fb
แบรนด์ท้องถิ่นหนิงเซี่ยหุย สะท้อนวัฒนธรรมและสร้างโอกาสเชิงพาณิชย์
โดย
sirinanw@ditp.go.th
ลงเมื่อ 24 กรกฎาคม 2568 09:45
19

เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย (Ningxia Hui Autonomous Region) เป็นหนึ่งในห้าเขตปกครองตนเองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีเมืองเอกคือนครหยินชวน และเป็นพื้นที่ที่มีประชากรกลุ่มชาติพันธุ์หุยอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดในประเทศ หนิงเซี่ยหุยมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งที่ราบลุ่มแม่น้ำหวงเหอซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร และพื้นที่ราบสูงกึ่งทะเลทรายซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่ท้าทายต่อการพัฒนา ด้วยการสนับสนุนนโยบายจากรัฐบาลกลางและความเข้มแข็งของภาคประชาชน หนิงเซี่ยหุยสามารถสร้างความโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมสำคัญหลายสาขา ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อาหารฮาลาล พลังงานสะอาด การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการค้าชายแดน หนิงเซี่ยหุยยังได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของประเทศจีน โดยเฉพาะ ลูกเก๋ากี้ (โกจิเบอร์รี) เนื้อแพะ และไวน์องุ่นจากเทือกเขาเฮ่อหลาน ซึ่งได้รับการส่งเสริมสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายใต้กรอบความร่วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) ซึ่งส่งผลให้หนิงเซี่ยหุยกลายเป็นประตูเศรษฐกิจสำคัญที่เชื่อมโยงจีนกับ ภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกอาหรับ

แบรนด์ท้องถิ่นคู่ชีวิตชาวหนิงเซี่ยหุย สะท้อนรากวัฒนธรรมและพลังเศรษฐกิจชุมชน

ในด้านวัฒนธรรม เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวอันเกิดจากการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมกับวัฒนธรรมอิสลามของชนเผ่าหุย อิทธิพลทางวัฒนธรรมดังกล่าว ไม่เพียงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน หากยังปรากฏชัดผ่านผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น แบรนด์ท้องถิ่น และรูปแบบการบริโภคของผู้คนในพื้นที่ แบรนด์จำนวนไม่น้อยได้ถือกำเนิดจากรากฐานของชุมชนและดำรงอยู่เคียงข้างวิถีชีวิตของผู้คนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะแบรนด์ที่เติบโตในท้องถิ่นมากว่า 20–30 ปี ซึ่งยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวแทนของอัตลักษณ์ชุมชนและเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในภูมิภาค พร้อมกันนั้น ยังทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำร่วมและความผูกพันของชาวหนิงเซี่ยหุย 

แบรนด์จินเหอ (Jinhe)

image.png


 

image.png

 

หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ได้แก่ จินเหอ (Jinhe) ผู้ผลิตโยเกิร์ตท้องถิ่นซึ่งเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 1998 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้บริโภคชาวหนิงเซี่ยหุย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตถุงสีเหลืองที่กลายเป็นภาพจำสำคัญของชาวหนิงเซี่ยหุยในช่วงทศวรรษ 2000 ด้วยรสชาติเปรี้ยวหวานแบบคลาสสิก และความนิยมในการนำไปแช่แข็งให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งคล้ายไอศกรีมในช่วงฤดูร้อน จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำและรสชาติที่คุ้นเคยในวัยเด็กเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จินเหอได้ดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยเปิดตัวร้านเครื่องดื่มนมสดภายใต้แบรนด์ Shanxia You Niu ซึ่งผสานผลิตภัณฑ์นมแบบดั้งเดิมเข้ากับการออกแบบร้านแนวสุขภาพในสไตล์คาเฟ่ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับทั้งรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ แบรนด์ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น โยเกิร์ตโปรไบโอติกสูตรไร้น้ำตาล ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้รักสุขภาพ และนมเบียร์ (Milk Beer) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ผสมผสานความแปลกใหม่กับแนวคิดการดื่มเพื่อสุขภาพ โดยยังคงไว้ซึ่งคุณภาพมาตรฐานของแบรนด์ในฐานะผู้ผลิตนมท้องถิ่นที่เชื่อถือได้


แบรนด์เซียจิ้น (Xiajin)

 


