เกษตรกรเมืองปากงึม และเมืองไซธานี สปป.ลาว กำลังมองหาตลาดที่ยั่งยืนและมั่นคง

เกษตรกรในเขตเมืองปากงึมและเมืองไซธานี ของสปป.ลาว ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญที่จัดส่งผลผลิตให้กับนครหลวงเวียงจันทน์และอีกหลายแขวง กำลังเผชิญกับปัญหาในการหาตลาดที่แน่นอน และขาดคำแนะนำด้านการจัดการเกษตร อีกทั้งยังประสบกับราคาพืชผลที่ตกต่ำในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว การผลิตที่มากเกินความต้องการในตลาดมักทำให้เกิดภาวะผลผลิตล้นตลาด ส่งผลให้ราคาตกต่ำและรายได้ของเกษตรกรลดลง โดยเกษตรกรจำนวนมากยังขาดความรู้ด้านการตลาดและการบริหารจัดการสินค้า ซึ่งจำกัดความสามารถในการเข้าถึงโอกาสทางการค้าที่ยุติธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สัปดาห์นี้ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ (LFND) โดยการนำของ ดร.อ๋อด พงสะหวัน รองประธาน ได้จัดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตและครอบครัวเกษตรกรต้นแบบ เพื่อแนะนำโครงการกองทุนหมู่บ้านสามัคคี โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนทางการเงินแก่เกษตรกรและสหกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาเกษตรกรรม การจำหน่ายสินค้า และการลดความยากจน

ในการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่ที่ว่าการเขตเมืองปากงึมและเมืองไซธานี คณะผู้แทน LFND ได้อธิบายวัตถุประสงค์ของกองทุน ประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมจะได้รับ และขั้นตอนการสมัครเข้าร่วม โครงการนี้มุ่งเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในพื้นที่ชนบท โดยปรับปรุงการเข้าถึงแหล่งทุน สร้างงาน และเพิ่มรายได้ผ่านแนวทางการเกษตรและการค้าที่ยั่งยืน

ดร.อ๋อด ฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าใจความต้องการของท้องถิ่น โดยกล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือศึกษาผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพของเขตเมืองปากงึมและเมืองไซธานี เพื่อดูว่ากองทุนจะสามารถช่วยเหลืออย่างไร และมีความต้องการอื่น ๆ อะไรอีกบ้างที่เกษตรกรต้องการ”

เพื่อส่งเสริมการผลิตแบบมูลค่าเพิ่ม LFND ยังได้เสนอแนวคิดการจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลไม้แห้งในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วจะช่วยสร้างเสถียรภาพของตลาด ด้วยการรับซื้อและแปรรูปผลไม้สดจากท้องถิ่นเพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ ช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางการขายที่มั่นคงมากขึ้น

โครงการกองทุนหมู่บ้านสามัคคีสอดคล้องกับนโยบายการลดความยากจนของรัฐบาล และได้ให้ประโยชน์แก่ครอบครัวเกษตรกรหลายรายทั่ว สปป.ลาว แล้วด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรในเขตเมืองปากงึมและเมืองไซธานี หวังว่าจะสามารถหาตลาดที่มั่นคง ราคายุติธรรม และสร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับภาคเกษตรกรรมได้ ภายใต้โครงการนี้ ผู้เข้าร่วมได้กลายเป็นเกษตรกรมืออาชีพ มีอาชีพที่มั่นคง สามารถปลูกพืชที่มีคุณภาพสูงและให้ผลผลิตดี โครงการยังช่วยลดต้นทุนของวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเกษตรกร รวมถึงหาตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรด้วย ปัจจุบันมีหมู่บ้านจำนวน 44 แห่ง เข้าร่วมจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านสามัคคีและพัฒนา โดยศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ ใน 23 เขตของ 10 แขวง อาทิ แขวงเวียงจันทน์ ไซสมบูน และอัตตะปือ มีแขวงละหนึ่งกองทุน ส่วนแขวงไซยะบูลี คำม่วน และเซกอง มีแขวงละสองกองทุน แขวงสาละวันมีสามกองทุน แขวงหัวพัน และจำปาสัก มีจังหวัดละสี่กองทุน และแขวงสะหวันนะเขต มีห้ากองทุน ทั้งนี้ โครงการนี้ยังจะทำการขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ตามความพร้อมและศักยภาพของแต่ละแขวง

พืชผลที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนนี้ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดหวาน ถั่ว ผลไม้ ลูกหม่อน มันสำปะหลัง ยางพารา กาแฟ ชา และเห็ด ส่วนการเลี้ยงสัตว์ได้แก่ โค สุกร แพะ และปลา นอกจากนี้ยังส่งเสริมงานหัตถกรรม บริการขนส่ง การท่องเที่ยว และการค้าขายผ่านช่องทางค้าส่งและค้าปลีก พร้อมให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับการตลาด

ทั้งนี้ ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ เชื่อว่ายังมีหมู่บ้านอีกมากที่ต้องการกองทุนลักษณะนี้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาครอบครัวและชุมชน ในโอกาสเดียวกัน เจ้าหน้าที่ LFND และเจ้าหน้าที่เขตได้เยี่ยมชมกลุ่มผลิตทางการเกษตรต้นแบบ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพเพื่อวางขายในตลาด ตัวแทนเขตที่นำโดย นายกองมี สีสมุทร และนายเวียงคำ สีหาโคด ได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละหมู่บ้านสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกรเกี่ยวกับการดำเนินงานของกองทุน และวางแผนการใช้ประโยชน์ร่วมกับ LFND เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและส่งเสริมการพัฒนาให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

*************************************

ที่มา: Vientiane times