"ชาผสมโซดา" เทรนด์ใหม่ในตลาดเครื่องดื่มจีน!

ที่มารูปภาพ: https://mp.weixin.qq.com/s/vNr2orS6Rkkyj8QwYYwIpw

เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งกระตุ้นให้ตลาดเครื่องดื่มเกิดการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บรรดาแบรนด์ต่าง ๆ ได้ใช้โอกาสนี้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องดื่มคลายร้อน การดำเนินกลยุทธ์เพื่อรักษาและขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงเวลาสำคัญนี้ จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนำเสนอรสชาติใหม่เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่โดดเด่นเพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงธุรกิจด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์ iiMedia.cn รายงานว่า วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ชาชีสและชาผลไม้แบรนด์ CHAGEE (霸王茶姬) ได้เปิดตัวเมนูใหม่ประจำฤดูร้อน “มะกอกยูนนาน (滇橄榄)” พร้อมกันทั่วประเทศ โดยเมนูนี้มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ แบบดั้งเดิมและแบบผสมโซดา ซึ่งแบบผสมโซดาจะช่วยเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของมะกอกยูนนาน (滇橄榄) ทำให้ได้รสชาติที่สดชื่นและมีมิติ เมนูคลายร้อนนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทันทีที่เปิดตัว มีการโพสต์รีวิวมากมายบนโซเชียลมีเดีย และยังขายดีจนหาซื้อยากในหลายสาขา โดยเฉพาะในย่านการค้าชื่อดังบางแห่งถึงกับขายหมดภายในวันเดียว นอกจากนี้ แบรนด์ YidianDian (一点点) ยังได้ร่วมมือกับน้ำแร่ซานเพลลีกรีโน (Sanpellegrino) จากอิตาลี เปิดตัวชาผสมโซดา 2 รสชาติ ได้แก่ รสองุ่นและรสส้มโอคู่ โดยใช้ชาดอกมะลิที่ผ่านการอบ 6 ครั้งเป็นเบส (ชา 六窨茉莉花茶)

เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มชาในประเทศจีนเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว อุตสาหกรรมเครื่องดื่มชาจึงก้าวเข้าสู่ระยะของการแข่งขันในตลาดเดิม (Saturated Competition) ส่งผลให้การแข่งขันระหว่างแบรนด์ต่าง ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากกลยุทธ์การปรับลดราคาแล้ว แต่ละแบรนด์ยังต้องแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตผ่านวิธีการที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาสินค้าใหม่ การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่แปลกใหม่ และการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ

จากข้อมูลระบุว่า ในปี 2567 มูลค่าตลาดเครื่องดื่มชาผสมโซดาของจีนอยู่ที่ 354,720 ล้านหยวน (ประมาณ 1.702 ล้านล้านหยวน) ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้ได้เปลี่ยนผ่านจากช่วงเริ่มต้นที่เน้นการขยายตัวอย่างรวดเร็วและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด มาสู่ระยะใหม่ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการและการแข่งขันในตลาดเดิมเป็นหลัก ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมชามีความคล้ายคลึงกันสูง ทำให้การแข่งขันมีความดุเดือดมากขึ้น และตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว คาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดเครื่องดื่มชาแนวใหม่ของจีนจะยังคงมีการเติบโตในระดับที่คงที่และมีเสถียรภาพ โดยมีแนวโน้มที่จะทะลุ 400,000 ล้านหยวน (ประมาณ  1.920 ล้านล้านหยวน) ภายในปี 2571

ที่มารูปภาพ: https://www.iimedia.cn/c1088/106699.html

   จากข้อมูล โครงสร้างการแข่งขันในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มชาผสมโซดาของจีนมีลักษณะเป็นทรงพีระมิด โดยมีแบรนด์ Mixue Bingcheng (蜜雪冰城) เป็นผู้นำสูงสุดในตลาดด้วยจำนวนสาขากว่า 10,000 แห่ง ตามมาด้วยกลุ่มแบรนด์ระดับกลางที่มีสาขา 5,000 - 10,000 แห่ง เช่น Gu Ming (古茗) Chabaidao (茶百道) และ Hushang Ayi (沪上阿姨) ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มราคาตลาดทั่วไป ขณะเดียวกัน ส่วนฐานของพีระมิดกลับเต็มไปด้วยแบรนด์ขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสาขาเพียง 50 - 200 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดภายในตลาดในกลุ่มแบรนด์เหล่านี้

ที่มารูปภาพ: https://www.iimedia.cn/c1088/106699.html

      ในฐานะกลุ่มย่อยของเครื่องดื่มประเภทใหม่ ชาผสมโซดายังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาตลาด และยังไม่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้บริโภคยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้อย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม การมาถึงของช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูกาลที่มีการบริโภคสูงสุด ถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายความต้องการของตลาด

ปัญหาหลักที่จำกัดการพัฒนาชาผสมโซดาในปัจจุบันคือ ความเสถียรของกระบวนการผลิตและการยกระดับคุณภาพของสินค้า เนื่องจากวิธีการผลิตที่แตกต่างกันส่งผลให้ความคงอยู่ของฟอง รสชาติ และประสิทธิภาพในการผลิตมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการอัดแก๊ซโดยตรงนั้น แม้จะสามารถรักษารสชาติและมิติของชาได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูง มาตรฐานการปฏิบัติงาน และกระบวนการที่เป็นระบบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคทางเทคนิคสำคัญของอุตสาหกรรม

เป็นที่น่าสังเกตว่า นักวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ต่างมองเห็นศักยภาพในระยะยาวของชาผสมโซดา โดยมองว่าคุณสมบัติ “เบาและดีต่อสุขภาพ” ของผลิตภัณฑ์นี้ตอบโจทย์ความต้องการด้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างแม่นยำ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านนวัตกรรมกระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ และการสร้างมาตรฐาน เพื่อยกระดับความเสถียรของสินค้าและประสบการณ์ของผู้บริโภคให้ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนเครื่องดื่มตามฤดูกาลนี้ให้กลายเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความยั่งยืนในระยะยาวได้ในที่สุด

ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้

จากข้อมูลตลาดเครื่องดื่มชาในประเทศจีน ที่เข้าสู่ภาวะอิ่มตัวกำลังมองหาความแปลกใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นโอกาสในการเข้าสู่ตลาด ผู้ประกอบการจึงควรลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีความแตกต่าง เช่น เครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติ “เบาและดีต่อสุขภาพ” เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความเสถียรของกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพสินค้า รวมถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดร่วมมือกับแบรนด์อื่นหรือใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้ และการศึกษาโครงสร้างตลาดอย่างลึกซึ้ง เพื่อวางแผนกลยุทธ์การแข่งขันได้อย่างเหมาะสม

___________________________________________________________________________________

จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้

วันที่ 18 สิงหาคม 2568

แหล่งที่มา

https://www.iimedia.cn/c1088/106699.html