fb
ผู้ค้าปลีกออนไลน์ของจีนเล็งซื้อบริษัทแม่ของ Media Markt
โดย
thanith@ditp.go.th
ลงเมื่อ 11 สิงหาคม 2568 10:37
18

บริษัท JD.com ผู้ค้าปลีกออนไลน์สัญชาติจีนเตรียมขยายธุรกิจครั้งใหญ่ในยุโรป โดยขณะนี้ JD.com อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการของบริษัท Ceconomy ซึ่งผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติเยอรมนี และเป็นบริษัทแม่ของ Media Markt และ Saturn นั่นเอง โดยข้อมูลดังกล่าวได้ประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันพฤหัสบดี 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ มีการรายงานว่า JD.com กำลังพิจารณาข้อเสนอซื้อหุ้น Ceconomy ในราคาประมาณ 4.60 ยูโรต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ 30 กรกฎาคม ถึง 23% สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ข้อตกลงนี้มีมูลค่าสูงถึง 2.2 พันล้านยูโร และภายหลังจากที่มีการรายงานข่าวเรื่องนี้ออกไป ราคาหุ้นของ Ceconomy พุ่งขึ้นชั่วคราวถึง 12% และหากเทียบราคาหุ้นในช่วงต้นปี เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 60% อย่างไรก็ดี แม้ขณะนี้ยังไม่มีการลงนามข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมายและข้อเสนอดังกล่าวจะมีผลจริงหรือไม่ ก็ยังไม่สามารถบอกได้อย่างเป็นทางการ แต่ที่ผ่านมาได้มีข่าวลือของการเข้าซื้อกิจการนี้ออกมาหลายระลอก โดยมีความเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายหนึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายนั้น คือ ตระกูล Kellerhals ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Media Markt และ Saturn ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด โดยถือหุ้นเกือบ 30% ปัจจุบันยังไม่มีการแถลงการณ์ใด ๆ จากทั้งสองบริษัทในเวลาที่เผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกมา สำหรับบริษัท Holding Haniel ที่มีฐานหลักในเมือง Duisburg ผู้ถือหุ้น 16.7% ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่าง Meridian, Beisheim และ Freenet ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเจรจาครั้งนี้ โดยหุ้นของ Ceconomy ประมาณ 36.3% อยู่ในสถานะ Free Float (หุ้นที่อยู่ในมือของผู้ถือหุ้นรายย่อย)

