fb
“นครหยินชวน” ประตูการค้าสู่จีนตะวันตก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง

“นครหยินชวน” ประตูการค้าสู่จีนตะวันตก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง

โดย
sirinanw@ditp.go.th
ลงเมื่อ 01 สิงหาคม 2568 15:09
10

นครหยินชวน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ติดกับแม่น้ำฮวงโห ทำให้เมืองนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในฐานะ “โอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย” พื้นที่ของนครหยินชวนอุดมสมบูรณ์ด้วยระบบชลประทานที่ช่วยส่งเสริมการเกษตรมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเป็นแหล่งผลิตผลไม้ ข้าวสาลี และโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) คุณภาพสูง รวมถึงไวน์ที่เริ่มมีชื่อเสียงในตลาดจีนและต่างประเทศ สินค้าเหล่านี้กลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของภูมิภาค ในเชิงยุทธศาสตร์ นครหยินชวน ถือเป็น “ประตูการค้าสำคัญของจีนตะวันตก” เชื่อมโยงไปสู่เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และยุโรป ผ่านเครือข่ายรถไฟสายจีน–ยุโรปและเส้นทางคมนาคมที่พัฒนาภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) โดยเฉพาะการจัดตั้ง เขตปลอดภาษี Yinchuan Comprehensive Bonded Zone ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าสำคัญ รองรับการนำเข้า–ส่งออกทั้งตลาดจีนตอนในและตลาดต่างประเทศ

 

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 นครหยินชวนได้แสดงศักยภาพการเติบโตที่น่าจับตามอง แม้ต้องเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันภายในประเทศ ข้อมูลจากกรมศุลกากรหยินชวน ระบุว่า มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของหยินชวนอยู่ที่ 10.63 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้นครหยินชวนอยู่อันดับที่ 15 ของประเทศจีนในแง่มูลค่าการค้ารวม ซึ่งถือว่าโดดเด่นมาก เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจและประชากรที่เล็กกว่ามณฑลชายฝั่งตะวันออกอย่างมาก ความสำเร็จนี้ไม่เพียงตอกย้ำศักยภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาค แต่ยังสะท้อนถึงการเป็นจุดยุทธศาสตร์ ด้านการค้าและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค จากเดิมที่นครหยินชวนพึ่งพาเกษตรกรรมและการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศ ปัจจุบันได้ยกระดับสู่การเป็น “ประตูการค้าสำคัญของจีนตะวันตก” ที่เชื่อมโยงจีนตะวันตก  กับตลาดต่างประเทศ ผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ เขตปลอดภาษี และระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบาย BRI ของรัฐบาลจีน

สำหรับมูลค่าการส่งออกของนครหยินชวน อยู่ที่ 7.88 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 ขณะที่มูลค่าการนำเข้ามีมูลค่า 2.75 พันล้านหยวน หดตัวร้อยละ 6.6 ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการขยายมูลค่าการส่งออกของนครหยินชวนท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน เป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของโครงสร้างเศรษฐกิจ และบทบาทสำคัญของนครหยินชวนในฐานะ “จุดยุทธศาสตร์การค้าของจีนตะวันตก” ซึ่งพร้อมรองรับการขยายตัวในอนาคต

