จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ซึ่งเมืองมัณฑะเลย์ เนปยีดอ และสกาย ได้รับผลกระทบและเสียหายมาก โดยที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือและช่วยฟื้นฟูจากทั้งเมียนมาและนานาประเทศแล้วนั้น พลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ ประธานสภาบริหารแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีของเมียนมา กล่าวถึง 3 เสาหลัก ฟื้นฟูเศรษฐกิจเมียนมาหลังแผ่นดินไหว ได้แก่ 1. การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการคุ้มครองทางสังคม ให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 6 แสนคน 2. การซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่น ซ่อมถนน ซ่อมสะพาน ฟื้นฟูภาคเกษตรและธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบ โดยมุ่งเน้นฟื้นฟู 5 สาขาเศรษฐกิจ ได้แก่ การขนส่ง พลังงาน โทรคมนาคม การเกษตร โครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ 3. การปฏิรูปและส่งเสริมความร่วมมือระดับโลก เพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุม รองรับภัยพิบัติหรือความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน
ผลกระทบ/โอกาส 3 เสาหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเมียนมาหลังแผ่นดินไหวดังกล่าว เป็น “โอกาส” ในการพัฒนาของเมียนมา ทั้งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและคุ้มครองทางสังคม การซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและฟื้นฟูเศรษฐกิจในสาขาที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือระดับโลกเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ ในอนาคต
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอให้ผู้ประกอบการไทยติดตามสถานการณ์และพิจารณาประเด็นทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแนวทางการฟื้นฟูของเมียนมาหลังแผ่นดินไหวดังกล่าว จะเป็นโอกาสของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น วัสดุก่อสร้าง เพื่อใช้ซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน อาคารบ้านเรือน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ “ประโยชน์ร่วมกัน” ของไทยและเมียนมา ทั้งระดับธุรกิจ ประชาชน และประเทศ ซึ่งจะเป็นประตูสู่ความอย่างยั่งยืนร่วมกันต่อไป
********************************************
ที่มา: นสพ.Global New Light of Myanmar
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง