รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนนำเข้านมวัว 3 ล้านตันในปีหน้าเพื่อตอบสนองต่อโครงการอาหารฟรีของประธานาธิบดี Prabowo Subianto โดยกระทรวงเกษตรให้ความเห็นสนับสนุนในการดำเนินการดังกล่าวโดยกล่าวว่าการผลิตในประเทศยังไม่สามารถตอบสนองอุปทานที่เกิดขึ้นจากโครงการได้
รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรนาย Amran Sulaiman กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่ายังมั่นใจว่าการนำเข้านมจากต่างประเทศจำนวนมากเหล่านี้จะเป็นเพียงการนำเข้าชั่วคราว และรัฐบาลจะลดการพึ่งพาการนำเข้าในอนาคต “หวังว่าในอีกห้าปีข้างหน้า เราจะสามารถสร้างโครงสร้างการผลิตที่จะช่วยลดการลดการนำเข้าของเราได้” นาย Amran
ปัจจุบันอินโดนีเซียนำเข้านมจากต่างประเทศถึงร้อยละ 80 ของความต้องการนมภายในประเทศ นาย Amran กล่าวเพิ่มเติม ว่ารัฐบาลได้เชิญนักลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนจากเวียดนาม ซึ่งมีความพร้อมที่จะจัดตั้งฟาร์มโคนมในอินโดนีเซีย โดยหากแผนงานดังกล่าวเป็นจริง มีการคาดการณ์ว่านักลงทุนจะต้องใช้พื้นที่ 100,000 เฮกตาร์และสามารถผลิตนมให้อินโดนีเซียได้ 1.8 ล้านตันต่อปี จากความต้องการพื้นที่ดังกล่าว กระทรวงเกษตรเล็งเห็นว่าพื้นที่ทางตะวันออกของอินโดนีเซียและหลายจังหวัดในเกาะสุมาตรามีความเหมาะสมที่จะสร้างฟาร์มโคนม
อย่างไรก็ตาม นาย Amran ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ในการสร้างและลงทุนในฟาร์มโคนม โดยภายหลังจากโครงการนมฟรีที่กำลังจะมาถึง รัฐบาลได้เสนอแผนที่จะนำเข้าวัวนมเพื่อเพิ่มการผลิตนมภายในประเทศ แต่ภาคธุรกิจได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแผนนี้ เพราะสภาพอากาศในท้องถิ่นอาจไม่เหมาะสมกับการผลิตน้ำนม เนื่องจากวัวในประเทศที่มีภูมิอากาศเขตร้อนมักจะผลิตนมได้น้อยกว่าในภูมิภาคกึ่งเขตร้อน เช่น ยุโรปหรือบางส่วนของออสเตรเลีย
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงโคนมอยู่อย่างจำกัด ในปัจจุบัน มีเพียงบางภูมิภาคในอินโดนีเซียเท่านั้นที่มีศักยภาพในการผลิตนม เช่น เมืองปายาคุมบุห์ในสุมาตราตะวันตก เปงกาเลงกันในชวาตะวันตก และปูจอนในชวาตะวันออก ในขณะเดียวกัน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในท้องถิ่นได้เรียกร้องให้รัฐบาลให้เกษตรกรรายย่อยมีส่วนร่วมในการขยายการผลิตนมของประเทศ
นาย Amran แจ้งเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจะรับรองว่าการจัดหาวัตถุดิบอาหารหลักในท้องถิ่นจะเพียงพอต่อความต้องการที่เหลือของโครงการอาหารฟรี เช่น หอมแดง พริก ข้าว ไข่ และเนื้อสัตว์ปีก โดยเขาได้กล่าวว่า “สิ่งที่เราคาดหวังคือการที่วัตถุดิบเหล่านี้ทั้งหมดจะมาจากภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบท หากมีการเคลื่อนย้ายของเงินจำนวนหลายล้านล้านรูเปียห์ในหมู่บ้านต่างๆ จะส่งผลให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ ของเราได้”
นาย Sarwo Edhy เลขาธิการสำนักงานอาหารแห่งชาติ (Bapanas) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า มีความเป็นไปได้ที่โครงการอาหารฟรีจะยังคงต้องใช้อาหารจากการนำเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าโภคภัณฑ์บางอย่างที่ไม่พอต่อความต้องการของอินโดนีเซีย