image.png

ยุทธศาสตร์ใหม่หยินชวน: จากเกษตรสู่เศรษฐกิจเทคโนโลยี

นครหยินชวนได้ปรับทิศทางจากการเป็น เมืองเกษตรกรรม” สู่ศูนย์กลางการผลิต” ที่เน้นสินค้ามูลค่าเพิ่มอย่างชัดเจน ข้อมูลการค้าระบุว่า เครื่องกลไฟฟ้า เป็นกลุ่มสินค้าที่เติบโตโดดเด่นที่สุด โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 1.37 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 79.2 คิดเป็น ร้อยละ 17.4 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด สะท้อนถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่กำลังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจภูมิภาค ขณะเดียวกัน สินค้าเกษตรยังคงรักษาบทบาทสำคัญ ด้วยมูลค่า 1.01 พันล้านหยวน ขยายตัวร้อยละ 24.3 โดยเฉพาะผลไม้คุณภาพสูงและผลิตภัณฑ์แปรรูปที่สอดรับกับเทรนด์สุขภาพของผู้บริโภคทั่วโลก ส่วนสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงมีการเติบโตต่อเนื่องที่ร้อยละ 10.4 มูลค่า 830 ล้านหยวน ตอกย้ำการเปลี่ยนผ่านของนครหยินชวนสู่ฐานการผลิตที่ผสานนวัตกรรมเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย การเติบโตของทั้งสองกลุ่มสินค้านี้ทำให้นครหยินชวนก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการผลิตสมัยใหม่ที่ไม่เพียงพึ่งพาทรัพยากรดั้งเดิมอีกต่อไป แต่พร้อมแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นสัญญาณของเศรษฐกิจ  ที่กำลังยกระดับสู่ความหลากหลายและยั่งยืน

เอกชนและทุนต่างชาติ แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

มูลค้าการค้าของนครหยินชวนในครึ่งปีแรกแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของภาคเอกชนและทุนต่างชาติในการผลักดันเศรษฐกิจ โดยมูลค่าการค้าของภาคเอกชนอยู่ที่ 8.34 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 78.4 ของมูลค่าการค้าทั้งหมด ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติขยายตัวอย่างโดดเด่น ด้วยมูลค่า 1.64 พันล้านหยวน ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 25.7 ในทางกลับกัน มูลค่าการค้าของรัฐวิสาหกิจ กลับลดลงที่ร้อยละ 25.3 ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่มุ่งเสริมบทบาทของตลาด     และกลไกการแข่งขันมากขึ้นแนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปของจีนที่มุ่งสร้างเศรษฐกิจเปิด เสริมขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านความร่วมมือภาคเอกชนและการลงทุนจากต่างประเทศ การขับเคลื่อนนี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นการค้าในระดับภูมิภาค แต่ยังสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม

Bonded Logistics ตอกย้ำบทบาทหยินชวนในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์

หากพิจารณาด้านรูปแบบการค้า การค้าทั่วไปยังคงครองสัดส่วนสูงสุด โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่า การนำเข้าและส่งออกรวม 9.08 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 คิดเป็นร้อยละ 85.4 ของมูลค่าการค้าทั้งหมด ขณะที่ การค้าสินค้าแปรรูป มีมูลค่า 850 ล้านหยวน เติบโตร้อยละ 27.6 คิดเป็นร้อยละ 8 ของมูลค่าการค้ารวม สิ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ โลจิสติกส์คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Logistics) ซึ่งขยายตัวอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 62.6 มูลค่า 700 ล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 6.6 ของการค้าทั้งหมด การเติบโตนี้ตอกย้ำความสำคัญของเขตปลอดภาษี (Comprehensive Bonded Zone) และโครงสร้างพื้นฐานด้านคลังสินค้าในหยินชวน ซึ่งกำลังกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการกระจายสินค้า เชื่อมโยงจีนตะวันตกกับเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และประเทศตามเส้นทาง Belt and Road

คู่ค้าหลักและตลาดศักยภาพ: สหภาพยุโรป RCEP สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง

 

