ชาไทยกลับมาสร้างกระแสในตลาดเครื่องดื่มจีนอีกครั้งในช่วงฤดูร้อนปีนี้ โดยมีแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศนำเสนอผลิตภัณฑ์ชาไทยรูปแบบใหม่ ๆ เช่น ชาไทยชีส ที่ทำยอดขายสูงถึง 200,000 แก้วภายใน 3 สัปดาห์ในจีน ชาไทยยังเป็นที่นิยมบนแอพพลิเคชั่น RedNote โดยมียอดวิวเนื้อหาเกี่ยวกับชาไทยมากกว่า 260 ล้านครั้ง และมียอดคลิปวิดีโอสั้นผ่านแอพพลิเคชั่น TikTok รวมถึง 750 ล้านครั้ง
ชาไทยเป็นเครื่องดื่มที่ถูกปากผู้บริโภคเป็นอย่างมากเนื่องจากรสชาติที่หอมหวานและสามารถทำเมนูได้หลากหลายซึ่งและทำให้ชาไทยนั้นเป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนความเป็นไทย ชาไทยเป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดจากการใช้ใบชาจีนแบบดั้งเดิม แต่เนื่องจากรสชาติที่ขมและเข้มข้นเกินไป คนไทยจึงปรับเปลี่ยนรสชาติของชาโดยเพิ่มนมและน้ำตาลเพื่อให้มีรสชาติที่หอมหวานและกลมกล่อม จนกลายเป็นชาไทยที่ทุกคนรู้จักกันในวันนี้
( ภาพและแหล่งที่มา: RedNote ) |
ทำไมชาไทยจึงกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง
เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์ที่ชาไทยกลับมาเป็นกระแสในจีนอีกครั้ง พบว่า ชาไทยมีการปรับสูตรให้เข้ากับความนิยมและพฤติกรรมผู้บริโภคโดยยังคงรักษาจุดเด่น ดังนี้
- รสชาติที่เข้มข้นของชาไทยทำให้ผู้บริโภคจีนได้รับความรู้สึกที่แตกต่างจากกระแสเครื่องดื่มชาแนวใหม่ ในขณะที่กระแสนวัตกรรมในเครื่องดื่มชาแนวใหม่เริ่มที่จะหดตัวลง ชาไทยสามารถให้รสชาติที่แปลกใหม่กับตลาดผู้บริโภคจีน
- ชาไทยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ทำให้ชาไทยเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในตลาดผู้บริโภคจีน เนื่องจากมีรสชาติที่หอมหวาน อีกทั้งยังมีสีสันที่สะดุดตาและสามารถนำไปปรับแต่งให้เข้ากับวัฒนธรรมของแต่ล่ะพื้นที่ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการผสมกับวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น กาแฟ น้ำมะพร้าว หรือน้ำผลไม้ ส่งผลให้ชาไทยกลายเป็นกระแสใหม่ที่ร้านเครื่องดื่มให้ความสนใจและนำไปสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
- ชาไทยได้มีวิธีการนำเสนอที่หลากหลายยิ่งขึ้น และยังสามารถคงความอร่อยและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคจีนสามารถมั่นใจได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ
นวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากชาไทย
เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา 2568 ร้าน YAKE & YASI ได้ปล่อยเครื่องดื่ม 3 เมนูใหม่ ได้แก่ ชาไทยผสมไข่มุกน้ำตาลทรายแดง ชาเขียวผสมมะนาวสไตล์ไทย และชาไทยชีส เมนูเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ ชาไทยยังได้รับการประยุกต์และผสมกับวัตถุดิบหลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคจีน เช่น เต้าฮวยนมสดชาไทย ชาไทยไอศกรีมโฟลท และชาไทยชีสหลากหลายรสชาติ
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มชี้ว่าชาไทยมีศักยภาพสูงและสามารถสร้างเป็นหมวดหมู่สินค้าใหม่ในตลาด ด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและรสชาติที่ต่อยอดได้ แม้คาดการณ์ว่าจะมีผู้เล่นหน้าใหม่นำเสนอชาไทยรูปแบบต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น แต่ความท้าทายสำคัญคือการเปลี่ยนจากกระแสความนิยมตามเทรนด์ชั่วคราวให้เป็นความนิยมที่ต่อเนื่องและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในระยะยาว
ดังนั้น กุญแจสู่ความสำเร็จจึงอยู่ที่กลยุทธ์การปรับตัวให้เข้ากับท้องถิ่น โดย นายได่ เจี้ยนโป หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของแบรนด์ Bing Li Wang ได้เสนอแนวทางที่น่าสนใจว่า ผู้ประกอบการควรคงรสชาติอันเป็นหัวใจของชาไทย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นโดยนำชาท้องถิ่นระดับพรีเมียมเข้ามาผสมผสาน และที่สำคัญคือการปรับรสชาติเพื่อเข้าถึงตลาดวงกว้าง ด้วยการลดความเข้มข้นของใบชาลงให้เหลือเพียงกลิ่นอายเบา ๆ เพื่อสร้างการจดจำที่ง่ายและตอบโจทย์ผู้บริโภคจีนส่วนใหญ่
( ภาพและแหล่งที่มา: KAMEN ) |
ความคิด/ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู
ท่ามกลางกระแสชาไทยที่กลับมาได้รับความนิยมในตลาดจีนอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ถือเป็นจังหวะสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับชาไทยหรือสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไทยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพให้สอดรับกับรสนิยมผู้บริโภคชาวจีน เช่น การใช้ชาแท้ไม่แต่งกลิ่น การพัฒนาเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่มีน้ำตาลต่ำและแคลอรี่ต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในจีนที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
การนำเสนอสินค้าในตลาดผู้บริโภคจีนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง TikTok และ RedNote สามารถเป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารแบรนด์ โดยการสร้างแคมเปญการตลาดที่สามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เช่น การสร้างคอนเทนต์รีวิว การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน หรือการเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ดื่มชาไทย เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์และสร้างภาพจำให้กับชาไทยในฐานะเครื่องดื่มที่ทั้งอร่อย มีเอกลักษณ์ และดีต่อสุขภาพ
ดังนั้น กระแสความนิยมชาไทยในจีนจึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับชาไทย ตลอดจนสินค้า/บริการที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยเพื่อขยายตลาดในประเทศจีน ซึ่งกำลังให้ความนิยมสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการส่งเสริม Soft Power ของไทย โดยการนำจุดแข็งด้านเอกลักษณ์ของสินค้าไทยมาผสานเข้ากับกลยุทธ์การตลาดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับสินค้าไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดจีน
———————————–
成都の海外貿易促進オフィス
มิถุนายน 2568
แหล่งข้อมูล:
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1834246858183827892&wfr=spider&for=pc