“วิธีการพิจารณาของเราคือคือถ้าการผลิตสินค้าที่ต้องการขาด เราต้องนำเข้า แต่เรายังไม่รู้ว่ามีจำนวนที่ต้องนำเข้าเท่าไหร่ เรายังพิจารณาตัวเลขกันอยู่” นาย Sarwo กล่าว เขากล่าวเสริมว่างบประมาณขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่รัฐบาลจัดสรรในปีหน้า และจะเป็นปัจจัยหลักที่จะบ่งชี้ว่าโครงการนี้จะเข้าถึงเด็กวัยเรียนทั้งหมดหรือไม่
รัฐบาลและทีมที่กำลังเปลี่ยนผ่านของประธานาธิบดี Prabowo ได้ตกลงกันเรื่องงบประมาณรวมคาดการณ์ไว้ที่ 71 ล้านล้านรูเปียห์ (4.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสนับสนุนโครงการอาหารฟรีในปีหน้า ซึ่งยังห่างไกลจากแผนการแรกซึ่งมีมูลค่าประมาณ 450 ล้านล้านรูเปียห์ต่อปีสำหรับโครงการเต็มรูปแบบที่จะดำเนินการทั่วประเทศ
ความคิดเห็นของสำนักงานฯ
Rank |
Trade Partner |
United States Dollars |
% Share |
% Change, 2023/2022 |
2021 |
2022 |
2023 |
2021 |
2022 |
2023 |
|
World |
14,149,561 |
17,421,333 |
17,600,177 |
100.00 |
100.00 |
100.00 |
1.03 |
1 |
New Zealand |
7,388,840 |
10,940,519 |
10,041,745 |
52.22 |
62.80 |
57.05 |
-8.22 |
2 |
France |
3,054,064 |
3,971,839 |
4,422,500 |
21.58 |
22.80 |
25.13 |
11.35 |
3 |
Australia |
667,915 |
1,030,508 |
1,259,294 |
4.72 |
5.92 |
7.16 |
22.20 |
4 |
Germany |
128,799 |
347,465 |
621,572 |
0.91 |
1.99 |
3.53 |
78.89 |
5 |
Thailand |
2,367,568 |
711,917 |
551,008 |
16.73 |
4.09 |
3.13 |
-22.60 |
6 |
Denmark |
128,088 |
246,037 |
518,300 |
0.91 |
1.41 |
2.94 |
110.66 |
7 |
Belgium |
|
|
101,446 |
|
|
0.58 |
|
8 |
Singapore |
343,213 |
69,965 |
61,689 |
2.43 |
0.40 |
0.35 |
-11.83 |
9 |
Switzerland |
18,480 |
15,498 |
14,852 |
0.13 |
0.09 |
0.08 |
-4.17 |
10 |
United States |
|
35,176 |
6,306 |
|
0.20 |
0.04 |
-82.07 |
ในปี 2566 อินโดนีเซียนำเข้านม 5 อันดับแรกจาก นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เยอรมนี และไทย โดยนำเข้าจากนิวซีแลนด์เป็นสัดส่วนสูงที่สุดคือ (57.05%) รองลงมาคือ ฝรั่งเศส (25.13%) ออสเตรเลีย (7.19%) เยอรมนี (3.53%) และไทย (3.13%) แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดของนิวซีแลนด์จะลดลง 8.22% แต่นิวซีแลนด์ยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกนมรายใหญ่ที่สุดมายังอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งลดลง 22.60% แต่ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้นำเข้านม 5 อันดับแรกในตลาดนมอินโดนีเซีย
ในระหว่างที่อินโดนีเซียอยู่ระหว่างการเตรียมแผนพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตนมในท้องถิ่นเพื่อตอบสนองโครงการของรัฐบาล แผนการนำเข้านม 3 ล้านตันของอินโดนีเซียจึงเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมนมของไทยในการสำรวจและวางแผนความร่วมมือระหว่างกัน ไทยสามารถตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์นมให้อินโดนีเซียได้ นอกจากนี้ โอกาสการลงทุนในด้านฟาร์มโคนมของอินโดนีเซีย เช่น การจัดตั้งฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ถือเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนธุรกิจฟาร์มโคนมของไทยที่จะร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจชาวอินโดนีเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญของไทยในด้านเทคโนโลยีและการจัดการการเลี้ยงโคนม