ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขตชาโปโถว (Shapotou District) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงการท่องเที่ยวของจีนตะวันตกด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่โดดเด่นและมีเสน่ห์เฉพาะตัวจากการผสานอย่างลงตัวระหว่าง แม่น้ำฮวงโห และ ทะเลทราย ทำให้ชาโปโถวสามารถรักษาเสน่ห์แห่งธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน ในขณะเดียวกันก็ใช้ศักยภาพ ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการต่อยอดไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและที่พักระดับไฮเอนด์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและที่พักของเขตชาโปโถวเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้ ชาโปโถวก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดตามแนวแม่น้ำฮวงโห อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการคุณภาพสูง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มุ่งเน้นการยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรม และสร้างมาตรฐานใหม่ของการท่องเที่ยวคุณภาพในจีนตะวันตก
ขับเคลื่อนด้วยนโยบาย เสริมแรงดึงดูดทั้งภายในและภายนอก
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เขตชาโปโถวก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับพรีเมียม คือ นโยบายเชิงรุกและการวางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน โดยรัฐบาลท้องถิ่นได้ดำเนินการตามแนวทาง “การออกแบบระดับสูง” (High-level Planning) ควบคู่ไปกับ “มาตรการสนับสนุนที่ตรงจุด” เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เขตชาโปโถวได้ประกาศใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุน ที่ครอบคลุมตั้งแต่สิทธิประโยชน์ด้านภาษี การสนับสนุนเงินทุนไปจนถึงการอำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการ เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการระดับสากลและสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวครบวงจร พร้อมทั้งวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีความต้องการคุณภาพสูง
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่น คือ การดึงดูดแบรนด์โรงแรมระดับโลกและระดับประเทศ อาทิ Hilton, Atour และ Mehood Lizhi เข้ามาลงทุนและเปิดโรงแรมหรูในพื้นที่ เพื่อเติมเต็มช่องว่างของตลาด ที่พักระดับไฮเอนด์ ส่งผลให้ชาโปโถวสามารถยกระดับมาตรฐานการต้อนรับได้เทียบเท่าเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของจีน ในขณะเดียวกัน เขตชาโปโถวยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโรงแรมท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เช่น Zhongbo และ Yixing เข้าร่วมโครงการ “Smart Upgrade & Thematic Renovation” ที่เน้นการปรับโฉมที่พักเดิมให้ทันสมัย ด้วยการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ และแนวคิดการสร้าง “ประสบการณ์เฉพาะบุคคล” เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มคุณค่าต่อผู้เข้าพัก นโยบายเหล่านี้ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว แต่ยังสร้างแรงดึงดูดการลงทุนทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ ตอกย้ำบทบาทของชาโปโถวในฐานะจุดหมายปลายทางการพักผ่อนระดับพรีเมียมที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับอัตลักษณ์ท้องถิ่น
สร้างจุดหมายปลายทางใหม่ ผสานธรรมชาติและนวัตกรรม
เขตชาโปโถวให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเดิม โดยนำเสนอ แบรนด์หลัก ภายใต้แนวคิด “เมืองแห่งทะเลทราย บ้านแห่งดวงดาว” เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ทางภูมิทัศน์ และมอบประสบการณ์พิเศษที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัวในโซนทะเลทราย ได้มีการเปิดตัวที่พักหรูระดับไฮเอนด์ เช่น Star Hotel และ Desert Galaxy Camp ซึ่งมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำ เช่น หอดูดาวส่วนตัวสำหรับชมดวงดาว และสระว่ายน้ำไร้ขอบที่มอบวิวพาโนรามาของทะเลทรายอย่างตระการตา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายผจญภัย เช่น การเดินป่ากลางทะเลทรายและการเล่นแซนด์บอร์ด เพื่อสร้างจุดขายที่ทำให้ผู้มาเยือนจดจำบรรยากาศ “นอนดูดาวกลางผืนทรายอันกว้างใหญ่” ขณะเดียวกัน ในโซนริมแม่น้ำฮวงโห ภายใต้โครงการ “Yellow River Accommodation Collection” มีการปรับปรุงและพัฒนาที่พักกว่า 30 แห่ง ให้มีความทันสมัยและมีเอกลักษณ์มากขึ้น โดยนำการออกแบบเชิงสร้างสรรค์เข้ามาใช้ อาทิ โรงแรมคอนเทนเนอร์สไตล์อาร์ต และ เต็นท์โดมโปร่งแสงสำหรับชมดาว ภายใต้แนวคิด “หนึ่งที่พัก หนึ่งธีม หนึ่งลาน หนึ่งโลก” เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างสำหรับผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่ซึ่งกำลังมองหาการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่พักผ่อน แต่ต้องเติมเต็มความรู้สึกและสร้างเรื่องราวเฉพาะตัว
