เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 บริษัท SpaceX ได้ประกาศเปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink อย่างเป็นทางการในบังกลาเทศ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของประเทศที่มีประชากรมากกว่า 170 ล้านคน การเข้าสู่ตลาดของ Starlink ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในบังกลาเทศ แต่ยังสร้างโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ สำหรับนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ที่สนใจด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้
รายงานนี้จะเสนอผลกระทบของการเปิดตัว Starlink ในมิติต่างๆ รวมถึงโอกาสทางธุรกิจ ความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และแนวโน้มในอนาคตที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจบังกลาเทศ
การเปิดตัว Starlink ในบังกลาเทศ
Starlink เป็นโครงการของ SpaceX ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit: LEO) ซึ่งสามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 150-200 Mbps และเวลาหน่วง (latency) ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีดาวเทียมแบบดั้งเดิม การเปิดตัวในบังกลาเทศเกิดขึ้นหลังจากการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลด้านโทรคมนาคมของบังกลาเทศ (BTRC) ซึ่งอนุญาตให้ Starlink ดำเนินการในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) รายแรกที่ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในประเทศ
บังกลาเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2553 เป็นเกือบ 40% ในปี 2568 ตามข้อมูลจาก BTRC อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทและห่างไกลยังคงเป็นความท้าทาย เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์แบบดั้งเดิม เช่น สายไฟเบอร์ออปติก มีข้อจำกัดด้านการลงทุนและภูมิศาสตร์ การมาถึงของ Starlink จึงถูกมองว่าเป็นโอกาสในการเชื่อมโยง "ช่องว่างดิจิทัล" (digital divide) และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล
Starlink เปิดตัวด้วย 2 แพ็กเกจหลักสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
แพ็กเกจ | ค่าบริการรายเดือน | ค่าติดตั้งครั้งแรก | ความเร็วสูงสุด |
Residence | 6,000 ตากา | 47,000 ตากา | 300 Mbps |
Residence Lite | 4,200 ตากา | 47,000 ตากา | 300 Mbps |
อัตราแลกเปลี่ยน 1 ตากา = 0.24 บาท @18/7/25
ผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาดิจิทัล
1. การเชื่อมต่อในพื้นที่ห่างไกล
หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของ Starlink คือความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิมเข้าไม่ถึง เช่น พื้นที่ชนบท เกาะเล็กๆ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในบังกลาเทศ ซึ่งครอบคลุมเกือบ 20% ของพื้นที่ทั้งหมด การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่เหล่านี้จะช่วยยกระดับการเข้าถึงการศึกษา การค้าออนไลน์ และบริการสาธารณสุขผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ตัวอย่างเช่น เกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลสามารถใช้แอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบราคาตลาดหรือเข้าถึงข้อมูลพยากรณ์อากาศได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตและรายได้.
2. การสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัลและสตาร์ทอัพ
บังกลาเทศมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะในด้านอีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียรจาก Starlink จะช่วยให้สตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดเล็กสามารถขยายการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Daraz หรือ bKash สามารถให้บริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในพื้นที่ที่เดิมมีข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ การพัฒนาแอปพลิเคชันหรือบริการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internet of Things (IoT) จะได้รับแรงหนุนจากการเชื่อมต่อที่เสถียรและรวดเร็ว.
3. การแข่งขันในตลาด ISP
การเปิดตัว Starlink จะเพิ่มการแข่งขันในตลาดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของบังกลาเทศ ซึ่งปัจจุบันถูกครอบงำโดยผู้ให้บริการท้องถิ่น เช่น Grameenphone, Robi และ Banglalink การแข่งขันนี้อาจนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการให้บริการและการลดราคาค่าบริการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการท้องถิ่นอาจเผชิญกับแรงกดดันในการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการรวมตัวหรือการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรม.
