ในสังคมปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์อีกต่อไป แต่เป็นสมาชิกในครอบครัว เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างในยามเหงา เมื่อสิ่งมีชีวิตอันเป็นที่รักจากไป การจัดพิธีศพจึงกลายเป็นสิ่งที่แสดงถึงความรักและความผูกพันระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงในวาระสุดท้าย และได้ก่อให้เกิด “อุตสาหกรรมพิธีศพสัตว์เลี้ยง” ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการสำรวจและวิจัยของ market.us ระบุว่า ในปี 2024 ตลาดพิธีศพสัตว์เลี้ยงทั่วโลกมีมูลค่าถึง 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจนแตะ 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2030 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 9.1 นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Grand View Research ยังได้ระบุว่า ตลาดบริการจัดพิธีศพสัตว์เลี้ยงใน “จีน” กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 มีมูลค่าตลาดกว่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าในปี 2030 จะเพิ่มขึ้นเป็น 187.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 12.1 นับว่าเป็นแรงขับเคลื่อนหลักและเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
แหล่งข้อมูล: grand view research
ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับจัดพิธีศพสัตว์เลี้ยง โกศเก็บกระดูกและโลงศพมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุชีวภาพย่อยสลายได้ มีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ส่งผลให้ความต้องการในการจัดพิธีศพแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้น หลายคนเลือกที่จะผสมเถ้ากระดูกของสัตว์เลี้ยงกับดินเพื่อนำไปปลูกต้นไม้ที่ระลึก เพื่อให้สัตว์เลี้ยงกลับคืนสู่ธรรมชาติในอีกหนึ่งรูปแบบ
ผลิตภัณฑ์และบริการจัดพิธีศพไม่เพียงต้องตอบโจทย์ด้านฟังก์ชันเท่านั้น แต่ยังต้องมอบการเยียวยาทางจิตใจด้วยเช่นกัน อาทิ ของที่ระลึกแบบสั่งทำพิเศษ โกศเก็บกระดูกที่มีเอกลักษณ์ พิธีศพแบบรักษ์โลก เป็นต้น จะช่วยให้เจ้าของสามารถหาที่พึ่งทางใจหลังจากการสูญเสียสัตว์เลี้ยงได้
เมื่อผู้บริโภคตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและมีความต้องการที่หลากหลายขึ้น ในอนาคต ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับจัดพิธีศพสัตว์เลี้ยงจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พิธีศพแบบรักษ์โลก บริการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากเถ้ากระดูกสัตว์เลี้ยง ตลอดจนบริการรำลึกถึงสัตว์เลี้ยงในรูปแบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จะกลายเป็นแนวโน้มใหม่ของอุตสาหกรรมนี้
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
ผลิตภัณฑ์และบริการจัดพิธีศพสัตว์เลี้ยง นับว่าเป็นตลาด Blue Ocean ที่น่าจับตามองในจีน เนื่องจากผู้บริโภคในกลุ่ม Pet Parents นั้นมีกำลังซื้อสูงและพร้อมที่จะจ่าย นอกจากจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ของผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังเป็นโอกาสในการสร้าง “Soft Power” ผ่านสินค้าหัตถกรรมไทยที่มีคุณค่า ถ่ายทอดความประณีตและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่สายตาผู้บริโภคจีนที่ต้องการสิ่งที่ตอบโจทย์ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีจุดแข็งด้านการผลิตสินค้าหัตถกรรมคุณภาพสูง งานไม้ งานโลหะ งานเซรามิก และงานเครื่องประดับ สามารถต่อยอดเข้าสู่ตลาดพิธีศพสัตว์เลี้ยงจีนได้ทันที
นอกจากนี้ ไทยยังสามารถใช้ ช่องทางการค้าออนไลน์ผ่าน Cross-border E-commerce และ Social Commerce ในจีนที่กำลังเติบโต หรือใช้โอกาสเขตเศรษฐกิจพิเศษ Greater Bay Area (GBA) ในการเป็นศูนย์กระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดจีนตอนใต้ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA ไทย-จีน และ RCEP เพื่อลดต้นทุนภาษี ทำให้สินค้าไทยมีความสามารถในการแข่งขันและทำราคาได้สอดคล้องกับตลาดเป้าหมาย
กลยุทธ์ภาครัฐและเอกชนไทยในการบุกตลาดจีน ดังนี้
1. พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงมาตรฐานจีน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และการใช้งาน เช่น โกศเก็บกระดูกและโลงศพย่อยสลายได้ เครื่องประดับใช้วัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
2. สร้างเรื่องราวสินค้า (Emotional Marketing) เช่น ความรัก ความทรงจำ ความผูกพัน ที่สื่อถึงความเป็นครอบครัวของสัตว์เลี้ยงเพื่อดึงดูดคนจีนที่ใส่ใจเรื่องความรู้สึก
3. พัฒนาบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง ให้สามารถส่งสินค้าผ่าน E-commerce ได้โดยไม่แตกหักง่าย ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ Eco Brand
4. สร้างความร่วมมือกับผู้นำเข้าจีน เพื่อกระจายสินค้าเข้าร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยงและคลินิกสัตวแพทย์ที่จัดพิธีศพสัตว์เลี้ยงในจีน
5. ร่วมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องในจีน เช่น งาน Pet Fair Asia งาน China International Import Expo (CIIE) เพื่อแสดงศักยภาพสินค้าพิธีศพสัตว์เลี้ยงไทย
6. ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก เช่น “Urn from Thailand” “Thai Memorial Art” เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างจากคู่แข่ง
แหล่งข้อมูล : https://mp.weixin.qq.com/s/BNVMiF0SxxAPc3VODVuqRA
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
11 กรกฎาคม 2568