ที่มา : สำนักข่าว Business Times
อินเดียและจีน ซึ่งเป็นสองประเทศผู้นำเข้าน้ำมันพืชรายใหญ่ของโลก ได้เพิ่มการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยเฉพาะอินเดียที่มียอดนำเข้าเพิ่มขึ้นกว่า ร้อยละ 84จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ขณะเดียวกัน จีนก็มีการเร่งการนำเข้าน้ำมันปาล์มเช่นกัน อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันปาล์มที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงต้นไตรมาส และเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความผันผวนของวัตุดิบในช่วงครึ่งหลังของปี
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดมาเลเซียจึงปรับขึ้นมาอยู่ในช่วงราคาประมาณ 3,900–4,200 ริงกิตต่อตัน แม้ว่าสต็อกในประเทศจะยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการของรัฐบาลอินเดียที่ลดภาษีนำเข้าชั่วคราว เพื่อควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ ขณะที่จีนมีเป้าหมายในการจัดเก็บสำรองอาหารและวัตถุดิบเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านปริมาณและราคาในประเทศตนเอง ซึ่งมาเลเซียได้รับความเชื่อมั่นในฐานะผู้ผลิตที่มีคุณภาพและราคาที่แข่งขันได้
การส่งออกน้ำมันปาล์มที่เพิ่มขึ้น หนุนภาคเกษตรในรัฐซาบาห์ ยะโฮร์ และปะหัง ขยายการผลิตและแปรรูป ขณะที่ภาคโลจิสติกส์เติบโตตามคำสั่งซื้อจากตลาดเอเชีย ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวในยุโรปและสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับสูงขึ้น ยังเพิ่มรายได้ภาครัฐจากการส่งออก หนุนแผนพลังงานชีวภาพและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ขณะเดียวกัน ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำมันปาล์มในเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวตามกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์ผลกระทบ
การเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อน้ำมันปาล์มจากอินเดียและจีนในช่วงไตรมาสที่สอง ส่งผลเชิงบวก
ต่อเศรษฐกิจมาเลเซียอย่างชัดเจน โดยช่วยระบายสต็อกในประเทศ หนุนราคาน้ำมันปาล์มให้อยู่ในระดับที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และกระตุ้นกิจกรรมในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ภาคเกษตรกรรม การแปรรูปจนถึงภาคโลจิสติกส์และการขนส่ง ในขณะที่ฝั่งไทยได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยด้านหนึ่งอาจเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันพืชที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและสินค้าอุปโภคบริโภคที่พึ่งพาน้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ไทยยังมีโอกาสในการขยายบทบาทในห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค เช่น ด้านโลจิสติกส์ บรรจุภัณฑ์ หรือการร่วมลงทุนกับภาคการแปรรูปในมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดเอเชียมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ
ข้อเสนอแนะต่อภาคธุรกิจไทย
สำนักงานฯ มีความเห็นว่า ผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร น้ำมันพืช และสินค้าอุปโภค ควรติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด พร้อมพิจารณาปรับแผนจัดซื้อหรือสร้างความร่วมมือกับคู่ค้าในมาเลเซีย เพื่อประโยชน์ด้านต้นทุนและความมั่นคงด้านวัตถุดิบในระยะยาว
クアラルンプールの海外貿易促進事務所