fb
พี่น้องตระกูล Oetker เพิ่มยอดขาย
โดย
thanith@ditp.go.th
ลงเมื่อ 21 กรกฎาคม 2568 15:27
34

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัท Oetker Beteiligungen KG (ของพี่น้องตระกูล Oetker) ได้ออกมาประกาศว่า ในปี 2024 บริษัทฯ มียอดขายรวม 2.6 พันล้านยูโรหรือเพิ่มขึ้น 2.3% จากปีก่อนหน้า โดยการเติบโตของบริษัทฯ ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน (ในปี 2023 ยอดขายเพิ่มขึ้น 1% และในปี 2022 ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 18%) นอกจากนี้ ยังได้ประกาศเพิ่มเติมอีกว่า จะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Oetker Collection KG อีกด้วย ซึ่งในเดือนกันยายนปี 2024 นาง Julia Oetker ได้ก้าวลงจากตำแหน่งผู้ถือหุ้น (Julia เป็นบุตรคนที่ 3 จากการแต่งงานครั้งที่ 3 ของนาย Rudolf-August Oetker) ในระหว่างที่นาย Alfred และนาย Ferdinand Oetker พี่ชายทั้งสองคนของเธอยังคงดำรงตำแหน่งผู้บริหารกลุ่มบริษัทต่อไป ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2021 บริษัทฯ ได้แยกตัวผ่านแผนกธุรกิจทางกายภาพ (Physical Business) ออกจากกลุ่มบริษัท Dr.-Oetker-Gruppe เดิม ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานราว 8,300 คน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 300 คนจากปี 2021 โดยนาย Harald Schaub ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของกลุ่มบริษัทนับตั้งแต่การแยกตัวออกมา รายได้มากกว่าสามในสี่ของกลุ่มบริษัทมาจากบริษัทย่อยในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจใน 37 ประเทศ 

สำหรับ ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ ปัจจุบันดำเนินการภายใต้ชื่อ Oetker Collection KG หรือหลัก ๆ จากบริษัทลูกHenkell Freixenet ผู้ผลิตไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine) รายใหญ่ที่สุดของโลกทั้งในด้านรายได้และยอดขาย โดยบริษัทฯ จัดหาสินค้าให้กับ 140 ประเทศ และจากข้อมูลของบริษัทเอง พบว่า ยังเป็นผู้ผลิตไวน์สปาร์คกลิ้งปราศจากแอลกอฮอล์รายใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย Henkell Freixenet มีรายได้เพิ่มขึ้น 1.5% เป็น 1.25 พันล้านยูโร ในปี 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับธุรกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของบริษัท คือ ธุรกิจส่วนผสมสำหรับทำเบเกอรี่ ภายใต้กลุ่มบริษัท Martin Braun ในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 บริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 5% เป็น 714 ล้านยูโร นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท Martin Braun ยังได้เข้าซื้อกิจการ Hoff's Bakery ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ซื้อในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม แผนก Specialty Chemicals ภายใต้ชื่อ Budenheim ของบริษัทฯ มียอดขายลดลงเล็กน้อยหรือเกือบ 1.6% เหลือ 432 ล้านยูโร โดยบริษัทอ้างว่า สาเหตุมาจากราคาตลาดที่ลดลง นอกจากนี้ธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัท Oetker ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานภายใต้ชื่อบริษัท Oetker Collection ในบริษัทมมีโรงแรมที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษอย่างโรงแรม “Le Bristol” ซึ่งรวมถึงโรงแรมหรูใจกลางกรุงปารีส และโรงแรม “Eden Rock ” ในเกาะแซ็ง-บาร์เตเลมี โดยรวมแล้วในปีที่ผ่านมาโรงแรมพวกนี้สร้างรายได้รวมให้กับบริษัท 139 ล้านยูโร ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.9% รายได้ต่อห้องทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,170 ยูโร ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 กลุ่มบริษัทฯ ยังวางแผนที่จะเปิดโรงแรมแห่งแรกในสหรัฐอเมริกานามว่า  The Vineta” ที่ปาล์มบีชในรัฐฟลอริดาอีกด้วย ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีตัวแทนธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกาและหน่วยธุรกิจทั้งหมด โดยได้มีการตั้งกลุ่มบริษัทนามว่า Columbus Properties ซึ่งเป็นบริษัทการตลาดเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสำนักงาน ขึ้นในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าความต้องการในปัจจุบันจะยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนาเนื่องจากเทรนด์ Homeoffice แต่จากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในเมืองฟีนิกซ์รัฐแอริโซนาบริษัทดังกล่าวก็ยังสามารถทำยอดขายได้เป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ 7 แห่ง รวมถึงบริษัท Win-Win ซึ่งเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทดแทนโกโก้ ด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทดังกล่าวก็ไม่ได้เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ให้ทราบ

 

จาก Handelsblatt 21 กรกฎาคม 2568

Share :
Instagram