ความท้าทายสำหรับ Starlink ในบังกลาเทศ
1. ราคาค่าบริการ
หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของ Starlink ในบังกลาเทศคือราคาค่าบริการ ซึ่งอาจสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคทั่วไปในประเทศที่มีรายได้ต่อหัวประมาณ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ข้อมูลจากธนาคารโลก ปี 2567) ค่าติดตั้งอุปกรณ์ Starlink (เช่น จานรับสัญญาณ) และค่าบริการรายเดือนอาจเป็นอุปสรรคสำหรับครัวเรือนในชนบทและธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ Starlink ในบังกลาเทศ การกำหนดราคาที่เหมาะสมและการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายฐานผู้ใช้.
2. ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ
ถึงแม้ว่า BTRC จะอนุมัติให้ Starlink ดำเนินการในบังกลาเทศ แต่กฎระเบียบด้านโทรคมนาคมในประเทศอาจสร้างข้อจำกัดเพิ่มเติม เช่น การควบคุมความถี่สัญญาณหรือข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ การที่ Starlink เป็นบริษัทต่างชาติอาจเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานรัฐบาลในด้านการเก็บภาษีและการปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น.
3. ความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ถึงแม้ว่า Starlink จะไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม เช่น สายไฟเบอร์ แต่การติดตั้งสถานีภาคพื้นดิน (ground stations) เพื่อเชื่อมต่อดาวเทียมกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในบังกลาเทศยังคงเป็นสิ่งจำเป็น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนี้ในพื้นที่ที่มีความท้าทายด้านภูมิศาสตร์ เช่น พื้นที่น้ำท่วมหรือพื้นที่ห่างไกล อาจต้องใช้เวลาและเงินลงทุนจำนวนมาก
โอกาสสำหรับนักธุรกิจและนักลงทุน
การเปิดตัว Starlink ในบังกลาเทศเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับนักธุรกิจและนักลงทุนในหลายภาคส่วน ดังนี้:
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นักลงทุนสามารถพิจารณาการลงทุนในสถานีภาคพื้นดินของ Starlink หรือโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ข้อมูล (data centers) หรือระบบพลังงานหมุนเวียนสำหรับจานรับสัญญาณในพื้นที่ห่างไกล การลงทุนในด้านนี้จะช่วยสนับสนุนการขยายเครือข่ายของ Starlink และสร้างผลตอบแทนในระยะยาว.
การพัฒนาธุรกิจดิจิทัล การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล เช่น อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และการศึกษาแบบออนไลน์ นักลงทุนสามารถมองหาโอกาสในสตาร์ทอัพที่ให้บริการในด้านเหล่านี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ Starlink มีข้อได้เปรียบด้านการเชื่อมต่อ.
การร่วมมือกับ Starlink บริษัทท้องถิ่นในบังกลาเทศสามารถแสวงหาความร่วมมือกับ Starlink ในด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ การให้บริการลูกค้า หรือการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ Starlink การร่วมมือดังกล่าวอาจช่วยลดต้นทุนการเข้าถึงสำหรับผู้บริโภคและเพิ่มการเจาะตลาด.
การเกษตรและการค้าออนไลน์ นักธุรกิจในภาคเกษตรกรรมและการค้าสามารถใช้ประโยชน์จาก Starlink เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลราคาตลาดหรือเชื่อมต่อกับผู้ซื้อในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับห่วงโซ่อุปทาน.
การเปิดตัว Starlink ในบังกลาเทศจึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยเฉพาะในด้านการเชื่อมต่อพื้นที่ห่างไกลและการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านราคา กฎระเบียบ และโครงสร้างพื้นฐานยังคงเป็นอุปสรรคที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างรอบคอบ สำหรับนักธุรกิจและนักลงทุน การมาถึงของ Starlink เปิดโอกาสให้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ธุรกิจสตาร์ทอัพ และการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในภาคเกษตรและการค้า การบริหารความเสี่ยงและการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์จะเป็นกุญแจสำคัญในการคว้าโอกาสจากเทคโนโลยีนี้ การพัฒนาที่เกิดจาก Starlink ไม่เพียงแต่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรบังกลาเทศ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศในยุคดิจิทัล.
ที่มาข่าว/ภาพ https://unb.com.bd/