ผุดไอเดียเพิ่มมูลค่าผลไม้ไทยสู่แยมคุณภาพขึ้นโต๊ะอาหารเช้าชาวออสเตรีย

วัฒนธรรมการบริโภคอาหารเช้าของชาวตะวันตกที่ดูเรียบง่ายแต่ประกอบไปด้วยความหลากหลายทางโภชนาการและรสชาติ หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารก็คือ แยมผลไม้ ตลาดแยมและผลไม้บดของออสเตรียมีมูลค่าสูงถึง 161 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 ซึ่งเติบโตขึ้น 4.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2567 และมีอัตราการบริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด 7 ปี ข้อมูลจากหน่วยงานด้านสถิติของยุโรประบุว่าคนออสเตรียบริโภคแยมผลไม้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.28 กิโลกรัมต่อคนต่อปี โดยเมื่อมองถึงพฤติกรรมการบริโภค คนออสเตรียนิยมแยมที่มีสัมผัสของเนื้อผลไม้ ไม่หวานมาก มีความสมดุลระหว่างรสชาติและสุขภาพ แยมที่วางจำหน่ายในออสเตรียส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์จากผลไม้ท้องถิ่น เช่น สตรอว์เบอร์รี แรสเบอร์รี แอปริคอต หรือบลูเบอร์รี ซึ่งเป็นรสชาติเป็นที่คุ้นเคยของผู้บริโภค 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าออสเตรียจะสามารถผลิตแยมผลไม้คุณภาพสูงได้เองภายในประเทศ แต่ก็ยังมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในแถบยุโรปอย่าง ตุรกี เยอรมนี เบลเยียม อิตาลี และอื่นๆ เป็นมูลค่าสูงถึง 76.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ    ในปี 2566 ขณะที่ประเทศไทยมีมูลค่าส่งออกแยมไปยังออสเตรียเพียง 5,390 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางการค้าที่ยังเปิดกว้างและน่าสนใจสำหรับผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูปจากผลไม้อย่างแยม

ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ

ความหลากหลายของแยมที่วางขายในออสเตรียยังมีไม่มากนัก เนื่องจากทรัพยากรที่ใกล้เคียงกันของประเทศในแถบยุโรป จึงเป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้ามหากผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วยจุดขายหลักเป็นแยมจากผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง เสาวรส สับปะรด มะพร้าว โดยผ่านการควบคุมคุณภาพมาตรฐานตามหลักของสหภาพยุโรป (EU)[1] และบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างการบรรจุด้วยขวดแก้วแทนการบรรจุด้วยขวดพลาสติกซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ย่อมสามารถเพิ่มศักยภาพในการส่งออกสินค้าแยมผลไม้สู่ตลาดยุโรปได้มากขึ้น โดยไม่เพียงเพิ่มมูลค่าตลาดส่งออกให้กับสินค้าแยมผลไม้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังเป็นการเปิดโอกาสการขยายตลาดสินค้าการเกษตรแปรรูปอื่นๆ ในอนาคตได้มากอีกด้วย