติตามภูมิภาค และนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของอีคอมเมิร์ซมาทำความเข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างกันของกลุ่มคนหนุ่มสาว และเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน

 

วัตถุประสงค์หลักที่ผู้บริโภคชาวจีนบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2568

ข้อมูลระบุว่าจุดประสงค์หลักที่ผู้บริโภคชาวจีนซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2568 คือ เป็นของขบเคี้ยวประจำวันคิดเป็นสัดส่วนสูงสุดที่ร้อยละ 47.90 รองลงมาคือแก้หิว (เช่น ขณะเดินทางหรือทำงานล่วงเวลา) คิดเป็นร้อยละ 42.09 รองลงมาคืออาหารสำเร็จรูปเพื่อรับประทานในยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ อาหารสำเร็จรูปที่เหมาะสำหรับพกพาหรือเก็บไว้รับประทานเองมีสัดส่วนร้อยละ 40.04 รองลงมาคือเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหาร คิดเป็นร้อยละ 39.40 แสดงให้เห็นถึงการคำนึงถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจของผู้บริโภค ประหยัดเวลารับประทานอาหาร คิดเป็นร้อยละ 25.51 ชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคิดเป็นร้อยละ 21.96 ใช้เป็นอาหารสำรองคิดเป็นร้อยละ 20.99 และการถูกดึงดูดด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือคูปองส่วนลด คิดเป็นร้อยละ 6.57 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อค่อนข้างต่ำ

 

image.png

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/105858.html

 

ช่องทางหลักสำหรับผู้บริโภคชาวจีนในการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารในปี 2568

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าช่องทางหลักสำหรับผู้บริโภคชาวจีนในการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารในปี 2568 ห้างสรรพสินค้าออนไลน์หรือช่องทางอีคอมเมิร์ซ (Tmall, JD.com ฯลฯ) อยู่อันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 53.71 อีคอมเมิร์ซไลฟ์สด (Douyin, Kuaishou ฯลฯ) ตามมาด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 41.12 สะท้อนให้เห็นถึงกระแสนิยมของการซื้อขายผ่านช่องทางไลฟ์สด ร้านค้าในวีแชทและร้านสะดวกซื้ออยู่อันดับสามและสี่ด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 33.37 และร้อยละ 27.66 ตามลำดับ ซูเปอร์มาร์เก็ตและเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติอยู่อันดับห้าและหกด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 27.23 และร้อยละ 25.62 ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าความต้องการในการซื้อทันทียังคงมีอยู่ การซื้อของผ่านเดลิเวอรี่ (Meituan Youxuan, Duoduo Maicai ฯลฯ) คิดเป็นร้อยละ 24.33 อยู่ในอันดับที่ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชื่นชอบความสะดวกสบายของการซื้อของกลุ่มชุมชน ส่วนแบ่งของตลาดขายส่งและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน (CBEC) ค่อนข้างต่ำที่ร้อยละ 11.09 และร้อยละ 5.49 ตามลำดับ

 

image.png

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/105858.html

 

ปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคชาวจีนใช้พิจารณาในการเลือกซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2568

จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคชาวจีนควรพิจารณาในการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2568 คือ ส่วนผสม คิดเป็นสัดส่วนสูงสุดที่ร้อยละ 50.59 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างมากต่อความหลากหลายและคุณภาพของส่วนผสมของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปริมาณอยู่ในอันดับสองด้วยสัดส่วนร้อยละ 44.99 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ รองลงมาคือแบรนด์ คิดเป็นร้อยละ 42.63 แสดงให้เห็นถึงการรับรู้และความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ ราคาและรสชาติตามมาอย่างใกล้ชิดที่ร้อยละ 35.20 และร้อยละ 32.40 ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่าราคาและรสชาติยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้บริโภคเช่นกัน การบอกต่อจากปากต่อปากคิดเป็นร้อยละ 31.32 เครื่องเคียงอยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 27.66 และบรรจุภัณฑ์คิดเป็นสัดส่วนต่ำสุดที่ร้อยละ 12.92 แสดงให้เห็นว่าบรรจุภัณฑ์มีความน่าดึงดูดใจต่อผู้บริโภคน้อยกว่าปัจจัยอื่น

 

image.png

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/105858.html

 

ปัจจัยที่ผู้บริโภคชาวจีนต้องการให้ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับการปรับปรุงในปี 2568

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าในปัจจัยที่ผู้บริโภคชาวจีนต้องการให้ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ปรับปรุงในปี 2568 ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ "การรับประกันความปลอดภัย" ซึ่งคิดเป็นสูงถึงร้อยละ 45.86 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารเป็นอย่างมาก รองลงมาได้แก่ "รสชาติที่สร้างสรรค์" ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 45.64 แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคสำหรับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ "บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม" ก็ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน คิดเป็นร้อยละ 40.15 ด้านอื่น ๆ เช่น "ความพยายามในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น" "การร่วมมือของแบรนด์ (Co-branding)" "ส่วนผสมครบถ้วน" "คุณค่าทางโภชนาการ" "ปรับปรุงความสะดวกในการบริโภค" และ "การโฆษณา" ทั้งหมดมีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 30 แต่ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องใส่ใจและพยายามปรับปรุงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน ในจำนวนนี้ "การรับประกันสุขภาพ" และ "การปรับแต่งตามความต้องการส่วนบุคคล" มีสัดส่วนร้อยละ 11.41 และร้อยละ 8.18 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ยังคงมีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงและพัฒนา

 

image.png

ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/105858.html

ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับความนิยม มีขนาดตลาดขนาดใหญ่ มีศักยภาพในการเติบโต แต่มีการแข่นขันสูง ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาจำหน่ายสินค้าในประเทศจีน ต้องศึกษาตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้สามารถแข่งขันกับแบรนด์อื่นได้ โดยควรปรับปรุงทั้งด้านความปลอดภัยของอาหาร รสชาติที่สร้างสรรค์และมีความหลากหลาย มีคุณภาพ และความคุ้มค่า เป็นต้น นอกจากนี้ ควรเริ่มต้นจำหน่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากเป็นช่องทางในการจำหน่ายที่สะดวกและเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุด

___________________________________________________________________________________

จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568

 

แหล่งที่มา

https://www.iimedia.cn/c400/105858.html

ข่าวประจำสัปดาห์ พฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของจีน.pdf
Share :
Instagram