 

image.png

เซียจิ้น (Xiajin) เป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมสดรายใหญ่ของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย โดยมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 และเติบโตควบคู่กับวิถีชีวิตของประชาชนท้องถิ่นมายาวนานกว่า 30 ปี ด้วยภาพจำของ นมขวดฝาสีน้ำเงินที่ปรากฏอยู่แทบทุกเช้าในครัวเรือนหนิงเซี่ยหุย ผลิตภัณฑ์ของเซียจิ้นในยุคแรกเริ่มมักถูกบริโภคควบคู่กับอาหารเช้าแบบจีน เช่น ขนมปังนึ่ง (หมั่นโถว) หรือซาลาเปา และถือเป็นเครื่องดื่มประจำบ้านที่เข้าถึงง่าย ราคาย่อมเยา และเปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้เซียจิ้นกลายเป็น  แบรนด์ที่มีความผูกพันกับผู้บริโภคในระดับครอบครัวมายาวนาน 

 

ด้วยความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล บริษัทเซียจิ้นได้ดำเนินยุทธศาสตร์ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมระดับพรีเมียม เช่น Huorun Yogurt และ Juepin Pure Milk เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มรักสุขภาพ ก้าวสำคัญอีกประการหนึ่งของเซียจิ้นคือการเปิดตัวแบรนด์เครื่องดื่มใหม่ภายใต้ชื่อ Xiajin Nice Tea ซึ่งเป็นร้านชาและเครื่องดื่มแนวสุขภาพที่ผสมผสานผลิตภัณฑ์นมท้องถิ่นเข้ากับวัฒนธรรมการบริโภคเครื่องดื่มแบบทันสมัย และร่วมมือกับคาแรคเตอร์ยอดนิยม เช่น Capybara และ Sad Frog เพื่อสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นผ่านช่องทางออนไลน์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเขตเมืองและกลุ่มนักเรียน–นักศึกษา

 

แบรนด์ขนมขบเคี้ยวท้องถิ่น

image.png

 โฮ่วเซิงจี้ (Houshengji)

image.png

โฮ่วเซิงจี้” (Houshengji) แบรนด์ขนมขบเคี้ยวท้องถิ่นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 เริ่มต้นจากการผลิตภัณฑ์ถั่วอบกรอบ เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง และเมล็ดแตงโม ซึ่งกลายเป็นของกินเล่นประจำบ้านในหนิงเซี่ยหุยและพื้นที่ใกล้เคียง ปัจจุบันโฮ่วเซิงจี้ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยใช้ เก๋ากี้ (โกจิเบอร์รี) ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองของหนิงเซี่ย มาพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จากจุดเริ่มต้นในตลาดท้องถิ่น โฮ่วเซิงจี้สามารถขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายครอบคลุมกว่า 200 เมืองทั่วประเทศจีน และเริ่มบุกตลาดต่างประเทศ โดยมีประเทศ มาเลเซีย เป็นจุดหมายปลายทางหลักในการส่งออก แบรนด์โฮ่วเซิงจี้จึงถือเป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จในการนำทุนวัฒนธรรมและวัตถุดิบพื้นถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมัยใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มผู้บริโภคด้านสุขภาพ ตอกย้ำบทบาทของ ขนมกินเล่น” ในฐานะสินค้าที่มีศักยภาพเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในเวทีสากล

ขนมไหว้พระจันทร์ เหล่าเมี่ยว (Laomiao)

image.png
image.png

ในมิติของขนมพื้นบ้าน แบรนด์ขนมไหว้พระจันทร์เก่าแก่ เหล่าเมี่ยว (Laomiao) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเทศกาลสำคัญที่สืบทอดกันมายาวนานในหนิงเซี่ย โดยแบรนด์ได้พัฒนาไส้ขนมและรูปแบบแพ็กเกจจิ้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแบบดั้งเดิม เช่น ไส้ถั่วแดง ไส้เมล็ดบัว ไปจนถึงไส้ร่วมสมัยในสไตล์แต้จิ๋ว กวางตุ้ง และซูโจว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจทั้งรสชาติและรูปลักษณ์ ในขณะที่ยังคงยึดมั่นในคุณค่าทางวัฒนธรรมของเทศกาลดั้งเดิม


 

image.png

เครื่องปรุงรสพื้นบ้าน ซานเหอ(Hongshanhe) และ ซานลี่ (Sanli)