การพัฒนาทั้งสองโซนนี้ ช่วยให้ชาโปโถวไม่เพียงเป็นแหล่งพักผ่อนธรรมชาติ แต่ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางไฮเอนด์ที่ผสานธรรมชาติ วัฒนธรรม และนวัตกรรมอย่างกลมกลืน ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความหรูหราและผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่างอย่างแท้จริง
ยกระดับมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นในบริการ
เพื่อตอกย้ำจุดยืนการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคุณภาพสูง เขตชาโปโถวได้เดินหน้าพัฒนามาตรฐานการบริการอย่างรอบด้าน ผ่านการนำเสนอระบบรับรองคุณภาพ “โป่ห่าวเหมียน” (坡好眠) ซึ่งออกแบบมาเพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้ง โครงสร้างพื้นฐาน การจัดการด้านบริการ และมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในทุกมิติ นอกจากระบบมาตรฐานแล้ว เขตชาโปโถวยังได้จัดตั้ง สมาคมอุตสาหกรรมโรงแรม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกำหนดแนวปฏิบัติที่เป็นสากล พร้อมวางกลไกการพัฒนาบุคลากรในรูปแบบครบวงจร ตั้งแต่ การอบรม การประเมินผล ไปจนถึงการรับรองคุณภาพบริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเข้มงวด ปัจจุบัน ได้มีการจัดอบรมบุคลากรแล้วกว่า 5 หลักสูตรสำคัญ ครอบคลุมทั้ง ทักษะการบริหารจัดการเชิงดิจิทัล (Digital Operations Management) และ การบริการในระดับบัตเลอร์พรีเมียม (Luxury Butler Service) ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับคุณภาพการบริการของอุตสาหกรรมที่พักในชาโปโถวให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล การดำเนินการเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของชาโปโถวในการสร้าง “มาตรฐานใหม่ของการบริการที่เหนือกว่า” ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ความคาดหวังของนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับภูมิภาคในฐานะ “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวคุณภาพสูงของจีนตะวันตก”
ข้อเสนอแนะของ สคต. ณ นครเฉิงตู
การพัฒนาของเขตชาโปโถว ถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีน ซึ่งกำลังปรับตัวไปสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวสำหรับนักท่องเที่ยว โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องการมากกว่าการพักผ่อน แต่แสวงหาความแปลกใหม่ ความหรูหรา และบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ชาโปโถวประสบความสำเร็จในการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้กลายเป็น "จุดหมายปลายทางระดับพรีเมียม"
แนวทางดังกล่าวถือเป็นแรงบันดาลใจที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในตลาดจีนที่มีศักยภาพสูง สินค้าและบริการไทยมีจุดแข็งในด้านเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความประณีตของงานฝีมือ และมาตรฐานการบริการระดับสากล ซึ่งสอดรับกับความต้องการของตลาดที่พักและบริการระดับไฮเอนด์ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก ด้วยการใช้ประโยชน์จาก ช่องทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน (Cross-border E-commerce) เพื่อขยายตลาดสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น ผลิตภัณฑ์สปา ของตกแต่งบ้าน และอาหารไทย นอกจากนี้ ควรเน้นกลยุทธ์การตลาดเชิงสร้างสรรค์ ผ่าน Storytelling Marketing ถ่ายทอดเอกลักษณ์และคุณค่าความเป็นไทย พร้อมเชื่อมโยงกับแนวคิด “หรูหรา สุขภาพ และวัฒนธรรม” เพื่อสร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่า และยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ไทยให้โดดเด่น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจีนยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-----------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
สิงหาคม 2568
แหล่งข้อมูล
https://dofcom.nx.gov.cn/zlzt/lgnx/ssnx/zw/202506/t20250609_4929216.html
https://th.trip.com/travel-guide/destination/shapotou-district-2015605/