งาน China-Arab States Expo 2025 ครั้งที่ 7 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28–31 สิงหาคม 2568 ณ นครหยินชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้ธีมหลัก “Innovation and Green Prosperity” โดยงานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีนกับประเทศอาหรับ ตลอดจนประเทศในเส้นทาง Belt and Road Initiative (BRI) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลายที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างประเทศ อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการ การจับคู่โครงการด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้จะเน้นความร่วมมือเชิงลึกกับประเทศอัฟกานิสถานในหลากหลายมิติ อาทิ เศรษฐกิจ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการเกษตร รวมถึงการเปิดเวทีสำหรับความร่วมมือใหม่ๆ ที่สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุตสาหกรรมเกมส์ การพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ และอุตุนิยมวิทยาอัจฉริยะ เป็นต้น
งาน China-Arab States Expo 2025 นับเป็นเวทีการค้าและการลงทุนระดับชาติและนานาชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง กระทรวงพาณิชย์จีน สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนและรัฐบาลเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา งาน China-Arab States Expo ได้จัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง ณ นครหยินชวน โดยมีพันธกิจสำคัญในการ “สืบทอดมิตรภาพ กระชับความร่วมมือ บรรลุผลประโยชน์ร่วมกัน และส่งเสริมการพัฒนา” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา งานดังกล่าวได้ต้อนรับผู้เข้าร่วมจาก 112 ประเทศ/ภูมิภาค มีบริษัททั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมกว่า 7,500 บริษัท เกิดการลงนามโครงการความร่วมมือมากถึง 1,616 โครงการ ครอบคลุมหลากหลายสาขา อาทิ เกษตรกรรมสมัยใหม่ เทคโนโลยีขั้นสูง พลังงานและวิศวกรรมเคมี ชีวเภสัชภัณฑ์ การผลิตอุปกรณ์ โครงสร้างพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต สุขภาพ และการท่องเที่ยว เป็นต้น
พื้นที่จัดแสดงภายในงาน The 7th China-Arab States Expo 2025 แบ่งออกเป็น 6 พื้นที่หลัก
1. พื้นที่ความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้แถบเส้นทาง BRI (BRI Cooperation Pavilion) จัดแสดงนิทรรศการของประเทศเจ้าภาพและโครงการความร่วมมือข้ามพรมแดนระหว่างจีนกับประเทศต่าง ๆ ในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) โดยเน้นการเชื่อมโยงในด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และนวัตกรรม พื้นที่นี้ยังแสดงความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลิเบีย เกาหลีใต้ และไทย โดยเน้นการนำเสนอสินค้าคุณภาพและโครงการความร่วมมือที่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
2. พื้นที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Cooperation Pavilion) นำเสนอศักยภาพของแต่ละภูมิภาคในประเทศจีน รวมถึงมณฑล เทศบาลและเขตปกครองตนเอง จัดแสดงอุตสาหกรรมโดดเด่น และเทคโนโลยีขั้นสูง สินค้าที่สะท้อนผลลัพธ์จากความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ BRI และกลุ่มประเทศอาหรับ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีจุดแข็งในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย
3. พื้นที่วิสาหกิจขนาดกลาง (Central SOEs Pavilion) จัดแสดงโครงการความร่วมมือด้านพลังงาน การขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน การแพทย์ และเทคโนโลยี โดยรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีนที่มีบทบาทระดับนานาชาติ อาทิ China Communications Construction, Chalco, CRRC Corporation Limited, China Railway Construction Corporation Limited และ China National Energy Group
4. พื้นที่พลังงานสะอาด (Clean Energy Pavilion) นำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดด้านพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานนิวเคลียร์ แสงอาทิตย์ ลม น้ำ และไฮโดรเจน พร้อมโซลูชันการจัดเก็บพลังงานและการประยุกต์ใช้ในภาคยานยนต์และอุตสาหกรรม บริษัทชั้นนำที่เข้าร่วม ได้แก่ China National Petroleum Corporation, China Huaneng Group, Baofeng Group และ Envision Energy
