อุตสาหกรรมขนมสัตว์เลี้ยงของจีนกำลังอยู่ในช่วงการเติบโตอย่างมีคุณภาพและนวัตกรรม ด้วยการเพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจ IoT การเลือกบริโภคอย่างมีความรู้โดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ รวมถึงการยกระดับการควบคุมคุณภาพการผลิตขนมสัตว์เลี้ยงเพื่อให้สามารถแข่งขันทัดเทียมกับแบรนด์ต่างประเทศ
1. ขนาดตลาด ตลาดขนมสัตว์เลี้ยงของจีนเติบโตสูงขึ้น 1 เท่าตัวในช่วงปี 2562 ปัจจุบันขนาดตลาดอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านหยวน อัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4-5 ต่อปี และมูลค่าของอุตสาหกรรมขนมสัตว์เลี้ยง คิดเป็นร้อยละ 30 ของมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง
2. ผู้บริโภคหลัก จากรายงานวิจัยประเมินการลงทุนของตลาดอุตสาหกรรมขนมสัตว์เลี้ยงของจีนปี 2568-2574 พบว่าชาว Gen Z และชนชั้นกลางรุ่นใหม่กลายเป็นกำลังหลักของตลาด อิทธิพลของโซเชียลมีเดียมีผลทำให้ผู้คนมีความต้องการเลี้ยงสัตว์ตามมาด้วยความต้องการซื้อขนมสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น การสื่อสารคอนเทนต์เกี่ยวกับขนมสัตว์เลี้ยงทางโซเชียลมีเดียในรูปแบบคลิปสั้นประสบความสำเร็จสูง และความต้องการขนมสัตว์เลี้ยงขยายจากเขตเมืองไปสู่เมืองรอง Tier 3-4 ซึ่งก่อให้เกิดแบรนด์ท้องถิ่นราคาประหยัด
3. ลักษณะการบริโภค พฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่เลือกบริโภคอย่างมีความรู้ และจับจ่ายเพิ่มสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกๆ ที่เป็นสัตว์เลี้ยง ผ่านรูปแบบและฟังก์ชันที่หลากหลาย โดยพบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเลือกซื้อขนมสัตว์เลี้ยงที่มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้
(1) ด้านสุขภาพ วัตถุดิบจากธรรมชาติ รวมถึงขนมออร์แกนิก เช่น เทคโนโลยีฟรีชดรายเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ และสูตรที่ปราศจากธัญพืชที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยผู้บริโภคร้อยละ 87 จะพิจารณาส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ รวมถึงบริการที่กำหนดเอง อิงตามสุขภาพ อายุ และสายพันธุ์
(2) ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติ/ฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ ผู้บริโภคร้อยละ 76 สนใจผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น กระดูกทำความสะอาดฟัน ลูกอมนุ่มปกป้องขน โปรไบโอติกแช่แข็งแห้ง ขนมโปรตีนสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหากระเพาะอาหาร และขนมดูแลข้อต่อสำหรับสัตว์เลี้ยงสูงอายุ ซึ่งกลุ่มขนมสัตว์เลี้ยงฟังก์ชั่นนี้กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยขนมจะเริ่มทดแทนอาหารหลัก โดยการเพิ่มปริมาณเนื้อสัตว์และอัตราส่วนทางโภชนาการเพื่อตอบสนองความต้องการของสัตว์เลี้ยงที่กินน้อยแต่หลายมื้อ กลายเป็นแนวโน้มใหม่ในอุตสาหกรร
(3) ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสุขให้แก่สัตว์เลี้ยง เช่น ลูกบอลให้อาหาร นอกจากนี้ ผู้บริโภคคนหนุ่มสาวยังมองสัตว์เลี้ยงว่าเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว ยินดีที่จะจ่ายให้กับผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม สั่งทำเป็นพิเศษ เช่น กล่องของขวัญ เค้กวันเกิดสัตว์เลี้ยง และบิสกิตพิมพ์หน้าสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
(4) บรรจุภัณฑ์ที่พกพาสะดวก สามารถเจาะตลาดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับกิจกรรมกลางแจ้ง และท่องเที่ยวระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง
4. นโยบายยกระดับมาตรฐานการผลิต เช่น มาตรการสำหรับการจัดการอาหารสัตว์เลี้ยง ส่งเสริมมาตรฐานอุตสาหกรรมและกำจัดกำลังการผลิตที่ล้าหลัง บริษัทชั้นนำได้ปรับปรุงความสามารถในการควบคุมคุณภาพและห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการ เช่น การนำระบบ HACCP เพื่อให้เกิดการตรวจสอบย้อนกลับทั้งกระบวนการ นอกจากนี้ โลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นและคลังสินค้าอัจฉริยะยังได้รับการปรับปรุง เพื่อรองรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น ขนมขบเคี้ยวเนื้อสด ขนมฟรีชดราย เป็นต้น
5. อุปทาน และการแข่งขัน
ด้วยศักยภาพของอุตสาหกรรมขนมสัตว์เลี้ยงดึงดูดผู้เล่นรายใหญ่และบริษัทต่างชาติต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่สนามขนมสัตว์เลี้ยง โดยการควบรวมกิจการและเข้าซื้อกิจการของบริษัทขนมสัตว์เลี้ยง โดยอาศัยกำลังการผลิตดั้งเดิมและจุดเด่นของแบรนด์ ยกตัวอย่าง บริษัทนมแห่งหนึ่งเปิดตัวขนมชีสสำหรับสัตว์เลี้ยง แบรนด์แม่และเด็กนำเสนอขนมเสริมอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง ขณะที่แบรนด์ท้องถิ่นขนาดเล็กและขนาดกลาง เน้นแข่งขันโดยการแบ่งสนาม เช่น ขนมฟรีชดรายสำหรับแมว ขนมขัดฟันสำหรับสุนัข และขนมเฉพาะเจาะจงสายพันธุ์ เป็นต้น หรือบางแบรนด์ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์แบรนด์ท้องถิ่น อีกทั้งรูปแบบการค้าปลีกใหม่อย่างการไลฟ์สด ผลักดันให้เกิดแบรนด์น้องใหม่จำนวนมาก อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนทำให้แบรนด์ต่างชาติเข้าสู่ตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง อาทิ แบรนด์ขนมของนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย โดยผ่านการไลฟ์สดซึ่งสามารถทำยอดขายได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างแบรนด์ชั้นนำด้านขนมสัตว์เลี้ยง