image.png

ในภาพรวมตลาดการค้า สหภาพยุโรป อาเซียน และสหรัฐฯ ยังคงเป็นคู่ค้าหลัก โดยครึ่งปีแรกการค้ากับสหภาพยุโรปขยายตัวถึงร้อยละ 22.6 มูลค่า 1.82 พันล้านหยวน จากความต้องการสินค้าเทคโนโลยีและเกษตร ขณะที่อาเซียนมูลค่า 1.67 พันล้านหยวน ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 2.4 ส่วนการค้ากับสหรัฐฯ หดตัวมากถึงร้อยละ 27 เหลือเพียง 920 ล้านหยวน เป็นผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าและต้นทุนโลจิสติกส์ที่สูงขึ้น  อย่างไรก็ดี ตลาดที่น่าจับตาคือ ตลาดตะวันออกกลางและกลุ่ม RCEP ซึ่งกลายเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนการเติบโต โดยการค้ากับกลุ่มประเทศอาหรับ เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 48.2 สะท้อนความต้องการ ที่สูงขึ้นของสินค้าการเกษตร ผลไม้คุณภาพ วัตถุดิบ และอาหารแปรรูป โดยเฉพาะสินค้าที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยและฮาลาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของผู้บริโภคในตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกัน กลุ่ม RCEP ยังคงมีบทบาทในฐานะตลาดคู่ค้าที่มั่นคง การค้ากับประเทศสมาชิก RCEP มีมูลค่า 3.08 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ได้รับแรงหนุนจากการลดอุปสรรคทางการค้าและสิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งช่วยลดภาษีและเร่งกระบวนการศุลกากร ทำให้การแลกเปลี่ยนสินค้า โดยเฉพาะในหมวดอาหารสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ภาพรวมนี้ ไม่เพียงตอกย้ำศักยภาพของตลาดตะวันออกกลางและ RCEP เท่านั้น แต่ยังสะท้อนบทบาทที่แข็งแกร่งของนครหยินชวน ในฐานะศูนย์กลางกระจายสินค้าของจีนตะวันตก ซึ่งอาศัยความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ และเขตปลอดภาษี เชื่อมโยงไปยังเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และตลาด Belt and Road อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสนอแนะของ สคต. ณ นครเฉิงตู

การเติบโตของการค้าระหว่างประเทศในหยินชวนตอกย้ำบทบาทของนครหยินชวนและเขตปกครองตนเองหนิงเซียหุยในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจเกิดใหม่ของจีนตะวันตก ภายใต้นโยบาย  Belt and Road Initiative (BRI) และการพัฒนาเศรษฐกิจตะวันตกของจีน ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจในพื้นที่   กำลังขยับจากการพึ่งพาทรัพยากรดั้งเดิมไปสู่ การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และมีความสามารถในการแข่งขันระดับสากล 

นอกจากนี้ การเติบโตของ Bonded Logistics ที่ขยายตัวกว่าร้อยละ 62.6 สะท้อนบทบาทสำคัญของเขตปลอดภาษี Yinchuan Comprehensive Bonded Zone ในฐานะศูนย์กลางกระจายสินค้าของจีนตะวันตก จุดแข็งนี้ทำให้หยินชวนก้าวข้ามจากการเป็นเพียง ตลาดท้องถิ่น” สู่การเป็น “ประตูการค้า” ที่เชื่อมโยงจีนตอนในกับเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และยุโรป ผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์สมัยใหม่ และการขนส่งด้วยเส้นทางรถไฟสายจีน–ยุโรป (China–Europe Railway Express) ซึ่งช่วยร่นระยะเวลาและลดต้นทุนการขนส่งอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงดึงดูดสำคัญต่อการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ

สคต.ณ นครเฉิงตู มีความเห็นว่า การพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ในนครหยินชวนเป็นการเปิดโอกาสใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจสู่จีนตะวันตก และต่อยอดไปยังตลาดระหว่างประเทศ โดยการใช้ประโยชน์จากเขตปลอดภาษี Yinchuan Comprehensive Bonded Zone อันจะเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจ ขณะเดียวกัน การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในท้องถิ่น และการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์จะช่วยเสริมความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ตลาดเอเชียกลาง และตะวันออกกลาง ซึ่งมีความต้องการสูงในสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานฮาลาล   ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยควรเร่งใช้จุดแข็ง ด้านคุณภาพและมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และขยายส่วนแบ่งตลาดในระยะยาว

-----------------------------------

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

กรกฎาคม 2568

แหล่งข้อมูล

  https://dofcom.nx.gov.cn/xwzx_274/swdt/202507/t20250722_4968238.html

https://www.kasikornbank.com/th/personal/the-wisdom/articles/pages/economic                                                    

Share :
Instagram