“Roadshow มวยไทย” ดังกระหึ่มแดนมังกร ปลุกกระแสไทยฟีเวอร์กลางมหานครกวางโจว

เมื่อวันที่ 25–27 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรม “Roadshow มวยไทย” อย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานกิจกรรมศูนย์การค้า Liwan Link Plaza เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีการจัดขึ้นภายใต้ชื่อ MUAY THAI PARK 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ในการผลักดันมวยไทยสู่เวทีโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ “มวยไทย” ให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักของ Soft Power ไทย พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหาร และสินค้าของประเทศไทย ผ่านประสบการณ์ตรงจากผู้เข้าร่วมงาน ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการนำเสนอศิลปะมวยไทยต่อสายตานานาชาติ โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม Soft Power ของไทยในยุคปัจจุบัน และกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ไทย-จีน ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นไทยได้อย่างงดงามและเข้าถึงหัวใจผู้ชมชาวจีนทุกเพศทุกวัย งานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีที่ให้ชาวกวางโจวได้มีโอกาสใกล้ชิดกับศิลปะและวัฒนธรรมการต่อสู้ของไทยในรูปแบบของมวยไทย และยังเป็นสัญญาณแห่งความร่วมมือและมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ที่มาพร้อมกับการส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยในเวทีโลก

                 บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่วันแรก เริ่มต้นด้วยพิธีเปิดสุดอลังการ นำโดยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว และได้รับเกียรติจากรองกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกว่างโจว ดารานักแสดงชื่อดัง อาทิ คุณชาคริต แย้มนาม และคุณเรย์ แมคโดนัลด์ พร้อมด้วยผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนจีน อาทิ สำนักงานต่างประเทศของมณฑลกวางตุ้ง กรมพาณิชย์เมืองกวางโจวและเขตลี่วาน กลุ่มบริษัท Miniso, Link REIT และพันธมิตรธุรกิจท้องถิ่นเข้าร่วมพิธีเปิด ซึ่งถือเป็นหลักฐานของความร่วมแรงร่วมใจระหว่างทั้งสองประเทศในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-จีน

                    ไฮไลต์ของงานนี้อยู่ที่การออกแบบกิจกรรมในรูปแบบ “Edutainment” ผสมผสานระหว่างความรู้ ความบันเทิง และประสบการณ์จริงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ดึงดูดทั้งผู้ที่รู้จักมวยไทยอยู่แล้ว และผู้ที่เพิ่งรู้จักศิลปะแม่ไม้มวยไทยเป็นครั้งแรก โดยมี “บัวขาว บัญชาเมฆ” ตำนานนักมวยไทยระดับโลก ผู้เปรียบเสมือนทูตวัฒนธรรมมวยไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยบัวขาวได้ร่วมเปิดงานและสาธิตท่วงท่ามวยไทย พร้อมเชิญชวนผู้ชมร่วมฝึกท่าพื้นฐานด้วยตนเอง ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเชียร์อันกึกก้องของผู้ชมชาวจีนจำนวนมากที่เดินทางมาร่วมงานอย่างล้นหลาม

                     ภายในพื้นที่จัดงานยังมีการจัดแสดงที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ โดยเข้ามาในประตู MUAY THAI PARK 2025 มีการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์มวยไทยที่ถ่ายทอดเรื่องราวและพัฒนาการของมวยไทยจากศิลปะการต่อสู้ในสมรภูมิสมัยโบราณ สู่กีฬาสากลในยุคปัจจุบัน ผ่านการจัดแสดงอุปกรณ์การฝึกซ้อม เครื่องแต่งกาย ภาพถ่าย และของใช้โบราณที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตนักมวยไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความลึกซึ้งของมวยไทยในมิติของประเพณีและวัฒนธรรม นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมเวิร์กช็อปฝึกท่ามวยไทยเบื้องต้น โดยมีครูฝึกจากค่ายมวยไทยให้คำแนะนำและสาธิตเทคนิคการฝึกซ้อมอย่างละเอียด ถ่ายทอดอย่างมืออาชีพด้วยความมุ่งมั่นและรักในศิลปะมวยไทยอย่างแท้จริง และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ การแข่งขันชกมวยไทยแบบจริงจังระหว่างค่ายมวย ซึ่งจัดขึ้นภายใต้กติกาสากลบนเวทีมาตรฐานกลางลานกิจกรรม โดยนักมวยจากค่ายต่าง ๆ ได้แสดงศักยภาพของมวยไทยในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลัง สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมอย่างต่อเนื่องทุกคู่การแข่งขัน เสียงเชียร์จากผู้ชมดังกระหึ่มตลอดการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเกมส์ต่อยมวย และเวิร์กช็อปงานฝีมือที่ได้รับการสนับสนุนจาก ททท. สำนักงานกว่างโจว อาทิ การ DIY ประดิษฐ์มงคลมวย ซึ่งเป็นเครื่องรางและสัญลักษณ์แห่งพลังจิตวิญญาณของนักสู้ไทย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยในอีกมิติหนึ่งที่ทั้งสนุกและเปี่ยมไปด้วยความหมาย และอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานครั้งนี้คือการจัดแสดงศิลปะการแสดงของไทย อาทิ โขน รำไทย 4 ภาค การต่อสู้มวยไทยโบราณ และการแสดงร่วมสมัย ที่ผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมและจังหวะดนตรีสมัยใหม่ สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ชมชาวจีน โดยเฉพาะเยาวชนและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม มีการถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีนหลายช่องทาง ทำให้การเผยแพร่มวยไทยและวัฒนธรรมไทยเข้าถึงกลุ่มผู้ชมหลายล้านคนภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน

                นอกจากการแสดงแล้ว อีกหนึ่งสีสันของงานที่สร้างบรรยากาศในงานให้คึกคักคือการเปิดตัว IP    ไอคอนธีมใหม่ “泰拳墩DUN鸡” หรือที่ชาวไทยนิยมเรียกว่า “ไก่มวยไทย DunDun” ซึ่งเป็น Mascot ที่ออกแบบมาเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความจดจำให้กับมวยไทยในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยกำหนดให้เป็นจุดถ่ายเซลฟี่ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ที่เข้าร่วมงาน หลายภาพถ่ายและคลิปวิดีโอของ ไก่มวยไทย DunDun แพร่กระจายไปทั่วโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมี IP “HOLEN/เจ้าโชค” ซึ่งเป็นการออกแบบหนุมานและแมวนำโชคที่กำลังจะเปิดตัวในตลาดจีน ทำให้ชาวจีนและผู้ที่ติดตามข่าวสารในโลกออนไลน์ต่างยกนิ้วรับรองในฐานะสัญลักษณ์ของ “ความสนุกสนาน” และ “ความทันสมัย” ที่ผสมผสานกับรากฐานความเป็นไทยไว้ได้อย่างลงตัว

เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและสร้างการมีส่วนร่วมแบบครอบครัว ภายในงานยังมีโซน “Water Battle” ซึ่งจัดกิจกรรมสงกรานต์จำลองร่วมกับค่าย IP “Water Wars” ให้ผู้ร่วมงานได้สนุกกับการสาดน้ำแบบไทย ในรูปแบบ Mini ที่แฝงไปด้วยวัฒนธรรมไทยในมิติที่เข้าถึงง่าย เป็นกันเอง และเต็มไปด้วยความอบอุ่น ทำให้ชาวจีนหลายคนได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของประเพณีไทยในด้านการเฉลิมฉลองและการร่วมสนุกในบรรยากาศสังสรรค์แบบไทย ๆ โดยบนโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพกิจกรรมภายในงานกันอย่างล้นหลามและได้มีผู้แสดงความคิดเห็นในแพลตฟอร์ม Weibo และ Xiaohongshu เป็นจำนวนมาก ว่านี่คือกิจกรรมที่ “ทำให้เข้าใจประเทศไทยลึกซึ้งขึ้น” และ “หลงรักวัฒนธรรมไทยมากขึ้นกว่าเดิม” โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิงและเยาวชนที่สนใจทั้งศิลปะและสุขภาพ

                   นอกจากกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมและการเรียนรู้แล้ว กิจกรรม “Roadshow มวยไทย” ยังเปิดพื้นที่ให้ประชาชนชาวจีนได้ลิ้มลองอาหารไทยในโซน “泰拳加油站” ซึ่งจัดเตรียมอาหารและขนมหวานยอดนิยมของไทยอย่างพิถีพิถัน จากร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT สะท้อนเอกลักษณ์ด้านรสชาติและวัฒนธรรมการบริโภคของไทยได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน ภายในงานยังมีการจัดแสดงสินค้าและของที่ระลึกจากไทยในโซน “Thai Market” โดยทางสคต.กวางโจวนำสินค้าไทยที่มีศักยภาพมาจัดแสดง ซึ่งรวบรวมผลิตภัณฑ์คุณภาพหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าเพื่อสุขภาพ แฟชั่น ไปจนถึงงานฝีมือที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย มากกว่า 30 คูหา โดยผู้เข้าร่วมงานสามารถทดลองใช้และเลือกซื้อได้ทันที ทั้งนี้ ตลอดระยะการจัดงานทั้ง 3 วัน มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานประมาณ 10,000 คนต่อวัน และมูลค่าการซื้อขายรวมตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรม (รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไป) มากกว่า 10 ล้านบาท

บรรยากาศที่คึกคัก ความร่วมมือที่ใกล้ชิด และการแสดงออกถึงศิลปะมวยไทยในทุกมิติ ทั้งการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ และการนำเสนอสินค้าผลิตภัณฑ์ไทยที่มีคุณภาพ ได้สร้างความประทับใจ ทำให้ชาวจีนหลายคนแสดงความตั้งใจที่จะติดตามข่าวสารกิจกรรมของ สคต.กวางโจว ในอนาคต และมีแนวโน้มที่จะเดินทางไปเยือนประเทศไทยด้วยตนเอง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ในเวอร์ชั่นเต็มรูปแบบอีกครั้ง รวมถึงเป็นจุดเปลี่ยนในวิธีที่ชาวจีนมองเห็นประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง

ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย

ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสำคัญของการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปีของไทย-จีน งาน “Roadshow มวยไทย” ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีที่ให้ความรู้และประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับมวยไทย  แต่ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ความร่วมมืออันเป็นรูปธรรมระหว่างภาครัฐบาลและภาคเอกชนไทย โดยมีการใช้โมเดล “วัฒนธรรม + การค้า” เป็นแนวทางในการต่อยอดประชาสัมพันธ์และส่งเสริมสินค้าจากไทยในตลาดจีน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากทุกภาคส่วน งาน Roadshow มวยไทย ไม่เพียงแค่สะท้อนความนิยมของมวยไทยในหมู่ประชาชนจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักฐานสำคัญถึงศักยภาพของมวยไทยในฐานะ “สะพานเชื่อมโยงวัฒนธรรม” ระหว่างสองประเทศ ก่อให้เกิดโอกาสใหม่ทางการค้า การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนในระดับลึกในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรม soft power เป็นกลยุทธ์หลักทางเศรษฐกิจระดับชาติ ด้วยความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งจากไทยและจีน การจัดงาน “Roadshow มวยไทย” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจที่นำมาซึ่งความเจริญและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นต่อไปในอนาคต