ตามข้อมูลจากสำนักงานแรงงานเช็ก ตัวเลขอัตราการว่างงานของสาธารณรัฐเช็กลดลงเล็กน้อย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 โดยมีผู้ลงทะเบียนว่างงาน จำนวน 315,465 คน ซึ่งลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2568 และนับเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันที่ตัวเลขการว่างงานลดลง เป็นผลมาจากการจ้างงานตามฤดูกาลในภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ช่วงฤดูร้อนการจ้างงานจะฟื้นตัวเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคโลจิสติกส์ การบริการ และการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม นายจ้างยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจ โดยเสนอตำแหน่งงานพาร์ทไทม์และสัญญาจ้างชั่วคราวมากขึ้น แทนที่จะเป็นตำแหน่งงานประจำ เป็นการบ่งชี้ว่าแม้ว่าธุรกิจต่างๆ จะตอบสนองต่อความต้องการตามฤดูกาล แต่ธุรกิจเหล่านี้ยังคงมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคต
นอกจากนี้ ข้อมูลที่รวบรวมโดยบริษัทวิเคราะห์ Dun & Bradstreet รายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีผู้ประกอบการเกือบ 46,000 ราย ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และเป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่จำนวนผู้ประกอบการในสาธารณรัฐเช็กทะลุ 2 ล้านราย และยังคงเป็นแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งในการประกอบอาชีพอิสระ/เจ้าของธุรกิจ โดยผู้ประกอบการต่างชาติมีบทบาทสำคัญในการเติบโตนี้ “ประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ลงทะเบียนใหม่มาจากพลเมืองยูเครน และ 3 เปอร์เซ็นต์มาจากชาวสโลวัก” Mrs. Katerina Klosová ประธานกรรมการบริหารของ Dun & Bradstreet สาขาสาธารณรัฐเช็ก กล่าว ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าสนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยปี 2566 สาธารณรัฐเช็กมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 80,000 ราย ขณะที่ปี 2567 มีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเกือบ 91,500 ราย ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ Klosová ระบุว่า ผู้ประกอบการมีความสนใจในธุรกิจอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็ก โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจใหม่จะตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในพื้นที่เฉพาะ ซึ่งช่วยยกระดับทั้งความพร้อมในการให้บริการและคุณภาพ ปัจจุบันสาธารณรัฐเช็กมีผู้ถือใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่จดทะเบียนแล้ว 2,007,596 ราย แม้ว่าจะมีเพียงประมาณ 1.2 ล้านราย (ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์) ที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่
ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว E15 ของสาธารณรัฐเช็ก บริษัท Cato Networks ของอิสราเอล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เทลอาวีฟ เป็นที่รู้จักในการสร้างโมเดล Secure Access Service Edge (SASE) ซึ่งผสานรวมระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยไว้ในแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว มีรายได้ในปี 2567 จำนวน 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบกับข้อมูลจาก IT Pro ระบุว่าบริษัท Cato Networks ให้บริการลูกค้าองค์กรมากกว่า 3,000 รายทั่วโลก ทั้งนี้ บริษัท Cato Networks ได้เปิดสำนักงานในกรุงปรากเมื่อปี 2567 และมีแผนในการขยายการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในกรุงปรากครั้งใหญ่ โดยจะลงทุนเพิ่มเติมกว่า 7,000 ล้านเช็กคราวน์ หรือประมาณ 11,200 ล้านบาท รวมถึงวางแผนที่จะจ้างวิศวกรท้องถิ่นเพื่อขยายทีมงานในสาธารรรัฐเช็กที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชันความปลอดภัยบนคลาวด์ ซึ่งการก่อตั้งบริษัทที่กรุงปรากเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานของบริษัท Cato Networks ที่จะขยายการดำเนินงานในยุโรปและเร่งพัฒนานวัตกรรมในสาขาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเห็นว่ากรุงปรากเป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม “เรามองว่ากรุงปรากเป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์สำหรับนวัตกรรมและบุคลากรที่มีความสามารถ โดยกรุงปรากอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรองรับการเติบโตและแผนการของเราอย่างรวดเร็ว” Mr. Shlomo Kramer ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Cato Networks กล่าว “การขยายตัวของเราที่นี่สะท้อนให้เห็นถึงแรงงานคุณภาพสูงและศักยภาพของเมืองในการมีอิทธิพลต่ออนาคตของความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์” นอกจากนี้ E15 ยังรายงานว่าบริษัท Cato Networks วางแผนที่จะเสนอสิทธิในการซื้อหุ้นให้กับพนักงานในปราก ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักจากธุรกิจสตาร์ทอัพในตลาดแรงงานของสาธารณรัฐเช็ก โดยสิทธิประโยชน์นี้และการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก บริษัท Cato Networks คาดการณ์ว่าจะนำมาซึ่งผลตอบแทนทางการเงินที่สำคัญสำหรับพนักงานในท้องถิ่น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมมองว่าการลงทุนและแผนการจ้างงานที่สำคัญของบริษัท Cato Networks เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่กว้างขึ้นของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกที่ขยายกิจการในยุโรปกลางเพื่อเข้าถึงแรงงานเทคโนโลยีที่มีทักษะในภูมิภาค ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของปรากในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีกำลังดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.
จากบทความที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจเช็กมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและมีความน่าสนใจในหลากหลายมิติ อาทิ การจ้างงานที่ยืดหยุ่น เช่น งานพาร์ทไทม์และสัญญาจ้างชั่วคราว ที่ผู้ประกอบการไทยอาจพิจารณานำมาปรับใช้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เกษตรกรรม หรือบริการ เพื่อควบคุมต้นทุนในช่วงเศรษฐกิจผันผวน และตอบสนองต่อความต้องการตามฤดูกาลได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ การเข้ามาของบริษัท Cato Networks แสดงให้เห็นว่าเมืองอย่างปรากดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกด้วยแรงงานที่มีทักษะและต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ ดังนั้น การเรียนรู้จากบริบทของสาธารณรัฐเช็กสามารถเปิดมุมมองใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจของไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กและอาชีพอิสระ การปรับตัวด้วยการจ้างงานแบบยืดหยุ่น ความสำคัญของนวัตกรรมและบุคลากรมีทักษะ รวมถึงการเตรียมตัวเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและโอกาสทางธุรกิจต่างๆ สำหรับการขยายตลาดไปยังสหภาพยุโรป (EU) ผู้ประกอบการไทย ต้องเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน เพราะตลาดยุโรปมีมาตรฐานสูง ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย กฎหมายสิ่งแวดล้อม และสิทธิแรงงาน ดังนั้น จึงต้องทำความเข้าใจ "กฎระเบียบและมาตรฐาน" ของสหภาพยุโรป วิเคราะห์ความต้องการเฉพาะของแต่ละประเทศ สร้างความแตกต่างด้านเรื่องราวของสินค้า (Storytelling) พัฒนาแบรนด์ และช่องทางออนไลน์ รวมถึงให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และจริยธรรมของแบรนด์