“กัมพูชาอนุมัติ ร่างความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อน กับ สปป. ลาว และฟิลิปปินส์"

รัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติร่างความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อน (Double Taxation Agreements : DTAs) กับ สปป. ลาวและฟิลิปปินส์ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนที่เอื้อต่อภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น

รัฐบาลกัมพูชาได้ชี้แจงว่าร่างความตกลงฯ ทั้งสองฉบับนี้ ได้รับการรับรองในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2025 ผ่านมา ณ พระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) โดยมีสมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งความดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อขจัดการเก็บภาษีซ้อนจากรายได้ที่เกิดขึ้นในทั้งสองประเทศคู่ภาคี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน การค้า และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ในแถลงการณ์ยังระบุว่า “ร่างความตกลง DTA ระหว่างกัมพูชากับสปป. ลาว และระหว่างกัมพูชากับฟิลิปปินส์ สะท้อนถึงหลักการสำคัญของนโยบายภาษีระหว่างประเทศ รวมทั้งสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบภาษีของกัมพูชา ตลอดจนรูปแบบของสหประชาชาติซึ่งเอื้อต่อประเทศกำลังพัฒนา เช่น กัมพูชา”

ความตกลงดังกล่าว จะนำมาซึ่งประโยชน์ร่วมหลายประการ เช่น การขยายฐานภาษี การส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญผ่านบทบัญญัติเกี่ยวกับค่าลิขสิทธิ์ การคุ้มครองนักลงทุนชาวกัมพูชาในต่างประเทศ และการเพิ่มความร่วมมือในการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษี

ทั้งนี้ ตามรายงานของกรมสรรพากรของกัมพูชา (General Department of Taxation : GDT) ภายใต้การกำกับของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (Ministry of Economy and Finance : MEF) ความตกลงดังกล่าว มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสร้างความชัดเจนทางภาษี

โดยกรมสรรพากรฯ ระบุว่า “ความตกลงฯ นี้ กำหนดสิทธิในการจัดเก็บภาษีระหว่างรัฐคู่ภาคี ทำให้การดำเนินการทางภาษีบางประเภทง่ายขึ้น และมอบประโยชน์โดยตรงแก่ธุรกิจจากประเทศที่มีความตกลง DTA กับกัมพูชา” โดยในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว มีบริษัทจำนวน 95 แห่งที่ได้รับประโยชน์จากบทบัญญัติในข้อตกลงดังกล่าว

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งเดียวกันนี้ รัฐบาลยังได้อนุมัติพิธีสารฉบับที่สองเพื่อแก้ไขความตกลง DTA เดิมระหว่างกัมพูชากับสิงคโปร์ เพื่อปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานและแนวปฏิบัติด้านภาษีระหว่างประเทศในปัจจุบัน

ข้อมูลที่น่าสนใจ

1. Double Taxation Agreement หรือ DTA หมายถึง ความตกลงสองฝ่ายระหว่างสองประเทศ (bilateral tax treaty) มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้อน (double taxation) และแบ่งความรับผิดชอบในการเก็บภาษีระหว่างประเทศคู่สัญญา ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนข้ามชาติและการค้าระหว่างประเทศ 

2. ปัจจุบัน กัมพูชาได้ลงนามในความตกลง DTA กับประเทศต่างๆ แล้ว ได้แก่ สิงคโปร์ จีน บรูไน ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย สาธารณรัฐเกาหลี มาเก๊า และตุรกี

3. ขณะนี้ กัมพูชาอยู่ระหว่างการเจรจาความตกลง DTA เพิ่มเติมกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น โมร็อกโก ฝรั่งเศส กาตาร์ และอาเซอร์ไบจาน ในขณะที่ความคืบหน้าของความตกลง DTA ระหว่างกัมพูชากับเมียนมาได้เสร็จสิ้นในระดับเทคนิคแล้ว

ความเห็นของสำนักงานฯ

1. การใช้ประโยชน์จากความตกลง DTA เป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยในการลดภาระภาษีที่อาจถูกเรียกเก็บซ้ำทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะขอใช้สิทธิ์ตาม DTA ควรวางแผนและเตรียมเอกสารให้พร้อมล่วงหน้า โดยเฉพาะ Certificate of Residence (หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่) จากกรมสรรพากรไทย และหลักฐานการชำระภาษีในประเทศไทย เนื่องจากกระบวนการอนุมัติจากทางการกัมพูชายังคงใช้เวลาพอสมควรและต้องดำเนินการผ่านหลายขั้นตอน ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rd.go.th

2. ผู้ประกอบการไทยอาจพิจารณาให้คู่ค้าในกัมพูชาช่วยยืนยันขั้นตอนการยื่น DTA กับกรมสรรพากรของกัมพูชา (General Department of Taxation : GDT) เพื่อป้องกันความล่าช้า และควรใช้บริการที่ปรึกษาภาษีท้องถิ่นที่มีประสบการณ์กับระบบของกัมพูชาด้วย

3. การที่รัฐบาลกัมพูชาอนุมัติร่างความตกลง DTA เพิ่มเติม กับ สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใสและเอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น ทั้งยังอาจส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยในระยะยาว โดยเฉพาะในด้านการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานและการลงทุนข้ามพรมแดนอีกด้วย 

_____________________________________________________________________

ที่มา Khmer Times

28 ตุลาคม 2568