สหรัฐอเมริกาได้ประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาจากเดิม 36% เหลือ 19% (ลดลง 17%) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของกัมพูชาโดยรวม ทั้งในด้านการดึงดูดการลงทุนโดยตรง การจัดตั้งโรงงานหรือวิสาหกิจ การส่งเสริมการส่งออก และการสร้างโอกาสการจ้างงานภายในประเทศ
ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา H.E. Mr. Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ระบุว่า การลดภาษีนำเข้าดังกล่าวถือเป็นข่าวดีต่อประชาชนและเศรษฐกิจกัมพูชา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน กัมพูชาได้ตกลงยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด เหลือ 0% และบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจัดซื้อเครื่องบิน Boeing 737 Max 8 จำนวน 10 ลำ พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติมอีก 10 ลำ ผ่านบริษัท Air Cambodia ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะมีการลงนามสัญญาภายในเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับประเทศในภูมิภาคที่ได้รับการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราเดียวกันกับกัมพูชา (19%) ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะที่เวียดนาม บังกลาเทศ และศรีลังกา เสียภาษีในอัตรา 20% ลาวและเมียนมา 40% และสิงคโปร์ 10%
ข้อมูลจากกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชากับสหรัฐฯ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–มิถุนายน) อยู่ที่ 5.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกจากกัมพูชามีมูลค่า 5.52 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 164.90 ล้านดอลลาร์ ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า 5.36 พันล้านดอลลาร์
สินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้าและเครื่องประดับจากผ้า ผลิตภัณฑ์เพื่อการเดินทาง รองเท้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง รวมถึงสินค้าอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ
ความเห็นของสำนักงานฯ
1) การลดภาษีนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาโดยสหรัฐฯ เป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจกัมพูชา ทั้งในด้านการรักษาและดึงดูดการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะในภาคการผลิต โลจิสติกส์ และเทคโนโลยี คาดว่ากัมพูชาจะเติบโตอย่างรวดเร็วใน 3–5 ปี ต่อจากนี้ จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามบินนานาชาติเตโช ท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์ การขุดคลองฟูนันเตโช และทางรถไฟสายหลัก พร้อมกับการส่งเสริมทักษะแรงงานผ่านทุนการศึกษาในสายเทคนิคและอาชีวะ
2) กัมพูชายังมีนโยบายการลงทุนที่เปิดกว้าง เช่น การอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและศุลกากรตามระบบ QIP ภายใต้ CDC ประกอบกับค่าแรงที่แข่งขันได้ ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจ
ล่าสุด TH Automotive Manufacturing และ General Motors ประกาศลงทุนร่วมสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ Chevrolet มูลค่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จังหวัดกำปงชนัง คาดจะเปิดดำเนินการช่วงไตรมาสแรก ปี 2569 ด้วยกำลังผลิต 10,000–12,000 คันต่อปี
3) การที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้าหลัก ลดภาษีนำเข้า แสดงถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพระยะยาวของเศรษฐกิจกัมพูชา ส่งผลให้นักลงทุนและคู่ค้าจากเอเชียและยุโรปให้ความสนใจมากขึ้น และจะช่วยยกระดับบทบาทของกัมพูชาในห่วงโซ่การผลิตโลก (Global Value Chain)
___________________________________________________________________________
ที่มา: RFI News, Fresh News Business Cambodia & Oknha News
5 สิงหาคม 2568