บริษัท JD.com ตั้งเป้าที่จะขยายส่วนแบ่งตลาดในยุโรป ด้วยยอดขาย 159 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมา JD.com เป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่อันดับสองของจีน รองจากบริษัท Alibaba เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังซบเซา JD.com ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง จึงมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ โดยแผนขยายธุรกิจของ JD.com ในยุโรปนั้น เครือข่ายร้านค้าและคลังสินค้าของ Ceconomy ในทวีปยุโรปมีความน่าสนใจมาก และจากข้อมูลของเว็บไซต์บริษัท ระบุว่า ปัจจุบันบริษัทมีร้านสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ในยุโรป ด้านนาย Jens Klatt นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัทเทรดดิ้ง XTB ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Handelsblatt ว่า การเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านดิจิทัลและโลจิสติกส์ที่มีอยู่ของ Ceconomy ด้วยแผนการเข้าซื้อกิจการของ JD.com อาจกระตุ้นธุรกิจค้าปลีกในเยอรมนีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่า แผนการดังกล่าวอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมบริษัทเยอรมันโดยบริษัทต่างชาติตามมา โดย Klatt กล่าวว่า การตรวจสอบโดยหน่วยงานยุโรป และเยอรมนีอาจทำให้การเข้าซื้อกิจการล่าช้าออกไปหน่อย ซึ่งเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการด้านแพลตฟอร์มอย่าง Alibaba แล้ว JD.com ดำเนินธุรกิจโดยใช้รูปแบบธุรกิจที่บูรณาการในระดับสูง โดยจะซื้อผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง จัดเก็บในศูนย์กระจายสินค้าของตนเอง และส่งสินค้าถึงลูกค้าโดยตรงผ่านเครือข่ายระบบโลจิสติกส์ ระดับประเทศ ซึ่งคล้ายกับ Amazon ในปี 2021 บริษัท Ceconomy สามารถทำยอดขายประจำปีได้สูงถึง 22.4 พันล้านยูโร ซึ่งกว่า 5.1 พันล้านยูโร มาจากร้านค้าออนไลน์ แม้ว่าบริษัท Ceconomy สูญเสียซีอีโอไปเพราะการเมืองในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยนาย Karsten Wildberger อดีต CEO ของ Ceconomy เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีของนาย Friedrich Merz นายกรัฐมนตรีสังกัดพรรคสหภาพคริสต์เตียนเพื่อประชาธิปไตยประเทศเยอรมนี (CDU - Christlich Demokratische Union Deutschlands) โดยเข้าไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันบริษัท Ceconomy มีนาย Kai- Ulrich Deissner ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงินเข้ามารับตำแหน่งเป็น CEO ชั่วคราวไปก่อน จนถึงขณะนี้ Ceconomy ยังพึ่งพาการค้าปลีกแบบดั้งเดิมมาเป็นเวลานาน และส่วนใหญ่ยังมองข้ามการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce อยู่ นาย Gerrit Heinemann ผู้เชี่ยวชาญด้าน E-Commerce แห่งจากมหาวิทยาลัย Niederrhein (Hochschule Niederrhein) กล่าวหลังจากที่มีการประกาศว่า นาย Wildberger จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลว่า  Ceconomy ไม่ได้เป็นแนวปฏิบัติและแบบอย่างที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนผ่านตัวเองเข้าสู่ระบบดิจิทัลโดยในช่วงที่ Wildberger ดำรงตำแหน่ง CEO เขาได้แก้ไขข้อบกพร่องบางประการในธุรกิจ E-Commerce และผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของบริษัทฯ ให้ก้าวหน้า โดยเปลี่ยนร้านค้าออนไลน์ของบริษัทฯ ให้เป็นตลาดกลางและเปิดให้ซัพพลายเออร์รายอื่นสามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ยอดขายผ่านธุรกิจออนไลน์ของ Ceconomy ยังคงที่อยู่ และจากการสอบถามโฆษกของ Ceconomy เปิดเผยว่า “บริษัทของเรากำลังอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ และโดยธรรมชาติแล้วบริษัทที่จะประสบความสำเร็จ และจะต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจลูกค้าให้มากขึ้น” ในเดือนพฤศจิกายน 2023 ข่าวลือเรื่องการเข้าซื้อกิจการโดย JD.Com ได้ทำให้หุ้นของ Ceconomy พุ่งสูงขึ้น ในขณะนั้นนิตยสาร “Manager Magazin” ได้รายงานถึงความสนใจของ JD.Com ที่จะเข้าซื้อ Ceconomy ซึ่งนาย Jochen Krisch ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ E-Commerce และผู้ดูแลบล็อก Exciting Commerce บอกกับ Handelsblatt ว่า แพลตฟอร์มหลัก ๆ ของจีนพูดกันมาระยะหนึ่งแล้วว่า ศักยภาพของ Ceconomy ดึงดูดผู้ซื้ออย่างบริษัท JD.Com ซึ่งนาย Krisch  กล่าวต่อว่า “นั่นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่ในมุมมองของชาวเยอรมันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง” ซึ่งจนถึงปัจจุบันบริษัท JD.com ยังไม่มีฐานที่มั่นในยุโรปอย่างแท้จริง นอกจากการลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวส่งท้ายว่า ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Ceconomy บริษัท JD.com จะได้รับฐานที่มั่นในยุโรปทั้งในกลุ่มผู้ผลิตและลูกค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างฐานที่มั่นที่แข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีกบริษัท JD.com จากจีนจำเป็นที่จะต้องเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่นั่นเอง

 

จาก Handelsblatt 11 สิงหาคม 2568

Share :
Instagram