ในด้านแบรนด์เครื่องปรุงรสพื้นบ้าน หนิงเซี่ยยังคงรักษาฐานความนิยมผ่านแบรนด์ดั้งเดิมอย่าง หงซานเหอ(Hongshanhe) และ ซานลี่ (Sanli) ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากครัวเรือนในท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสูตรการผลิตที่สืบทอดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ผสมผสานกับการปรับปรุงกระบวนการให้ได้มาตรฐานการผลิตสมัยใหม่ ทำให้ผลิตภัณฑ์คงไว้ซึ่งรสชาติและคุณภาพอันเป็นที่จดจำ โดยสินค้ายอดนิยม ได้แก่ ซอสหม้อไฟ ผงพริก รวมถึงซอสปรุงรสที่เหมาะสำหรับเมนูอาหารจีนพื้นเมือง เช่น ไก่พะโล้สไตล์หนิงเซี่ยและเต้าหู้ผัดเผ็ดสไตล์เสฉวน ที่ต้องการความหอมและรสชาติเข้มข้นเป็นพิเศษ

image.png

แบรนด์น้ำมันพืชท้องถิ่น ติ้งต้าโถว (Dingdatou

สำหรับกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แบรนด์น้ำมันพืชท้องถิ่น ติ้งต้าโถว (Dingdatou) เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเติบโตจากฐานธุรกิจชุมชน โดยเริ่มต้นจากโรงงานขนาดเล็กในปี 2529 ก่อนจะขยายกิจการและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันพืชรายสำคัญของภูมิภาค ปัจจุบัน Dingdatou ผลิตน้ำมันงา น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันคาโนลา โดยเน้นจุดขายที่ความสดใหม่ กลิ่นหอม และปลอดสารเคมี ทั้งยังประสบความสำเร็จในการใช้ช่องทางออนไลน์และการไลฟ์สดเป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพแบรนด์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นผลิตผลของวัฒนธรรมท้องถิ่น หากยังสะท้อนพลังของเศรษฐกิจฐานรากและศักยภาพของชุมชนหนิงเซี่ยในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ

ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู 

เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยเป็นพื้นที่ที่หลอมรวมวัฒนธรรมจีนและอิสลามไว้ได้อย่างกลมกลืนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันโดดเด่นนี้สะท้อนผ่านแบรนด์ท้องถิ่นหลากหลายราย ซึ่งถือกำเนิดจากรากฐานของวิถีชีวิตชุมชน และยังคงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนทำหน้าที่เป็นตัวแทนของความทรงจำร่วมและสายสัมพันธ์ของประชาชนในท้องถิ่น กรณีศึกษาจากแบรนด์ท้องถิ่นในหนิงเซี่ยหุย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การเชื่อมโยงวัฒนธรรมชุมชนและเศรษฐกิจ คือโมเดลการพัฒนาที่สามารถสร้างความยั่งยืนได้จริง โดยเฉพาะเมื่อมีการบูรณาการคุณค่าดั้งเดิมเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์ การสื่อสารสมัยใหม่ และการใช้ช่องทางการตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถตอบสนองตลาดภายในประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง และขยายสู่ตลาดระดับนานาชาติ

แบรนด์ท้องถิ่นของหนิงเซี่ยหุยจึงถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้วัฒนธรรมและอัตลักษณ์ชุมชนมาเป็นจุดแข็งในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารแปรรูป เครื่องดื่มสุขภาพ และสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน ทั้งนี้ ประเทศไทยสามารถถอดบทเรียนจากกรณีดังกล่าวเพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแบรนด์สินค้า OTOP และ SMEs ไทยที่มีเป้าหมายยกระดับเข้าสู่ตลาดจีน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู เห็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ และสินค้าเกษตรแปรรูป ซึ่งมีจุดเด่นในด้านการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ การพึ่งพาภูมิปัญญาท้องถิ่น และการออกแบบแบรนด์ที่มีรากฐานจากวัฒนธรรมของชุมชน ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาองค์ความรู้ด้านมาตรฐานการส่งออก เช่น Halal HACCP GMP ตลอดจนคำปรึกษาด้านการออกแบบฉลากสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดเป้าหมายในระดับนานาชาติ การส่งเสริมให้แบรนด์ท้องถิ่นสามารถพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคใหม่ โดยไม่สูญเสียรากเหง้าทางวัฒนธรรม ถือเป็นแนวทางสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของแบรนด์ไทยในการเข้าสู่ตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

-----------------------------------

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

กรกฎาคม 2568

https://dofcom.nx.gov.cn/xwzx_274/swdt/202507/t20250703_4951805.html

Share :
Instagram