- China Pet Food ใช้แบรนด์ตนเองและ OEM ในต่างประเทศ อาทิ “Wanpy” และ “Zeal” ครอบคลุมตลาดบน กลาง ล่าง โดยโรงงานที่นิวซีแลนด์ เน้นการใช้วัตถุดิบโดยตรงและการผลิตในท้องถิ่น และสายการผลิตอัจฉริยะสำหรับขนมสัตว์เลี้ยง ใช้ระบบตรวจสอบภาพ AI เข้ามาปรับปรุงคุณภาพ ควบคุมการผลิตสินค้า นอกจากนี้ China Pet Food การ์ตูนแอนิเมชันเพิ่มจุดเด่นในการแข่งขัน
- Peidi วางตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขนมสำหรับการเคี้ยว (รักษาฟัน) ได้พัฒนาแบรนด์ย่อย ได้แก่ “Chew Nergy” เป็นผลิตภัณฑ์ได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรในการคิดค้นการทำความสะอาดฟันที่มีประสิทธิภาพ และ “Health+” ขนมฟรีชดรายที่ใช้เทคโนโลยีล็อคความสดที่อุณหภูมิต่ำเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ นอกจากนี้ Peidi ยังผลักดันความร่วมมือกับสถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์เลี้ยง เช่น การพัฒนาแบบจำลองโภชนาการสัตว์เลี้ยงร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ที่เข้มแข็งให้แบรนด์
- Gambol Pet แบรนด์ “Myfoodie” มีการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางที่หลากหลาย อาทิ กล่องสุ่มขนมสัตว์เลี้ยงบนแพลตฟอร์ม Douyin และการริเริ่มโครงการ User Co-Creation โดยการเชิญผู้บริโภคมามีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
- MARS แบรนด์ “Pedigree” และ “Whiskas” ซึ่งมีชื่อเสียงในตลาดทั่วไป ขณะเดียวกันก็มีแบรนด์ “Nutro” และ “Sheba” สำหรับตลาดระดับไฮเอนด์ เช่น ขนมปราศจากพืชของแบรนด์ Nutro นำเสนอแก่สัตว์เลี้ยงที่กระเพาะและลำไส้ที่บอบบาง ขณะที่ Sheba เน้นอาหารกระป๋อง ที่ทำจากวัตถุดิบจริง นอกจากนี้ MARS ยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ระดับมืออาชีพให้กับแบรนด์ด้วยการส่งเสริมการศึกษาผู้บริโภคผ่าน Pet Nutrition Academy
6. แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีขนมสัตว์เลี้ยง
- การบูรณาการเทคโนโลยี ใช้การคำนวณของ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการผลิต ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนตระหนักถึงการตรวจสอบย้อนกลับทั้งกระบวนการ การพิมพ์ 3 มิติ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น เครื่องป้อนขนมอัจฉริยะสามารถให้อาหารระยะไกล และบันทึกข้อมูลการให้อาหารสัตว์เลี้ยงผ่านแอปพลิเคชัน อุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถตรวจสอบสถานะสุขภาพของสัตว์เลี้ยงพร้อมแนะนำขนมที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เป็นต้น
- ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้และเทคโนโลยีหมุนเวียนส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรม
- การควบรวมกิจการข้ามพรมแดน บริษัทชั้นนำเพิ่มขีดความสามารถด้านซัพพลายเชนทั่วโลกผ่านการควบรวมกิจการข้ามพรมแดน ในขณะเดียวกัน มาตรฐานขนมสัตว์เลี้ยงของจีนจะค่อยๆ สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สามารถเพิ่มอิทธิพลระดับโลกโดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานสากล เช่น การขยายฐานการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลดต้นทุนและใกล้แหล่งวัตถุดิบ ในขณะเดียวกันก็อาศัยนโยบาย BRI ในการขยายตลาดต่างประเทศ
ความเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว
สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมคนโสด คนสูงอายุ และการพัฒนาเศรษฐกิจเริ่มขยายกว้างขึ้น ประกอบกับการมีชีวิตความเป็นอยู่รายได้เพิ่มขึ้น ทำให้บทบาทของสัตว์เลี้ยงกลายเป็นเสมือนคนในครอบครัว เป็นเพื่อนคลายความเหงาความเครียดของมนุษย์ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตตามไปด้วย อย่างเช่น ตลาดขนมสัตว์เลี้ยงที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเมืองที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญต่อแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์อิงวิทยาศาสตร์รวมถึงการยกระดับการบริโภคให้ความสำคัญต่อส่วนผสม คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ การประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้สามารถตอบสนองทาสรักสัตว์เลี้ยงชาวจีนได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับสร้างการรับรู้แบรนด์และความน่าเชื่อถือโดยการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลชื่อดังของจีนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ แนวโน้มการควบรวมกิจการข้ามแดน และการขยายฐานการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็เป็นอีกแนวโน้มที่ต้องจับตามองเช่นกัน
แหล่งที่มา :
https://www.chinairn.com/hyzx/20250616/115144219.shtml
https://www.chinairn.com/hyzx/20250612/163420121.shtml