5. พื้นที่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Pavilion) จัดแสดง 4 นิทรรศการย่อย ได้แก่ (1) นิทรรศการปัญญาประดิษฐ์แสดงเทคโนโลยีพื้นฐานด้าน AI เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ ระบบรักษาความปลอดภัย และโซลูชันสำหรับธุรกิจอัจฉริยะ เป็นต้น โดยมีบริษัทชั้นนำ เช่น Huawei, ZTE, iSoftStone, Loongson, China Telecom และ China Unicom (2) นิทรรศการอุตสาหกรรมเกมส์ นำเสนอเกมคุณภาพสูง เกมส์ใหม่ และการประยุกต์ใช้ AI ในเกม รวมถึงการเร่งความเร็วเกมข้ามพรมแดน โดยมีบริษัทชั้นนำ อาทิ NetEase Games, Tencent Games และ Jordan Tomato Games ฯลฯ (3) นิทรรศการอุตุนิยมวิทยาอัจฉริยะ แสดงเทคโนโลยีระบบเตือนภัยบนคลาวด์ เรดาร์ตรวจอากาศ เครื่องบินทำฝนไร้คนขับ พร้อมผลงานจากหน่วยงานระดับประเทศ เช่น ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ศูนย์ภูมิอากาศแห่งชาติ และบริษัทเทคโนโลยีอุตุนิยมวิทยาชั้นนำ และ (4) นิทรรศการอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน นำเสนอแพลตฟอร์มชื่อดัง อาทิ Amazon, NOON, TEMU, TikTok, Alibaba International Station และ Made-in-China.com พร้อมจัดแสดงแนวโน้มตลาด การชำระเงินข้ามพรมแดน และนวัตกรรมด้านซัพพลายเชน ฯลฯ
6. พื้นที่สินค้าเด่นและนวัตกรรม (Featured Products & Innovation Pavilion)
เปิดเวทีให้กับผู้ประกอบการจากทั่วโลกนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ นวัตกรรม และสะท้อนแนวคิดความยั่งยืน เช่น งานฝีมือท้องถิ่น อาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สีเขียว เทคโนโลยีล้ำสมัย และแนวคิดการออกแบบสร้างสรรค์ ทั้งจากจีนและนานาชาติ ฯลฯ
วิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมงานและสิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าชมงาน
ผู้สนใจเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนเข้าชมงาน China-Arab States Expo 2025 ครั้งที่ 7 ผ่านทางแอปพลิเคชัน WeChat Mini Program ค้นหาชื่อ “中阿博览会E助手” (China-Arab Expo E-Assistant) เพื่อดำเนินการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน หรือ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ทางการของงานและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ : https://www.cas-expo.org.cn/zh/register
ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน China-Arab States Expo 2025 ครั้งที่ 7 จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ รับของที่ระลึกภายในงานและสิทธิ์เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวฟรี ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม - 5 กันยายน2568 ผู้เข้าชมสามารถใช้สิทธิ์เข้าชมแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหลิวผานซาน ทะเลสาบชาหู อุทยานแห่งชาติเหอหลานซาน บ้านพักบนภูเขาหลานอี๋ ถ้ำซู่หมีซาน จุดชมวิวหลิวผานซาน สุสานราชวงศ์เซี่ยตะวันตก ภาพวาดหินโบราณเหอหลานซาน ทะเลสาบหมิงชุย สวนวัฒนธรรมทหารแม่น้ำฮวงโห (สวนนิทรรศการทหาร) และกุนจงโข่ว
ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู
งาน China-Arab States Expo ถือเป็นเวทีการค้าและนิทรรศการระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศอาหรับ ภายใต้บริบทของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ด้วยตำแหน่งที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของหนิงเซี่ยหุย ซึ่งเป็นประตูสู่จีนตะวันตกและพื้นที่ที่มีกลุ่มประชากรมุสลิมจำนวนมาก งานนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการจากนานาประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงตลาดจีน ตลอดจนขยายเครือข่ายธุรกิจไปยังประเทศอาหรับและประเทศภายใต้เส้นทางสายไหม ซึ่งล้วนเป็นตลาดศักยภาพสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารฮาลาล อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และบริการที่มีองค์ประกอบทางวัฒนธรรม (Cultural Diversity) ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้
ในงาน China-Arab States Expo 2025 ครั้งที่ 7 ประจำปีนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู (สคต.) ร่วมกับสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม (สกอ.) ได้นำผู้ประกอบการสินค้าไทยจำนวน 20 รายเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในคูหาประเทศไทย ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างการรับรู้ต่อสินค้าของไทยในตลาดจีนตะวันตกและกลุ่มประเทศอาหรับ ตลอดจนเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และยกระดับภาพลักษณ์สินค้าไทยในระดับนานาชาติ งานนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีสำหรับเจาะตลาดจีนตะวันตกเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจกับกลุ่มประเทศอาหรับที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไทยมีความโดดเด่น เช่น อาหารพร้อมรับประทาน อาหารแช่แข็ง ข้าวหอมมะลิ เครื่องปรุงรส ผลไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ทั้งนี้ สคต. ณ นครเฉิงตู พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้การเข้าร่วมงาน China-Arab States Expo เกิดประโยชน์สูงสุด
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการไทย
-----------------------------------
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
กรกฎาคม 2568
แหล่งข้อมูล
https://dofcom.nx.gov.cn/xwzx_274/tzgg/202507/t20250724_4969949.html